ทีพีเอ็น-วชิราวุธ เปิดม่าน ‘นางสาวไทย’ เผยสเป็กนางงามรับหน้าที่ ‘ทูตท่องเที่ยววัฒนธรรม’
ทีพีเอ็นจับมือสมาคมนักเรียนเก่าวชิราวุธฯ จัดประกวดนางสาวไทย 2565 เฟ้นหาสาวงามรับหน้าที่ทูตการท่องเที่ยวและวัฒนธรรม เน้นเป็นกระบอกเสียงผลักดันการศึกษา พัฒนาคน เปิดรับสมัคร 25 ธ.ค. 2564 – 5 ม.ค. 2565
เมื่อเวลา 14.45 น. วันที่ 21 ธันวาคม บริษัท ทีพีเอ็น โกลบอล จำกัด (TPN GLOBAL) และสมาคมนักเรียนเก่าวชิราวุธวิทยาลัยในพระบรมราชูปถัมภ์ จัดงานแถลงข่าวการจัดการประกวด นางสาวไทย (Miss Thailand) ประจำปี 2565 เพื่อเฟ้นหานางสาวไทยคนที่ 53 ที่จะเป็นทูตการท่องเที่ยวและวัฒนธรรม รวมถึงเป็นกระบอกเสียงด้านการศึกษา สังคม และสิ่งแวดล้อม ภายใต้แนวคิด “Revival of the Original” หรือ “กำเนิดใหม่ไปด้วยกัน” ณ โรงภาพยนตร์ซัมซุง แอลอีดี ชั้น 6 พารากอนซีนีเพล็กซ์ สยามพารากอน ภายใต้มาตรการควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19 อย่างเคร่งครัด
โดยมีรุ่นพี่นางสาวไทยเข้าร่วมงานแถลงอย่างคับคั่ง อาทิ อมรา อัศวนนท์ รองนางสาวไทย 2496, สาวิณี ปะการะนัง นางสาวไทย 2527, ปนัดดา วงศ์ผู้ดี นางสาวไทย 2543, อังคณา หิรัญพฤกษ์ 2550, อรวิภา กนกนทีสวัสดิ์ นางสาวไทย 2552, กฤชภร หอมบุญญาศักดิ์ นางสาวไทย 2553 และวิลาสินี จันทร์วุฒิวงศ์ นางสาวไทย 2557-2558
ปุ้ย – ปิยาภรณ์ แสนโกศิก ผู้บริหารทีพีเอ็นฯ กล่าวว่า ทีพีเอ็น โกลบอล รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้รับเกียรติเป็นผู้จัดการประกวดนางสาวไทย ประจำปี 2565 ซึ่งเราจะนำความเชี่ยวชาญของเราพลิกโฉมเวทีการประกวดนางสาวไทยในปีนี้ให้สามารถเทียบเท่าระดับโลก และจะแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของสาวไทยที่สามารถเป็นตัวแทนหญิงไทยยุคใหม่ที่แท้จริง รวมถึงเนรมิตการจัดการประกวดที่ยิ่งใหญ่ในรูปแบบ New Normal ภายใต้มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ที่มีประสิทธิภาพ พร้อมที่จะเผยแพร่อัตลักษณ์วัฒนธรรมไทย เผยแพร่ความงดงามของศิลปะวัฒนธรรมของไทย วัฒนธรรมอาหารท้องถิ่น รวมถึงเมืองท่องเที่ยวที่น่าสนใจของประเทศไทยในมุมมองใหม่ให้ปรากฏแก่ทั่วโลกอีกด้วย
โดยการประกวดนางสาวไทย ประจำปี 2565 ยังได้โค้ชผู้เชี่ยวชาญและผู้คร่ำหวอดในวงการนางงามที่จะมาช่วยกันเฟ้นหาและเจียระไนเพชรเม็ดงาม ได้แก่ ริสา หงษ์หิรัญ, ดร.พงษ์รพี บูรณสมภพ, ฐิติพงษ์ ด้วงคง, อแมนด้า ชาลิสา ออมดัม มิสยูนิเวิร์ส ไทยแลนด์ 2020, และพรฟ้า ปุณิกา กุลสุนทรรัตน์ รองอันดับ 2 มิสยูนิเวิร์ส ไทยแลนด์ 2020
ปิยาภรณ์ กล่าวถึงคุณสมบัติของนางสาวไทยคนที่ 53 ที่กองประกวดมองหาว่า จะต้องสวยเก๋ มีเสน่ห์ (ไม่จำกัดส่วนสูง) มีเชาว์ปัญญา มีความมั่นใจ รักนวัตกรรม และความเป็นไทย สามารถเป็นตัวแทนหญิงไทยแห่งยุคสมัยใหม่ในฐานะภูมิปัญญาแห่งอนาคต เป็นกระบอกเสียงให้กับสังคม ส่งเสริม และยกระดับการศึกษาให้คนไทยทุกคนได้รับการศึกษาขั้นพื้นฐาน ผ่านการมุ่งเน้นการทำสาธารณะกุศลต่าง ๆ สนับสนุนทุนการศึกษาให้กับเด็กที่ด้อยโอกาสทางศึกษา รวมถึงเป็นทูตวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวอีกด้วย
ด้าน พลตำรวจโท อรรถกฤษณ์ ธารีฉัตร นายกสมาคมนักเรียนเก่าวชิราวุธวิทยาลัยในพระบรมราชูปถัมภ์ กล่าวว่า นางสาวไทยประจำปี 2565 นี้ มีมุมมองที่คงความเป็นเอกลักษณ์ไทย ทันสมัยอย่างเป็นสากล แสดงให้เห็นถึงความเป็นไทย คือเป็นผู้ที่มีความสวยงามทางร่างกาย และมีจิตใจงดงาม ทั้งกิริยามารยาท คงความเป็นกุลสตรีไทย มีความทันสมัยอย่างเป็นสากล สามารถปรับและพัฒนาตนให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี และสภาพแวดล้อมของโลก โดยสรุปคือ งามกายงามใจ มีจิตใจที่เอื้ออารีต่อตนเองครอบครัว ชาติบ้านเมืองและสังคมในทุกระดับ
สำหรับกำหนดการประกวดนางสาวไทย ประจำปี 2565 เริ่มต้นด้วยการเปิดรับสมัครทางออนไลน์ในวันที่ 25 ธันวาคม 2564 – 5 มกราคม 2565 และวันที่ 9 มกราคม 2565 ผู้เข้าประกวดเดินทางมายื่นใบสมัครและรายงานตัวด้วยตัวเอง ประกาศผลผู้ผ่านเข้ารอบ 50 คนในวันที่ 10 มกราคม 2565 พร้อมยลโฉมผู้เข้าประกวดรอบแรกในช่วงกลางเดือนมกราคม เพื่อแข่งขันกันในรอบ Audition ก่อนที่จะเข้าสู่รอบ 24 คนสุดท้าย
ในปีนี้กองประกวดนางสาวไทย ยกกองไปเก็บตัวทำกิจกรรมที่จังหวัดอำนาจเจริญ วันที่ 22-26 มกราคม 2565 สัมภาษณ์ทัศนคติเชิงลึก วันที่ 1 กุมภาพันธ์ และรอบพรีลิมมินารี (Preliminary) จะมีขึ้นในวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2565 และประกาศผลผู้ที่คว้าตำแหน่งนางสาวไทยคนที่ 53 ในรอบตัดสิน ( Final) วันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2565
ติดตามชมการประกวดนางสาวไทย ประจำปี 2565 ได้ผ่านทางช่องทาง TRUE รวมถึงทางดิจิทัลแพลตฟอร์มของทางกองประกวดฯ ได้แก่ Facebook: @officialmissTH และ Instagram: @official_missthailand
