‘อนุกูล-จตุพร’ อธิบดีป้ายแดงกระทรวง พม.
คอลัมน์ เสิร์ฟข่าวสังคม
รอลุ้นกันเกือบโค้งสุดท้าย กับการแต่งตั้งโยกย้ายผู้บริหารระดับสูงกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) แทนผู้บริหารระดับสูงที่กำลังเกษียณอายุราชการสิ้นกันยายนเดือนนี้ จาก 2 กรมใหญ่ใน พม. คือ สุภัชชา สุทธิพล อธิบดีกรมกิจการเด็กและเยาวชน (ดย.) และ สุทธิ จันทรวงษ์ อธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ (พส.)
ซึ่งก็เป็นไปตามที่คาดการณ์กับ “อนุกูล ปีดแก้ว” รองปลัดกระทรวง เบอร์ 1 ได้รับแต่งตั้งเป็นอธิบดี พส. และพลิกโผแบบสุดเซอร์ไพรส์ กับ “จตุพร โรจนพานิช” ผู้ตรวจราชการกระทรวง พม. ได้รับแต่งตั้งเป็นอธิบดี ดย. และยินดีกับทั่นธนสุนทร สว่างสาลี ผู้ตรวจราชการกระทรวง พม. ได้รับแต่งตั้งเป็นรองปลัด พม.
เปิดประวัติอธิบดีป้ายแดงทั้ง 2 ท่าน น่าสนใจ เริ่มที่ ทั่นอนุกูล อายุ 56 ปี ในปี 2557 เป็นผู้อำนวยการศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุบ้านบางละมุง จังหวัดชลบุรี จากนั้นได้ขยับตำแหน่งทุกปีจากผู้บริหารส่วนภูมิภาคสู่ส่วนกลาง จนกระทั่งปี 2562 ขยับขึ้นเป็นรองอธิบดี ดย.
และด้วยภาวะวิกฤตขาดแคลนผู้บริหาร พม. จากคดีทุจริตเงินผู้มีรายได้น้อย ในปี 2563 ทั่นอนุกูลได้กระโดดมาเป็นรองปลัด พม.แบบเซอร์ไพรส์ ควบตำแหน่งโฆษกกระทรวง พม. ใช้เวลา 1 ปีกว่าพิสูจน์ผลงานจนเข้าตาทั่นจุติ ไกรฤกษ์ รมว.พม.เสนอครั้งนี้
ส่วน จตุพร อายุ 50 ปี เดิมถูกจับตาในฐานะดาวรุ่งพุ่งแรงอยู่แล้ว ถึงขนาดว่าวงใน พม.หลายคนยกให้เป็นว่าที่ปลัด พม.ในอนาคตเลย ด้วยความสามารถที่เจิดจรัส โดยจบการศึกษาครุศาสตรบัณฑิต มัธยมศึกษา/มัธยมสามัญศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, อักษรศาสตรมหาบัณฑิต ภาษาศาสตร์/ภาษาศาสตร์ประยุกต์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และMASTER OF SCIENCE IN ORGANIZATIONAL AND HUMAN RESOURCE DEVELOPMENT, Abilene Christian University, USA (ทุนรัฐบาล ก.พ. ปี 40)
และผ่านหลักสูตรนักบริหารอีกมากมาย เช่น หลักสูตรนักบริหารการทูต (นบท.) รุ่นที่ 9, หลักสูตรการพัฒนาข้าราชการระดับสูงระหว่างสิงคโปร์และไทย รุ่นที่ 1,
ในด้านการทำงานได้คลุกคลีงานวิเคราะห์นโยบายและแผน พม.มาตลอด ก่อนขึ้นเป็นผู้อำนวยการกองการต่างประเทศ สำนักงานปลัด พม. แล้วขยับขึ้นเป็น ผู้ช่วยปลัดกระทรวง พม. ขยับต่อเป็นผู้ตรวจราชการกระทรวง พม. และได้รับเสนอแต่งตั้งให้เป็นอธิบดี ดย. แบบสุดเซอร์ไพรส์ในครั้งนี้
ถือเป็นภารกิจสุดท้าทายของ 2 อธิบดีป้ายแดง เพราะขณะนี้ประเด็นเด็กที่ได้รับผลกระทบโควิด-19 และเด็กกำพร้าจากโควิด-19 อีกทั้งคนไร้บ้าน คนไร้ที่พึ่ง คนขอทานซึ่งได้รับผลกระทบจากโควิด-19 กำลังเป็นเผือกร้อนชิ้นใหญ่ให้ พม.ต้องแก้ไข
