โควิด ‘เพิ่มยอด’ หญิงทำแท้ง ถูกหลอกขายคุม-เสี่ยงมดลูกแตก

โควิด ‘เพิ่มยอด’ หญิงทำแท้ง ถูกหลอกขายคุม-เสี่ยงมดลูกแตก

การแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้ทำให้สถานการณ์ปัญหาอื่นๆ ถูกกลบความรับรู้ไป อย่างเรื่อง “ยุติการตั้งครรภ์ หรือทำแท้ง” ที่เพจเฟซบุ๊กเครือข่าย RSAthai ท้องไม่พร้อม ออกมาส่งเสียงว่า “ช่วงโควิดมีหลอกขายยาทำแท้งเยอะมาก ไม่ส่งยา ยาไม่มีคุณภาพ ไม่ดูแลระหว่างใช้ หลังใช้ กังวลท้องไหม เมนส์ไม่มา รีบตรวจ รีบปรึกษา”

สมวงศ์ อุไรวัฒนา รองผู้อำนวยการมูลนิธิเข้าถึงเอดส์ และหัวหน้าสายด่วนปรึกษาเอดส์และท้องไม่พร้อม 1663 เล่าว่า จริงๆ การยุติการตั้งครรภ์ หรือทำแท้ง มีมานานแล้ว สมัยก่อนไม่มีอะไรรองรับเลย จึงต้องไปค้นหาตามอินเตอร์เน็ต อย่างยาที่ใช้ยุติการตั้งครรภ์ชื่อ “ไซโตเทค” (Cytotec) ต้องให้แพทย์สั่งให้เท่านั้น แต่ตอนหลังยาหลุดจากโรงพยาบาล ออกมาขายตามอินเตอร์เน็ต

ที่น่าเป็นห่วงคือ…

“ผู้หญิงตั้งครรภ์ต้องถูกหลอกขายยาคุมกำเนิดสารพัด ตั้งแต่โอนเงินแล้วหายไปเลย บางคนได้รับยามา แต่เป็นยาอะไรไม่รู้ รับประทานไปแล้วไม่ได้ผล บางส่วนก็ได้รับยาไซโตเทคจริงๆ แต่ผู้ขายไม่แนะนำว่าต้องบริโภคยังไง” หัวหน้าสายด่วน 1663 เปิดเผย แล้วระบุต่อว่า

Advertisement

“ที่เราพบคือ มีการแนะนำการใช้ยาอย่างไม่ถูกต้อง สมมุติได้ยาไซโตเทคจริง ในทางการแพทย์แนะนำว่า อายุครรภ์น้อยต้องใช้ยามาก อายุครรภ์มากใช้จำนวนเม็ดที่น้อย เพราะตัวอ่อนพร้อมจะหลุดอยู่แล้ว แต่ในอินเตอร์เน็ตกลับแนะนำสลับกัน ซึ่งในกรณีที่ใช้ยามากกว่าที่แพทย์แนะนำ ก็มีความเสี่ยงทำให้มดลูกแตกได้”

การเข้าไม่ถึงบริการทางการแพทย์ ทำให้พวกเธอต้องเผชิญกับอันตราย ไม่ว่าจะบาดเจ็บจากการใช้ยาไม่ถูกวิธี หลายคนยังตั้งครรภ์ต่อโดยไม่รู้ตัว ทำให้เกิดกรณีเจอซากทารกตัวอ่อนถูกทิ้ง ตามกองขยะและที่สาธารณะปรากฏเป็นข่าวอยู่ตลอด

ทั้งนี้ สมวงศ์ อยากให้ผู้หญิงที่ตัดสินใจยุติการตั้งครรภ์โทรมาสายด่วน 1663 หรือปรึกษาเครือข่าย Rsathai ก่อน อย่างน้อยๆ พวกเธอจะมีทางออก ได้เลือกเองโดยไม่มีการเกลี่ยกล่อม ว่าจะยุติการตั้งครรภ์อย่างปลอดภัย หรือท้องต่ออย่างมีคุณภาพ

Advertisement

“ในสถานการณ์โควิด-19 ระบาด เราพบว่าแนวโน้มผู้มาใช้บริการมากขึ้น ทั้งกลุ่มอายุต่ำกว่า 20 ปี และกลุ่มอายุ 20 ปีขึ้นไป อีกทั้งพบแนวโน้มของผู้ที่มีอายุครรภ์เกิน 12 สัปดาห์ หรือ 3 เดือน เข้ามาขอคำปรึกษามากขึ้น”

“ทั้งหมดนี้แสดงถึงภาวะความยากจนของผู้หญิง ที่อาจเผชิญภาวะเลิกจ้าง รายได้ลดลงฉับพลัน จากสถานการณ์โควิด ทำให้พวกเธอที่เดิมเคยตั้งใจท้อง ต้องเปลี่ยนใจใหม่” สมวงศ์กล่าว

ส่วนการใช้ยายุติการตั้งครรภ์กับวัคซีนป้องกันโควิด19 นั้น สมวงศ์บอกว่า แม้จะเพิ่งบริโภคยายุติการตั้งครรภ์มา ก็สามารถฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ได้ตามปกติ เพราะยายุติการตั้งครรภ์เป็นยาฮอร์โมน เมื่อรับประทานเข้าไป ยาจะสลายตัวได้ภายใน 1-2 วันฉะนั้นไม่มีลต่อการฉีดวัคซีน

สมวงศ์ อุไรวัฒนา
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image