นักสิทธิสตรี จี้สภามหา’ลัยตั้งสอบ ‘อธิการบดี’ ปมแอบถ่ายแอร์ เพื่อรักษามาตรฐานจริยธรรมทางเพศองค์กร
กรณี นายชัยชาญ ถาวรเวช อธิการบดีมหาวิทยาลัยศิลปากร (มศก.) โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว เป็นภาพแอร์โฮสเตสขณะปฎิบัติหน้าที่บนเครื่องบิน พร้อมข้อความว่า “ผมมักจะถ่ายรูปแอร์โฮสเตสไปฝากน้องๆ น่ะครับ ให้เขาน้ำลายไหลครับ” ทั้งนี้ นอกจากโพสต์ดังกล่าวพบว่าอธิการบดีดังกล่าว เคยถ่ายรูปแอร์โฮสเตสในลักษณะนี้มาแล้วหลายครั้ง ทำให้สังคมออนไลน์ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ว่านี่คือการคุกคามทางเพศอย่างหนึ่ง แม้ภายหลังอธิการบดีคนดังกล่าวจะออกมายืนยันว่า ไม่มีเจตนาคุกคามทางเพศ เป็นการถ่ายรูปตามปกตินั้น
จากข่าว
-โซเชียลถล่ม อธิการ ม.ดัง ถ่ายรูปแอร์โฮสเตส บอก ‘ฝากน้องๆ ให้เขาน้ำลายไหล’
-อธิการฯศิลปากร รับเป็นคนถ่ายรูปแอร์จริง ยันไม่เจตนาคุกคามทางเพศ รับเป็นบทเรียน จะระวังให้มาก
ล่าสุด เมื่อวันที่ 28 เมษายน ดร.วราภรณ์ แช่มสนิท ที่ปรึกษาแผนงานสุขภาวะผู้หญิงและความเป็นธรรมทางเพศ กล่าวว่า จากข่าวและคำให้สัมภาษณ์ของอธิการบดีท่านนี้ แสดงความไม่เข้าใจเลยว่าอะไรคือการคุกคามทางเพศ อย่างการคุกคามทางเพศคือพฤติกรรมแสดงออกใดๆ ก็ตาม ที่แสดงนัยยะทางเพศ แล้วคนที่ถูกกระทำรู้สึกอึดอึดไม่พอใจ แม้กรณีนี้ผู้ถูกกระทำไม่รู้ตัว แต่ก็ส่อนัยยะเรื่องเพศอยู่แล้ว จากการแอบถ่ายและข้อความโพสต์ทำให้คนอื่นน้ำลายไหล ฉะนั้นจะมาบอกว่าไม่เจตนาไม่ได้
ทั้งนี้ พฤติกรรมนี้ทำให้คนที่ถูกแอบถ่ายเหมือนเป็นวัตถุทางเพศ สนองตัณหาทางเพศ ยิ่งผู้กระทำมีพฤติกรรมนี้ซ้ำๆ แสดงว่าไม่ได้คุกคามแค่คนใดคนหนึ่งโดยเฉพาะ แต่คุกคามคนประกอบอาชีพนี้ คือไม่ว่าใครก็ตามเขาจะมีพฤติกรรมนี้
“คำชี้แจงที่ให้สัมภาษณ์ ยิ่งพูดยิ่งแย่ ไม่ได้สะท้อนให้เกิดความู้สึกว่าตัวเองผิด เหมือนคำแก้ตัวมากกว่า มีคำพูดว่าไม่ได้เจตนา ไม่ได้ถ่ายรูปให้เกิดความเสียหาย และมองว่าเป็นเรื่องอาจเข้าใจผิด สะท้อนว่าเขาไม่ได้เข้าใจเลยว่าอะไรคือการคุกคามทางเพศ”
ดร.วราภรณ์ กล่าวอีกว่า ท่านเป็นผู้บริหารระดับสูงสุดของสถาบันอุดมศึกษา ต้องกำกับดูแลจริยธรรมขององค์กร แต่ตัวเองกลับละเมิดจริยธรรมทางเพศ อย่างนี้จะสู้หน้าผู้ใต้บังคับบัญชาหรืออาจารย์ได้อย่างไร การพูดว่าทำไปแล้ว ไม่ได้สร้างความเสียหายอะไร ขอบคุณคนวิจารณ์ และจะระวังตัวให้มากขึ้น ตรงนี้เรามองว่าในฐานะคนที่ดำรงตำแหน่งข้าราชการระดับสูงขนาดนี้ ละเมิดสิทธิผู้อื่น สะท้อนความไร้จริยธรรม การพูดเท่านี้ไม่พอ
จึงอยากเรียกร้องสภามหาวิทาลัยสอบสวนข้อเท็จจริงเรื่องนี้ และต้องมีมาตรการลงโทษบางอย่าง ซึ่งจะหนักหรือเบาก็ว่ากันตามเกณฑ์ ต้องดำเนินมาตรการบางอย่าง เพื่อรักษาชื่อเสียงและมาตรฐานทางจริยธรรมองค์กรไว้ เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเบา
“อยู่ในตำแหน่งบริหารที่ต้องมีวิสัยทัศน์ แต่กลับไม่มีวิสัยทัศน์เรื่องเพศ ถือว่าขาดคุณสมบัติในแง่ความไม่เท่าทันความเปลี่ยนแปลงของสังคม บรรทัดฐานที่สังคมยอมรับเรื่องเพศ” ดร.วราภรณ์กล่าวและว่า
อย่างไรก็ตาม กฎหมายปัจจุบันว่าด้วยเรื่องการคุกคามทางเพศ มี 1 มาตราคือ ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 397 วรรคสอง ที่ว่าด้วยการคุกคาม หรือกระทำให้ได้รับความอับอายหรือเดือดร้อนรำคาญ ในที่สาธารณสถานหรือต่อหน้าธารกำนัล หรือเป็นการกระทำอันมีลักษณะส่อไปในทางที่จะล่วงเกินทางเพศ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ แต่ก็ยังเป็นกฎหมายที่กว้างอยู่ อาศัยการตีความของตำรวจที่รับแจ้ง ซึ่งหากบังคับใช้กฎหมายจริงจังอาจช่วยได้บ้าง แต่ส่วนตัวคิดว่าควรปรับปรุงกฎหมายที่ว่าด้วยเรื่องคุกคามทางเพศให้ชัดเจนกว่านี้ ต้องระบุถึงระดับพฤติกรรมและบทลงโทษให้ชัดเจน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
-ธัญวัจน์ ชี้ ผู้บริหาร ม.ดัง แอบถ่ายแอร์ อวดน้องๆ สะท้อนวิธีคิด มองผู้หญิงเป็นวัตถุทางเพศ
