‘อแมนด้า’ ท็อป 10 มิสยูนิเวิร์ส เปิดใจพร้อมเข้าวงการบันเทิง เขินมีคนรู้ใจ
หลังคว้าตำแหน่งท็อป 10 ผู้หญิงที่สวยที่สุดในจักรวาลเวทีประกวดมิสยูนิเวิร์ส 2020 ที่รัฐฟลอริด้า สหรัฐอเมริกา อแมนด้า ออบดัม มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2020 ก็สามารถคว้าใจคนไทยและทั่วโลกไปครองอย่างล้นหลาม เพียงชั่วข้ามคืนยอดผู้ติดตามอินสตาแกรมพุ่งทะลุล้าน และเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ อย่างไม่มีอะไรมาเบรกความฮ็อตของเธอได้
และทันทีที่อแมนด้า พร้อมทีมทีพีเอ็น กลับถึงประเทศไทยเมื่อกลางเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา เธอก็เข้าสู่การกักตัวตามมาตรการความปลอดภัยจากไวรัสโควิด-19 ที่โรงแรมเซ็นทารา วอเตอร์เกต พาวิลเลียน ซึ่งตลอด 14 วัน สาวอแมนด้าไม่ได้หายไปไหน เธอไลฟ์สดแต่งหน้า พูดคุยกับแฟนนางงาม และให้สัมภาษณ์สื่อต่างๆ เรียกว่า วินาทีนี้ไม่มีใครฮ็อตไปกว่าเธอแล้ว
ล่าสุดวันนี้ (4 มิถุนายน) อแมนด้ากักตัวครบ 14 วันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดย อแมนด้า ได้แถลงข่าวเปิดใจที่บริเวณด้านหน้าโรงแรมเซ็นทารา วอเตอร์เกต พาวิลเลียน ด้วยรอยยิ้มสดใสและเป็นกันเอง ว่า เมื่อคืนตื่นเต้นนอนไม่หลับ เพราะรู้ว่าวันนี้ได้ออกแล้ว ตอนกักตัวไม่เบื่อ เพราะแต่ละวันทำคอนเทนต์ต่างๆ ทำให้ไม่มีวันไหนที่เหงาเลย
“สำหรับการประกวดมิสยูนิเวิร์สที่ผ่านมา ด้าไปด้วยมายด์เซ็ทที่อยากทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ไม่อยากแบกความหวังใคร แต่ไปด้วยความสุขและรอยยิ้มในฐานะตัวแทนประเทศไทย ทำให้ทุกวันที่ทำกิจกรรมกับกองมิสยูนิเวิร์ส ด้ามีความสุขทุกวัน แม้วันไหนนอนน้อย แต่ก็ยังดีใจที่ไปอยู่ตรงนั้น ด้ามีความสุขทุกย่างก้าวที่อยู่ตรงนั้น สนุกกับทุกกิจกรรม ทุกก้าวที่ยืนบนเวทีมันคือความภาคภูมิใจที่ผู้หญิงคนหนึ่งมาจุดนี้ได้ นี่คือความฝันเลย”
ถามถึงการไปไม่ถึงท็อป 5 อแมนด้า กล่าวว่า ด้าบอกกับตัวเองว่าจะทำให้ดีที่สุด เสียใจไหมก็มีบ้าง เราทำเต็มที่แล้ว แต่ถ้าให้ด้ากลับไปเปลี่ยนอะไร ด้าไม่สามารถทำได้ เพราะทำดีที่สุดที่ตัวด้าจะทำได้แล้ว เพราะฉะนั้นไม่มีอะไรที่จะต้องเสียดายหรือเสียใจเพราะเราทำดีที่สุดแล้ว และเราไม่รู้ว่าใครเป็นผู้ชนะ มันนอกเหนือการควบคุมของเราเอง
“เพราะฉะนั้น ไม่เป็นไร เราทำหน้าที่ดีที่สุดแล้ว เรารู้ตัวเองดี และคนดูก็รู้ด้วย เพราะฉะนั้นมันไม่มีอะไรที่จะต้องเสียใจ เพราะนั่นคือส่วนหนึ่งของชีวิต คือส่วนหนึ่งของการแข่งขัน ไม่ว่าจะเป็นเวทีนางงาม หรือกีฬาก็ตาม มันก็ต้องมีผู้แพ้ผู้ชนะ แต่การที่เราไม่ได้มงกุฎมันไม่ได้แปลว่าเราแพ้ แต่มันก็คืออีกแค่ย่างก้าวหนึ่งที่อาจจะไปสู่ประตูอื่น หรือความสำเร็จอย่างอื่นก็ได้”
อแมนด้า กล่าวถึง ดราม่าเรื่องผู้ชนะเลิศ แอนเดรีย เมซา มิสยูนิเวิร์ส 2020 ที่ถูกวิพากวิจารณ์หลายอย่าง ว่า ทุกอย่างมีแพ้มีชนะ เธอเป็นผู้ชนะ เราพูดอะไรไปตอนนี้ เราไม่สามารถเปลี่ยนผู้ชนะได้ เราควรให้เกียรติเธอในฐานะที่เป็นมิสยูนิเวร์ส 2020 เพราะฉะนั้นก็อยากจะให้ทุกคนให้เกียรติซึ่งกันและกันดีกว่า
สำหรับก้าวต่อไปนับจากนี้ อแมนด้า กล่าวว่า มีนัดคุยกับผู้ใหญ่เรื่องอนาคตในวงการ ถ้ามีผู้ใหญ่ใจดีเปิดประตูรับ ซึ่งตัวด้าก็สนใจวงการบันเทิง น่าจะเป็นเส้นทางที่มีความสุข จะละครหรือภาพยนต์ก็ได้ โดยบทที่คิดว่าน่าสนุกคือบทผี
ก่อนพูดติดตลกว่า แพลนต่อไปจากนี้ “จะกลับคอนโดไปซักผ้า” (หัวเราะสดใส)
“ส่วนยำแซลมอนยังไม่ได้กิน เพราะแซลมอนที่อยากกินเป็นแซลมอนดิบ และการกักตัวไม่ให้ทานของดิบ เพราะฉะนั้นไม่วันนี้ก็พรุ่งนี้”
สำหรับโครงการ “Have You Listened” ช่วยเหลือผู้ป่วยซึมเศร้า อแมนด้า ยืนยันที่จะทำต่อไป ฝากติดตามผ่านอินสตาแกรม และยังคงจะทำงานกับมูลนิธิกระจกเงา และถ้ามูลนิธิไหนติดต่อมาก็พร้อมจะร่วมงาน
ถามถึงคนรู้ใจที่มีภาพเผยแพร่ออกมาที่สนามบิน อแมนด้ายิ้มเขินแล้วบอกว่า “ค่ะ นั่นแหละ”
หัวใจไม่ว่าง? เธอตอบ “หัวใจยังแฮปปี้ดี”
ไม่โสด? เธอก็ว่า “ไม่บอก ขอพูดเรื่องงานนะคะ ก็เป็นกำลังใจที่ดีให้กัน คบกันมานานแล้ว แฮปปี้ดี ไม่ว่าจะทำอะไรก็ซัพพอร์ต แต่การที่เราจะหาใครสักคนหนึ่ง ต้องคอยให้กำลังใจซึ่งกันและกัน คอนซัพพอร์ตไม่ว่าความฝันเค้าคืออะไร ต้องคอยอยู่เคียงข้าง คอยผลักดันซึ่งกันและกัน นั่นคือสิ่งที่ด้าคิดว่า สำคัญที่สุด”
สำหรับแฟนๆ นางงามที่ติดตามเธอ อแมนด้ากล่าวขอบคุณและเผยว่า ทุกอย่างมีแพ้มีชนะ ปีนี้เราก็ถือว่า เราทำให้สายสะพายไทยแลนด์ตรองขึ้น ก็อยากบอกทุกคนไม่ต้องเสียใจ ด้าโอเค ด้าพร้อมสำหรับประตูบานอื่น บานนี้ไม่เปิดไม่เป็นไร เราไปบานอื่นได้ และแง้มว่า อยากจัดแฟนมีตติ้งมาก แต่ด้วยสถานการณ์จัดไม่ได้ แต่ถ้าจัดในอนาคต ทุกคนต้องรู้แน่นอน
สุดท้าย อแมนด้า ส่งกำลังใจถึงทีมแพทย์พยาบาลที่กำลังปฏิบัติหน้าที่ต่อสู้กับโควิด-19 ว่า “ด้วยสถานการณ์หลายๆ อย่าง โควิดยังเป็น เรื่องที่ค่อนข้างน่าเป็นห่วง ยังเป็นเรื่องที่ซีเรียส ก็อยากให้กำลังใจบุคลากรทางการแพทย์ทุกคน ด้าอยากขอบคุณที่เป็นฮีโร่ตัวจริง”
“เพราะในโลกเรานี้ เราไม่ต้องการสไปเดอร์แมน ซูเปอร์แมน หรือใครทั้งนั้น แต่คุณคือฮีโร่สำหรับพวกเรา ด้าอยากเป็นกำลังใจเล็กๆ ให้ขอให้พวกเราทุกคนผ่านสถานการณ์แย่ๆ นี้ออกไปให้ได้ และถึงทุกคนในประเทศไทย การ์ดอย่าตก หมั่นใส่แมสก์ พ่นสเปรย์แอลกอฮอล์ ด้าเชื่อว่า เราจะผ่านทุกอย่างไปได้ด้วยกัน”
