ครั้งแรกในไทย ชำระความหมาย LGBTQ+ ที่มีถึง 30 เพศ
เห็นกลุ่ม LGBTQ เดินขบวนอย่างมีความสุขส่งท้ายเดือน Pride Month แต่คนละถือธงโบกสะพัดอย่างภาคภูมิใจ มองเผินๆ นึกว่าธงทั่วไปโบกสร้างสีสัน แต่หากมองดีๆ จะรู้ว่าธงพวกนี้มีความหมาย นั่นคือการบอกตัวตน หรือเพศ ของพวกเขา
ซึ่งภายในขบวนพาเหรด มีธงถึง 30 ธง หมายความว่ามีถึง 30 เพศ ไม่รวมเพศชายและหญิงทั่วไป
กิตตินันท์ ธรมธัช นายกสมาคมฟ้าสีรุ้งแห่งประเทศไทย อธิบายว่า จริงๆ ธงเพศมีมานานแล้ว เป็นธงที่ใช้สากลทั่วโลก นิยมใช้ในเดือน Pride Month แต่ปีนี้ที่ใหม่คือ เราชำระความหมายคำเรียกเพศในธง ซึ่งสมาคมฟ้าสีรุ้งฯ ร่วมกับสมาคมบุคคลข้ามเพศแห่งประเทศไทย ได้เรียบเรียงและประกาศเป็นครั้งแรกในประเทศไทย เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2565
กิตตินันท์อธิบายถึง 30 เพศ ซึ่งไม่รวมกับเพศชาย เพศหญิง ซึ่งเป็นเพศทั่วไป ดังนี้
1.GAY : บุคคลที่เป็นเพศชายและรักใคร่เพศชายด้วยกันเท่านั้น หรือชายรักชาย
2.LESBIAN : บุคคลที่เป็นเพศหญิงและรักใคร่เพศหญิงด้วยกัน หรือหญิงรักหญิง
3.BISEXUAL : บุคคลที่รักใคร่ได้ทั้งเพศชายและทั้งเพศหญิง หรือรักได้ทั้งชายและหญิง
4.POLYSEXUAL : บุคคลที่รักใคร่ได้หลายเพศสภาพ แต่ไม่ใช่ทุกเพศสภาพ
5.PANSEXUAL : บุคคลที่รักใคร่ได้ทุกเพศสภาพ และไม่ให้ความสำคัญกับเพศสภาพ เป็นการรักในตัวตนของคนๆ หนึ่ง ไม่ว่าเขาจะเพศอะไร ยกตัวอย่างเกย์ชอบพี่สาวของเพื่อน ทั้งที่เขาเป็นชายรักชาย แต่กับพี่สาวของเพื่อนเขากลับรัก เป็นรักที่มีความใคร่ แต่กับผู้หญิงคนอื่นไม่มีความรู้สึกนี้
6.OMNISEXUAL : บุคคลที่รักใคร่ได้ทุกเพศสภาพ และให้ความสำคัญกับเพศสภาพ เป็นรักที่ชอบได้ทุกเพศ ยกตัวอย่างเกย์ชอบทอม คือปกติเขาจะชอบผู้ชายทั่วไป แต่วันหนึ่งพอเจอทอมหรือผู้หญิงแสดงออกเป็นผู้ชาย ทั้งๆ ที่เขารู้ว่าเป็นทอม แต่ก็ยังชอบ
7.SKOLIOSEXUAL : บุคคลที่รักใคร่เฉพาะคนที่ไม่ใช่เพศชาย และไม่ใช่เพศหญิงเท่านั้น เป็นที่รักในทุกเพศ ยกเว้นบุคคลที่มีเพศตรง เช่น ชายทั่วไป หญิงทั่วไป
8.DEMISEXUAL : บุคคลที่รักใคร่คนหนึ่งคนได้ ก็ต่อเมื่อมีการสานสัมพันธ์มาก่อน เป็นรักที่รู้จักหรือมีความผูกพันธ์มาก่อน เช่น เจ้านายลูกน้อง เพื่อน อย่างเพื่อนก็อารมร์ประมาณว่า “เพื่อนกูรักมึงว่ะ”
9.GAYSEXUAL : บุคคลที่ให้ความสำคัญกับความรักใคร่ อย่างไม่สม่ำเสมอ เป็นคนที่ให้ความสำคัญกับความรักใคร่อย่างไม่สม่ำเสมอ ยกตัวอย่างความรักที่เดือนนี้เสน่ห์หา แต่เดือนต่อไป หายไปเลย ทั้งที่ไม่ได้มีคนใหม่ ไม่ได้ตายด้าน เพียงแต่ไม่สม่ำเสมอ
10.ASEXUAL : บุคคลที่ไม่ให้ความสำคัญกับความใคร่ มีเพียงความรักเท่านั้น เป็นคนที่รัก แต่ไม่มุ่งหวังเรื่องเพศสัมพันธ์ จะมีหรือไม่มีก็ได้
11.POLYMOROUS : บุคคลที่รักใคร่คนอื่นได้มากกว่าหนึ่งคน ในเวลาเดียวกันอย่างเท่าเทียมกัน คือรักได้ทั้งชายและหญิง รักหลายๆ คนในเวลาเดียวกัน และเป็นรักที่เท่ากัน
12.INTERSEX : บุคคลที่มีเพศทางชีววิทยาที่ไม่ชัดเจน ระหว่างเพศชายกับเพศหญิง คือเป็นคนที่มีอวัยวะเพศชายและหญิงในคนๆ เดียว ไม่ว่าจะหลบนอก หลบใน ซึ่งเป็นเรื่องทางการแพทย์
13.TRANS WOMEN : บุคคลที่มีสำนึกทางเพศเป็นเพศหญิง แต่มีเพศกำเนิดเป็นชาย หรือผู้หญิงข้ามเพศ
14.TRANS MEN : บุคคลที่มีสำนึกทางเพศเป็นเพศชาย แต่มีเพศกำเนิดเป็นหญิง หรือผู้ชายข้ามเพศ
15.AGENDER : บุคคลที่ไม่ระบุสำนึกทางเพศสภาพของตน คือคนที่ไม่รู้ว่าตัวเองเป็นเพศอะไร และไม่อยากจะรู้ว่าตัวเองเป็นเพศอะไร
16.GENDERFLUID : บุคคลที่มีความลื่นไหลในสำนึกทางเพศสภาพ สามารถเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา คือสามารถเปลี่ยนแปลงเพศได้ตลอดเวลา ลื่นไหลทางเพศได้ทั้ง 30 เพศ
17.BIGENDER : บุคคลที่มีสำนึกทางเพศสภาพสลับกันไปมา ระหว่างเพศชายและเพศหญิง ยกตัวอย่างวันนี้มีเมีย รักเมีย แต่พรุ่งนี้เกิดรักผู้ชาย อยากมีสามีน้อย ก็รักได้ทั้ง 2 คน เพียงแต่ว่าวันนี้สำนึกเป็นอะไร หรืออธิบายง่ายๆ ว่าวันนี้สำนึกเป็น เอ รักได้ทั้ง เอ บี พรุ่งนี้สำนึกเป็นบี ก็รักได้ทั้งเอ บี
18.TRIGENDER : บุคคลที่มีสำนึกทางเพศสภาพสลับกันไปมา ระหว่างเพศชาย เพศสภาพหญิง และเพศสภาพอื่นๆ เป็นได้มากกว่า 3 เพศ ยกตัวอย่างคนๆ หนึ่งวันนี้เป็นผู้ชาย พรุ่งนี้เป็นผู้หญิง มะรืนเป็นเกย์
19.PANGENDER : บุคคลที่มีสำนึกทางเพศสภาพที่หลากหลายขยายออกไปไม่สิ้นสุด เป็นอีกเพศที่มีสำนึกทางเพศลื่นไหล และสามารถแสดงออกมาได้พร้อมๆ กัน ในเวลาเดียวกัน
20.GENDERQUEER : บุคคลที่มีสำนึกทางเพศสภาพนอกกรอบเพศชายและเพศหญิง เป็นสำนึกทางเพศนอกกรอบวัฒนธรรมการดำรงชีวิต ยกตัวอย่างคำถามว่าทำไมผู้ชายต้องแข็งแรง ทำไมผู้ชายร้องไห้ไม่ได้ อ่อนแอไม่ได้ ทำไมผู้หญิงต้องเป็นแม่บ้าน
21.DEMIGIRL : บุคคลที่มีสำนึกทางเพศกึ่งหนึ่งเป็นเพศหญิงกับอีกกึ่งหนึ่งเป็นเพศสภาพอื่น ยกตัวอย่างผู้หญิงคนหนึ่ง ที่ครึ่งหนึ่งมีความเป็นผู้หญิงที่ชอบผู้ชาย แต่อีกครึ่งก็เป็นเลสเบียนที่ชอบผู้หญิงด้วยกัน แต่พวกเธอไม่ใช่ไบ (BISEXUAL) นะ
22.DEMIBOY : บุคคลที่มีสำนึกทางเพศกึ่งหนึ่งเป็นเพศชายกับอีกกึ่งหนึ่งเป็นเพศสภาพอื่น ซึ่งจะคล้ายๆ กับ DEMIGIRL เพียงแต่เป็นกรณีผู้ชาย
23.ANDROGYNE : บุคคลที่มีสำนึกทางเพศสภาพผสมผสานทั้งเพศชายและทั้งเพศหญิง จะไม่ใช่เหมือนไบ (BISEXUAL) ที่รักได้ทั้งหญิงและชายในอัตราส่วนที่เท่ากัน แต่นี่คือ ผสมผสานในอัตราส่วนที่ไม่เท่ากัน ยกตัวอย่างรักเมีย 100 เปอร์เซ็นต์ วันหนึ่งมีผัว รักผัว 120 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งคนอย่างนี้มีเยอะ เพียงแต่ไปเข้าใจว่าตัวเองเป็นไบ
24.INTERGENDER : บุคคลที่มีเพศทางชีววิทยาที่ไม่ชัดเจน ที่มีสำนึกทางเพศสภาพ ผสมผสานทั้งเพศชายและทั้งเพศหญิง จะคล้ายๆ กับ INTERSEX เพียงแต่มีอัตราส่วนอวัยวะเพศชาย และอวัยวะเพศหญิงไม่เท่ากัน
25.NON-BINARY : บุคคลที่มีสำนึกทางเพศสภาพที่ไม่ใช่ทั้งเพศสภาพชาย และไม่ใช่ทั้งเพศสภาพหญิง เป็นคนที่ไม่รับว่าเป็นเพศชายหรือหญิง ไม่มีสำนึกความเป็นชายหรือหญิง เขาคิดว่าเป็นเพียงบุคคลคนหนึ่ง ไม่ได้ยึดโยงและยึดโยงสิทธิหญิงหรือชาย อย่างว่ากันด้วยเรื่องสิทธิหน้าที่ ก็จะต้องคำถามว่าทำไมผู้ชายต้องไปเกณฑ์ทหาร แล้วทำไมผู้หญิงไม่เกณฑ์ทหาร
26.QUESTIONING : บุคคลที่ตั้งคำถามด้วยความสงสัย และ/หรือกำลังค้นหาสำนึกทางเพศสภาพของตน เป็นคนที่ยังงงๆ ว่าวันนี้ตัวเองเป็นอะไร อย่างเป็นเกย์แมน แต่วันนี้ไม่เหมือนเกย์เท่าไหร่ บางครั้งก็ดูเหมือนเป็นกระเทย เป็นเกย์สาว ก็อธิบายตัวเองไม่ถูกเหมือนกันว่าวันนี้จะเป็นอะไร
27.HOMOROMANTIC : บุคคลที่รักเพศเดียวกันเท่านั้น โดยไม่เน้นความใคร่ เป็นคนรักเพศเดียว แต่เป็นความรักที่มีความสุขเพียงการกินข้าวด้วยกัน ได้ไปเที่ยวด้วยกัน ไม่เน้นความไคร่
28.BIROMANTIC : บุคคลที่รักทั้งเพศชายและทั้งเพศหญิง โดยไม่เน้นความใคร่ คล้ายๆ กับไบ (BISEXUAL) เป็นรักที่มีความสุข โดยไม่เน้นความใคร่
29.PANROMANTIC : บุคคลที่รักได้ทุกเพศสภาพ และไม่ให้ความสำคัญกับเพศสภาพ โดยไม่เน้นความใคร่ จะคล้ายๆ กับ PANSEXUAL ที่รักโดยไม่คำนึงถึงเพศสภาพ เป็นรักในตัวตนของคนๆ หนึ่งจริงๆ โดยไม่มีความใคร่
30.AROMANTIC : บุคคลที่ไม่ให้ความสำคัญกับความรัก มีเพียงความใคร่เท่านั้น อาจไม่ถึงขั้นเรียกว่าความรัก เพราะเป็นแบบวันไนท์สแตน ที่รักได้กับทุกเพศสภาพ
“ส่วนตัวเชื่อว่าในประเทศมีคนกระจายอยู่ครบทั้ง 30 ธง จริงๆ อาจมากกว่า 30 ธงนี้ด้วยซ้ำ เพียงแต่ว่ามีได้เพียงเท่านี้ 30 วันตามเดือน Pride Month”
“คิดว่าความเป็น LGBTQ+ มีมานานแล้ว อาจเป็นร้อยล้านปี เพียงแต่เราไม่รู้ว่าเราเป็นอะไร อาจไปใช้คำว่าสับสน กระทั่งจนมีคนมาตอบว่าเราเป็นอะไร ถือเป็นเรื่องดี ทำให้ทุกคนมองว่าเป็นเรื่องปกติ” กิตตินันท์กล่าวทิ้งท้าย
ขอบคุณเฟซบุ๊ก สมาคมฟ้าสีรุ้งแห่งประเทศไทย Rainbow Sky Association of Thailand
