หมดเวลานอยด์! แอนชิลี รับทำพลาด ย้ำนิยาม #RealSizeBeauty ไม่ใช่ข้ออ้างไม่ดูแลตัวเอง
หลังการประกวดมิสยูนิเวิร์ส 2021 จบลง ตัวแทนสายสะพายไทยแลนด์ อย่าง แอน – แอนชิลี สก๊อตเคมมิส มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2021 ได้เดินทางกลับถึงประเทศไทยคืนวานนี้ (17 ธันวาคม)
ล่าสุด เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 18 ธันวาคม ที่ห้องราชมณเฑียร แกรนด์ บอลลูม ชั้นเอ็ม โรงแรมมณเฑียร สุรวงศ์ กรุงเทพฯ กองประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2021 จัดงานแถลงข่าวต้อนรับในโอกาสแอนชิลีกลับบ้าน เปิดใจอย่างเป็นทางการหลังการประกวดจบลง รวมถึงตอบคำถามประเด็นอื่นๆ
ทั้งนี้ แอนชิลี ปรากฏตัวในชุดเดรสสั้นสีเขียว เผยว่า ความรู้สึกที่ได้กลับบ้านคือรู้สึกดี และอบอุ่นที่ได้เจอกับทุกคน ขอบคุณทุกคนที่มาให้กำลังใจแอน อยากจะบอกว่าเป็นพลังให้แอนสู้ต่อมากจริงๆ และหลังจากที่ลงเครื่องก็มีแฟนๆ นำขนมถ้วยมาให้เยอะมาก เป็นขนมที่แอนชอบ และได้กินแล้วตอนนี้
สำหรับการประกวดมิสยูนิเวิร์ส 2021 ที่อิสราเอล แอนสนุกและดีใจที่ได้เจอกับเพื่อนๆ ผู้เข้าประกวด กิจกรรมก็สนุก ได้เรียนรู้วัฒนธรรมจากทั่วโลกมากมาย ทั้งยังเป็นประสบการณ์ที่ทำให้แอนได้เติบโตขึ้น ขณะที่เพื่อนร่วมห้องขณะประกวด อย่าง พี่เจนนี่ มิสยูนิเวิร์สลาว 2021 สนิทกันมากเหมือนพี่สาวน้องสาวที่ดูแลกันและกันตลอด คิดถึงมาก
ส่วนกระแสดราม่าเกี่ยวกับการทำผลงานบนเวทีมิสยูนิเวิร์สนั้น แอนชิลี กล่าวว่า แอนอ่านทุกคอมเมนต์ และเปิดใจยอมรับในสิ่งที่แอนทำพลาด จะนำมาใช้ในการทำหน้าที่มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2021 ให้ดีที่สุด ทว่าในโมเมนต์นั้นแอนทำเต็มที่จริงๆ และมั่นใจมาก แต่หลังจากที่ได้ย้อนกลับมาดูเพอร์ฟอร์แมนซ์บนเวทีอีกรอบก็เข้าใจว่าทำไมทุกคนคิดแบบนั้น ต้องขอโทษที่ทำให้รู้สึกผิดหวัง และที่หลายคนมองว่ามีความมั่นใจมากเกินไป ส่วนหนึ่งอาจจะเพราะแอนใช้ชีวิตที่เมืองนอก ประกอบกับยังไม่มีประสบการณ์บนเวที
และกับกระแสที่ว่า ชุดราตรีรอบพรีลิมมินารี เป็นผลทำให้แอนชิลีไม่มั่นใจนั้น แอนอธิบายว่า แอนชอบชุดราตรีชุดนั้นมาก ชอบความหมายของชุดเพราะเหมาะสมกับการโชว์แคมเปญเรียลไซซ์บิวตี้บนเวทีโลก ส่วนที่เดินดูไม่มั่นใจ เป็นความผิดของแอนเอง ไม่ได้เกี่ยวกับชุด ต้องขอโทษจริงๆ เป็นประสบการณ์ที่แอนไม่มีมาก่อน
ทั้งนี้ เช่นเดียวกับในรอบการประกวดชุดประจำชาติ ที่หลายคนมองว่าทำไมถึงดูกังวลและนำเสนอชุดได้ไม่แข็งแรง แอนชิลี แจงว่า ตอนนั้นก็มีความกดดันด้วยสถานการณ์หลังเวที ที่คนน้อย ในหัวแอนตอนที่เดินออกมาจากเวทีคืออยากนำเสนอแบบเท่ๆ โยงเข้ากับความหวานของแอน แต่ผลไม่ได้ออกมาแนวนั้นกลายเป็นอย่างอื่น
เกี่ยวกับภาพตนร้องไห้หลังประกวดจบ ตลอดจนสวมกอดทีมงานและน้องชายนั้น แอนชิลี อธิบายว่า ในสถานการณ์ที่อยู่ภายใต้ความกดดัน อยู่เมืองนอก แอนกับแองจี้สนิทกันมาก พอเจอกันก็เหมือนได้ปลดปล่อยความรู้สึก ที่กอดน้องเคนน้องชายก็เพราะ เพิ่งเจอกันในรอบ 1 ปี เป็นกอดแรก ความรู้สึกต่างๆ ก็พรั่งพรูออกมา
กับผลการประกวด “ไม่ผ่านเข้ารอบ” แอนก็มีเสียใจนิดหน่อย เพราะทำให้หลายๆ คนต้องผิดหวัง โดยเฉพาะแฟนๆ ที่เชียร์ตั้งแต่แรก แต่สิ่งสำคัญคือต้องสู้ต่อไป ซึ่งหลายๆ คอมเมนต์และเสียงวิพากษ์วิจารณ์ก็ช่วยให้แอนพัฒนาตัวเองได้จริงๆ จึงเปิดอกเปิดใจรับฟังตลอด
“เข้าใจ ในสิ่งที่ทุกคนรู้สึก ทุกคนมีสิทธิที่จะแสดงความคิดเห็น ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะนอยด์แล้ว ต้องสู้แล้วค่ะ” แอนชิลีย้ำและว่ารู้ตัวตั้งแต่วินาทีที่ตกรอบว่าต้องกลับมาสู้ มีร้องไห้ เสียใจ เป็นเรื่องปกติของทุกคน มากไปกว่านั้นคือเมื่อผิดพลาดแล้วจะทำยังไงให้ยืนขึ้นใหม่ได้
ส่วนจัดการกับความรู้สึกตัวเองอย่างไรนั้น แอนชิลี บอกว่า ทุกๆความรู้สึกที่แอนรู้ แอนชอบจ้องความรู้สึกและทำความเข้าใจว่าทำไมรู้สึกแบบนี้ และจัดการความรู้สึกด้วยตัวเอง และโชคดีที่แอนมีทีมที่อยู่ด้วยกัน ซัพพอร์ตกันตลอด นั่งร้องไห้ด้วยกัน ยิ้มด้วยกัน
อย่างไรก็ตาม “เรียลไซซ์บิวตี้” (Real Size Beauty)ได้กลายเป็นประเด็นที่โลกโซเชียลหยิบมาแลกเปลี่ยนนิยามความหมายกันในวงกว้างว่าแท้จริงคืออะไร
แอนชิลี ตอบอย่างมั่นใจว่า เรียลไซซ์บิวตี้คือสุขภาพมาเป็นอันดันแรก ไม่ใช่อยู่เฉยๆ ปล่อยวางไม่ทำอะไร ไม่ใช่ข้ออ้างในการไม่ดูแลตัวเอง แต่คือการเฉลิมฉลองกับความหลากหลายนี้ กับตัวเราเอง และที่ตัวเรามี ทั้งขนาด รูปร่าง สีผิว ความสูง ฯลฯ รวมถึงทุกอย่างที่คุณรู้สึกว่านี่คือตัวคุณ แต่สิ่งสำคัญมากที่สุดคือการดูแลสุขภาพของคุณเองด้วย โปรดอย่าเข้าใจคลาดเคลื่อน สุขภาพเป็นเรื่องที่ต้องมาก่อน ดูแลสุขภาพของคุณ ไม่ว่าจะด้วยรูปร่างไหน สีผิวไหน ความสูงเท่าไหร่ คุณยังคงสุขภาพดี
ซึ่งตอนนี้ แคมเปญ Real Size Beauty ก็ไปในระดับโลกแล้ว แอนอยากสนับสนุนต่อไปให้เสียงดังขึ้น และการที่แคมเปญไปได้ไกลขนาดนี้ไม่อยากรับเครดิตคนเดียว แต่มองว่าเป็นพลังของพวกเราทุกคน
สุดท้าย อยากขอบคุณทีม ขอบคุณทีพีเอ็น ขอบคุณแม่ปุ้ย ที่อยู่ใกล้ชิดและให้กำลังใจเสมอ ช่วยให้แคมเปญเราถึงทั่วโลกแล้ว มหัศจรรย์มากๆ ขอบคุณแฟนๆ ที่เชียร์กัน ขอโทษที่ทำให้ทุกคนผิดหวัง สู้ต่อไปด้วยกัน
ขณะที่ ปุ้ย – ปิยาภรณ์ แสนโกศิก กรรมการผู้จัดการทีพีเอ็นโกลบอล ผู้ถือลิขสิทธิ์จัดการประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ ได้ตอบคำถามสื่อมวลชนก่อนที่แอนชิลีจะแถลง ใจความว่า ไปประกวดครั้งนี้นานมาก นับว่าผ่านไปอย่างเรียบร้อย แม้จะไม่ได้เข้ารอบลึกแต่ก็ภูมิใจ เพราะระหว่างที่ประกวดก็อยู่ในหน้าสื่อต่างๆ ตลอด ทั้งนี้มองว่าสังคมของเราไม่ว่าจะในมิติไหน จะเปลี่ยนไม่ได้เลยถ้าไม่กล้าเสี่ยง ซึ่งแอนชิลีก็เหมาะสมแล้วที่ได้มงกุฏของไทย และผ่านการคิดมาดีแล้วในการส่งแอนไปประกวดในระดับโลก ท่ามกลางความท้าทายที่มีเวลาเตรียมตัวเพียง 3 สัปดาห์ ในกรณีของแอนชิลีนี้ หากมองว่าล้มเหลวนั้นคือคิดผิด อยากให้ทุกคนมีความมั่นใจ ทว่าตนไม่ตำหนิแฟนนางงามที่ผิดหวัง น้อมรับหมดที่ออกมาวิจารณ์ และต้องขอโทษแฟนๆ ที่ทำให้ผิดหวัง
ส่วนประเด็นที่ลือสะพัดว่าลิขสิทธิ์จัดการประกวดของทีพีเอ็นโกลบอลหลุดมือแล้ว ปุ้ย ตอบว่า “อันนี้ก็งงในดงอิสราเอล จริงๆ ไม่มีอะไรเลย ไม่ทราบเลยจริงๆ ไม่มีมูลใดๆ จากทางฝั่งพี่ปุ้ยเลย งงมากที่มีการเต้าข่าวซึ่งส่งผลกระทบกับองค์กรของพี่ปุ้ยด้วย ต้องมาดูกัน”
ส่วนที่ว่าได้คุยกับ แอน จักรพงษ์ ที่ก่อนหน้านี้เคยให้ข่าวว่าสนใจจะติดต่อทำธุรกิจกับเวทีมิสยูนิเวิร์ส บ้างไหม ปิยาภรณ์ ตอบว่า จริงๆ ตอนนี้ไม่ใช่แค่คุณแอน จักรพงษ์ คนเดียวที่มีความเมตตา หลายๆ ท่านก็อยากจะให้การสนับสนุน เพราะเห็นว่าสายสะพายไทยแลนด์น่าสนใจ ซึ่งก็มีคนมาถามว่าเมื่อไหร่จะเปิดหุ้น ฯลฯ ส่วนจะซื้อขายไหมมองว่ามิสยูนิเวิร์สเขาก็มีกฏระเบียบของเขาเอง ขอบคุณ
ภาพจากเพจ https://www.facebook.com/missuniverse.in.th
