เป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวแล้วไง มีความหวัง-อาชีพ-พึ่งตัวเองได้ เปิดศูนย์บริการแม่เลี้ยงเดี่ยวฯ กรุงเทพฯ
แม้ชีวิตคู่จะจบลง แต่มันก็ไม่ใช่เหตุการณ์ฟ้าทล่มดินทลาย จนชีวิตของเราไปต่อไม่ได้ อย่างน้อยๆ มองดูที่ลูกของตัวเอง ลุกขึ้นอีกสักครั้ง สู้เพื่อให้เขาได้มีชีวิตที่ดีและมีความสุข
เป็นความหวังที่เกิดขึ้นได้ หากใคร่คว้าโอกาสและพยายามให้เต็มที่ ใน ‘ศูนย์บริการแม่เลี้ยงเดี่ยวและครอบครัว กรุงเทพมหานคร’ จัดโดย กรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว (สค.) กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ภายหลังมีพิธีเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการเมื่อเร็วๆ นี้
จินตนา จันทร์บำรุง อธิบดีกรม สค. เล่าว่า ปัจจุบันมีศูนย์บริการแม่เลี้ยงเดี่ยวและครอบครัว ให้บริการแม่/พ่อและครอบครัวเลี้ยงเดี่ยว กระจายตามจังหวัดทั่วประเทศแล้ว 9 แห่ง ปีนี้มีแผนเปิดเพิ่มอีก 3 แห่ง ที่นี่เป็นหนึ่งในนั้น ถือเป็นศูนย์บริการแม่เลี้ยงเดี่ยวฯ แห่งแรกในพื้นที่กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีแม่เลี้ยงเดี่ยวมากที่สุดในประเทศ
แม้ปัจจุบันยังไม่มีการเก็บสถิติแม่เลี้ยงเดี่ยวเป็นทางการ แต่อ้างอิงข้อมูลโครงการเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด ซึ่งให้สิทธิครัวเรือนที่มีเด็กแรกเกิดถึง 6 ปี ฐานะยากจนมีรายได้ไม่เกิน 1 แสบบาทต่อปี ตั้งแต่ปี พ.ศ.2558-2565 พบว่าประเทศไทยมีแม่เลี้ยงเดี่ยว 96,855 ราย แบ่งเป็นพื้นที่กรุงเทพฯ 4,416 ราย รองลงมาเป็น จ.อุดรธานี 3,766 ราย นครราชสีมา 3,737 ราย นครศรีธรรมราช 3,416 และอุบลราชธานี 3,314 ราย
ในส่วนกรุงเทพฯ พบเขตที่มีแม่เลี้ยงเดี่ยวมากที่สุดคือ เขตคลองสามวา 291 ราย รองลงมาลาดกระบัง 259 ราย มีนบุรี 241 ราย ประเวศ 218 ราย และหนอกจอก 210 ราย
ด้านการศึกษาของมารดา พบว่าส่วนใหญ่จบชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น รองลงมาเป็นประถมศึกษา ส่วนด้านอาชีพ พบว่าส่วนใหญ่ไม่ได้ประกอบอาชีพถึง ร้อยละ 70 รองลงมาอาชีพรับจ้าง ร้อยละ 16.06


“ศูนย์ฯ เป็นอาคาร 3 ชั้น ให้บริการครบวงจร ตั้งแต่ให้คำปรึกษาแนะนำ อาทิ ด้านกฎหมาย ด้านสวัสดิการ ด้านครอบครัว ฯลฯ อีกทั้งแนะนำอาชีพ ฝึกอาชีพที่สามารถเรียนจบแล้วไปประกอบอาชีพได้เลย เช่น แม่บ้าน ทำอาหาร ทำขนม ทำน้ำชง สปากระเป๋า ซ่อมรองเท้า เรียนระยะสั้น กลาง ยาว ซึ่งมีที่พักและอาหารให้บริการสำหรับแม่เลี้ยงเดี่ยวระหว่างฝึกอาชีพ”
“ระหว่างฝึกอาชีพอยู่นั้น แม่และเด็กยังได้รับการส่งเสริมพัฒนาการและทักษะ บริการทางสุขภาพจิต ตลอดจนประสานส่งต่อให้หน่วยงานเฉพาะทางให้ความช่วยเหลือ ฉะนั้นถือว่ามีประโยชน์อย่างมากกับแม่เลี้ยงเดี่ยว”
อธิบดี สค.แนะนำอาชีพแม่บ้าน ฝึกระยะสั้น ใช้เวลา 3 วัน เรียนจบแล้วได้ประกาศนียบัตร จากนั้นจะออกหางานเองก็ได้ หรือรอศูนย์ฯ ประชาสัมพันธ์ช่วยหางานให้ก็ดี ซึ่งขณะนี้ได้ร่วมมือกับบริษัทลูกในสังกัดการเคหะแห่งชาติ (กคช.) ประสานส่งแม่บ้านไปรับจ้างทำความสะอาดในโครงการที่พักอาศัยของ กคช.
“ที่เราอบรมไม่ใช่แม่บ้านแบบสมัยก่อน ที่ทำงานทั้งวันได้ค่าตอบแทนแบบเหมาจ่าย แต่ของเราคือแม่บ้านมืออาชีพ ที่สามารถคำนวณพื้นที่การทำความสะอาดต่อตารางเมตร แล้วเรียกค่าใช้จ่ายได้เลย เป็นแม่บ้านที่มีอุปกรณ์ประกอบอาชีพเป็นของตัวเอง กระทั้งพวกน้ำยาล้างต่างๆ ก็นำมาเองหมด
“อย่างดิฉันก็ว่าจ้างแม่บ้านที่ผ่านการอบรมมาทำแล้ว ทำไม่กี่ชั่วโมง ได้ค่าจ้างเป็นหลักพันบาท ที่สำคัญคือทำความสะอาดได้ดีจริง จนแนะนำบอกต่อเพื่อนๆ ในหมู่บ้าน ฉะนั้นถือเป็นอาชีพที่เหมาะกับแม่เลี้ยงเดี่ยวจริงๆ ทำเป็นชั่วโมง สามารถรับงานละแวกที่อยู่อาศัยปัจจุบัน หากมีงานหลักอยู่แล้ว มาเรียนเพื่อหารายได้เสริมก็ยิ่งดี”


เช่นเดียวกับอาชีพทำอาหาร ทำขนม และอาชีพอื่นๆ ศูนย์นอกจากจะฝึกให้แล้ว ยังเป็นศูนย์คอยรับงาน รับออร์เดอร์ให้ ขณะที่หลายๆ คนที่เรียนจบแล้ว อยากประกอบธุรกิจเป็นของตัวเอง สค.ได้ประสานธนาคารออมสินให้ผู้อบรมจบหลักสูตร เข้าถึงแหล่งเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ และภาคเอกชนสนับสนุนอุปกรณ์ประกอบอาชีพฟรี
แต่ด้วยความยากลำบากครอบครัวเลี้ยงเดี่ยว จนอาจเข้าไม่ถึงโอกาสตรงนี้ สค.จึงใช้ระบบ business intelligence (bi) ในการวิเคราะห์ลงลึกระดับครัวเรือน เพื่อทำงานเชิงรุกหาแม่/พ่อ และครอบครัวเลี้ยงเดี่ยวในชุมชน โดยมีอาสาสมัครพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (อพม.) เข้าไปค้นหา และให้การช่วยเหลือ
อธิบดีกรม สค. กล่าวทิ้งท้ายว่า ทั้งหมดนี้เป็นบริการประชาชนที่ฟรีทุกอย่าง ก็อยากเชิญชวนแม่/พ่อและครอบครัวเลี้ยงเดี่ยว มาใช้บริการ อาจไม่ใช่พ่อแม่โดยตรง แต่เป็นป้า น้า อาที่ต้องเลี้ยงหลานเพียงลำพังก็ได้ ไม่จำเป็นว่าเด็กต้องเป็นเด็กเล็ก เพราะสามารถโตกว่านั้นได้ แต่ต้องยังไม่บรรลุนิติภาวะ
ใช้บริการศูนย์บริการแม่เลี้ยงเดี่ยวและครอบครัว กรุงเทพฯ อยู่เลขที่ 44 ซอยประดิษฐ์มนูญธรรม 19 เขตลาดพร้าว กรุงเทพฯ 10230 โทร. 0-2538-3919 หรือไลน์ :@linefamily


