สรุป ‘บอสณวัฒน์’ แจงดราม่า ‘เฌอเอม’ เปิดสัญญาก่อนเข้ากอง วอนคนเคร่งอย่ามาประกวด
จากกระแสดราม่า เวทีมิสแกรนด์ไทยแลนด์ กรณีเรื่องที่ เฌอเอม-ชญาธนุส ศรทัตต์ มิสแกรนด์ลำพูน ปฏิเสธกิจกรรมดูดวง และ “บอส-ณวัฒน์ อิสรไกรศีล” ได้ให้สิทธิ์ไม่ต้องดู แต่เฌอเอมขอใช้สิทธิ์ให้เพื่อนดูนั้น จนเกิดเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ จนบอสณวัฒน์ออกมาร่ายยาว ทำเอากองเชียร์เสียงแตก เพราะเป็นประเด็นที่ค่อนข้างละเอียดอ่อน
เมื่อวันที่ 26 เมษายน ในการประกวด มิสแกรนด์ ไทยแลนด์ 2023 รอบ Preliminary Show ณวัฒน์ อิสรไกรศีล ตั้งโต๊ะให้สัมภาษณ์ทุกประเด็นที่เกิดขึ้น ณ MGI HAll 2 ชั้น 6 ศูนย์การค้า Show DC ดังนี้
ณวัฒน์ กล่าวว่า การประกวดมิสแกรนด์ไทยแลนด์เป็นการประกวดเพื่อหาคนพร้อมใช้ และก่อนเข้ากองจะมีเอกสารให้เซ็นสัญญา ซึ่งในกฎข้อ 8 เป็นการยอมปฏิบัติทุกกิจกรรมที่กองประกวดต้องการ ซึ่งเฌอเอมยอมปฏิบัติทุกประการ
“เฌอเอมเป็นคนฉลาด เฌอเอมอ่านด้วยตัวเอง และเฌอเอมอ่านแล้วลงลายมือชื่อทุกอย่างว่ารับรู้ และตกลงในเงื่อนไข กองประกวดมิสแกรนด์ไทยแลนด์มีมาตรฐานสูง การเซ็นข้อตกลงที่มีปัญหา ก็ต้องกรอกในนี้ ว่ามีอะไรที่ไม่สามารถทำได้”
ณวัฒน์ กล่าวอีกว่า ขอพูดถึงหลักการก่อน หลายคนไปโจมตีว่า เอามาโพสต์เพื่อบังคับ และบอกว่าเป็นประชาธิปไตย ผมขออธิบายว่าประชาธิปไตยคือเรื่องของการเมืองที่มีผลต่อประชาชน อันนี้มีผลต่อองค์กร และผู้เข้าประกวด มันไม่ใช่เรื่องประชาธิปไตยที่คนจะลากผมไปแบบนั้น
“ประชาธิปไตยหมายถึงการเมืองที่มีผลต่อประชาชนทั้งประเทศ เฌอเอมกับผมไม่ได้มีผลประโยชน์ใดๆ กับประเทศ แต่นี่คือธุรกิจที่เรามีข้อตกลงก่อน คือมาตรฐานของมิสแกนด์ ข้าพเจ้าอ่านทุกข้อ และเซ็นรับด้วยตัวเอง ซึ่งข้อ 8 เป็นข้อสำคัญ คือ ยอมเข้าร่วมกิจกรรมทุกกิจกรรม หากขาดกิจกรรมเกิน 2 ครั้ง เราสามารถปลดได้ นี่คือ กฎกติการในการอยู่ร่วมกันของสังคม”
ณวัฒน์ ยอมรับว่า ไม่ทราบว่าเฌอเอมนับถือศานาคริสต์ สำหรับเรื่องการดูดวง ถ้าน้องบอกว่า ไม่ทราบ ถือว่าน้องบกพร่องในการปฏิบัติหน้าที่ เพราะทั้งในเฟซบุ๊ก ทั้งในกรุ๊ปนางงาม ผมก็เป็นคนแจ้งด้วยตัวเอง และทีมงานก็แจ้ง การทำงานมีระบบ
“เปิดให้ดูไลน์กรุ๊ปนางงาม มีทั้งหมด 97 คน รวมทั้งผมด้วย ซึ่งผมก็จะมีการแจ้งไปชัดเจนตลอดเวลา โดยแจ้งเวลา ประมาณ 10.08 น. ทุกอย่างเราทำงานมีขั้นตอนหมดทุกประการ และในด้อมน้องรู้เรื่องนี้ จึงระดมโหวต น้องขึ้นมาเป็นอันดับ 1”
“เราก็ไม่รู้ว่าเหตุการณ์อะไรจะเกิดขึ้น พอไลฟ์ เฌอเอมยังไม่มา ไลฟ์ไปได้ 3-4 นาที ถึงจะมา ผมเห็นเฌอเอมแปลกๆ เดินมาแล้วหน้าหงิก ใส่หมวก ตาขวาง นั่งไขว่ห้าง และไม่สนใจใคร ผมก็เกิดคำถามว่าเกิดอะไรขึ้น และไปถามทีมงาน ซึ่งทุกคนมีเครื่องหมายคำถามกันหมด ซึ่งทีมงานบอกว่า น้องไม่อยากดู แต่มันออกอากาศไปแล้ว ถ่ายทอดสด แล้วคนดูเยอะมาก 20K”
“เมื่อถึงคิวน้อง ผมพูดเป็นคำแรกว่า เป็นอะไรหรือเปล่า น้องบอกว่า ไม่สะดวกใจที่จะดู เพราะเฌอเอมเป็นคริสต์ ผมก็บอกว่า ทำไมไม่แจ้งผมก่อน ไลน์ผมก็มี และเมื่อมีเรื่องกลับส่งข้อความมาหาผมในไลน์ ตอนตี 1 หลังมีเรื่อง ว่าขอโทษที่ทำให้เกิดปัญหา”
“ถ้าเป็นเรื่องอันตรายทำไมไม่ดิวกับผม แต่พอมีปัญหาดิวมาหาผมได้ ซึ่งเมื่อผมมาทราบเอาหน้างาน ผมก็อธิบายให้ฟัง การที่ผมอธิบายเป็นความรู้สึก เป็นเรื่องของผม จงอย่ามาก้าวก่ายเรื่องที่ผมพูด”
“จะมาทำงานบริษัทเราใช่ไหม เราขออนุญาตนำเสนอความคิดของเรา ผมไม่ได้บอกว่า ให้คุณทำแบบนี้ และผมก็สอนน้องว่า เราจะได้เข้าถึงทุกกลุ่มคน จากนั้นก็ไปอธิบายในติ๊กต๊อก ผมกำลังมองภาพใหญ่ ถ้าน้องจับพลัดจับผลูเป็นนักแสดง ต้องบวงสรวง หรือต้องทำในเรื่องของความเชื่อ มันจะทำไม่ได้ ผมก็พูดว่าถ้าจะอยู่ในวงการบันเทิงเราต้องคิดอีกแบบ หรือถ้าน้องอยากเป็นนักการเมือง ต้องเข้าชุมชน ต้องไปงานบวชงานแต่ง เราก็มองภาพ เราก็บอกว่า ถ้าทำไม่ได้ ก็ไม่รู้จะไปทางไหน นี่คือความคิดของผม แค่นี้เอง ผมกำลังสอนคนที่เขาเดินตามความฝันของเขา”
ณวัฒน์ ย้อนเล่าถึงเหตุการณ์ว่า ประโยคสุดท้ายก่อนที่น้องจะวางไมค์อย่างรุนแรง ผมพูดว่า อย่างนั้นไม่ต้องดูก็ได้ ผมไม่เคยบังคับเลย ถ้าเป็นคนที่เข้าใจที่ผมพูด ก็ต้องพูดว่า หนูขอไม่ดู ขอโทษพี่ณวัฒน์ และขอโทษผู้ชม ทุกอย่างก็จบลง ยกมือไหว้สักครั้ง
“แต่น้องไม่จบ น้องบอกว่า หนูขอใช้สิทธิ์ให้เพื่อนมาดูแทน ซึ่งเกมนี้เป็นเกมกองประกวด หนูจะมาเพิ่มกติกาด้วยตัวหนูเอง หนูเป็นใคร เราก็บอกไม่ได้หรอกครับ สิทธิ์เหมือนกันทุกคนจะไปเรียกคนอื่นไม่ได้ ก็หนูอยากให้เรียกคนอื่นมาช่วยถาม ผมบอกว่า ไม่ได้จริงๆ”
“มันไม่น่ารัก และเท่านั้นยังไม่พอ เค้ายังบอกว่า ขอหนูพูดกับแฟนคลับหน่อยได้มั้ย ซึ่งนี่ไม่ใช่ทอล์กโชว์ เราก็บอกว่า พูดไม่ได้ เค้าก็บอกว่า ขอหนูพูดอีกครั้งหนึ่ง นี่อาจเป็นครั้งสุดท้าย ผมก็ไม่เข้าใจ ทำไมต้องทุบผมหลังแอ่นขนาดนี้ ผมอยู่ในวงการมา ผมไม่เคยเจอเด็กต่อต้านหรือปฏิเสธ หรือพยายามกระแทกแหกกฎได้เยอะขนาดนี้ ผมก็เลยบอกตรงๆ ว่า ไม่ได้ครับ”
“ขอโทษสักคำก็ไม่มี ก้มหัวสักครั้งก็ไม่มี ไหว้สักทีก็ไม่ให้ เชิดหน้า รุ่นพี่ ซีอีโอเต็มไปหมด เดินเชิดแล้วก็เดินออกไป ที่โกรธคือมารยาท และการต่อรองที่ไม่ควรต่อรอง”
ณวัฒน์ กล่าวอีกว่า ถ้าเคร่งจริงๆ กิจกรรมการประกวด ก็ไม่ควรที่จะมา ผมอยากให้คนที่เคร่ง วิงวอนอย่ามาประกวด
“ผมยืนยันว่าผมเคารพทุกศาสนา และผมสอนในสิ่งที่ผมอยู่วงการบันเทิงมา 25 ปี ผมก็บอกว่า มันคือเอนเตอร์เทนเมนต์ และคือหนึ่งในการแสดง”
อย่างไรก็ตาม เฌอเอม ได้ขอโทษณวัฒน์แล้ว โดย ณวัฒน์ให้สัมภาษณ์ว่า “ผมเฉยๆ ไม่ได้คุย ผมกำลังทำธุระอยู่กับลูกน้อง น้องก็พุ่งเข้ามาโดยไม่แจ้งใครก่อน ตกใจเหมือนกัน พูดๆ 2 คำ แล้วน้องก็หายไปประมาณ 5-6 นาที และก็วิ่งมาอีกครั้ง มีดอกไม้ ชอร์ตแรกมาพูดว่า ขอโทษนะคะพี่ณวัฒน์ หนูเข้าใจแล้วค่ะ หนูจะปรับตัวให้ หลังจากนั้นก็มีส่งข้อความตอนตี 1 ตอนนี้ผมไม่ได้อยากคุยอะไรกับน้องแล้ว ซึ่งก็มีผลต่อการประกวดในเวลาที่เหลือ”
“เราตัดทุกเรื่องออกไป ที่นี่คือที่รับสมัครงาน คะแนนจิตพิสัย ไม่น่าจะเหลือ มีผลต่อการเข้ารอบแน่นอน เพราะน้องไม่สามารถร่วมงานได้”
“เรื่องนี้เป็นอุทาหรณ์ และปีหน้าจะรอบคอบกว่านี้ เพราะการดูดวงไม่ใช่ครั้งแรกของมิสแกรนด์ และเค้าก็ต้องรู้ว่านี่คือสิ่งที่จำเป็นต้องเจอ เพราะถ้าไม่อยากเจอไม่ควรจะร่วมประกวด คนที่เครียดหรือเคร่งต้องพิจารณาตัวเองให้ดีว่าไม่ควรอยู่ในวงการบันเทิง”
สำหรับความรู้สึกตอนนี้ ณวัฒน์กล่าวว่า “รู้สึกว่างๆ จริงๆ คนเราก็ต้องให้โอกาสคน แต่ผลลัพธ์จะเป็นยังไงไม่รู้ ผมก็คิดว่า น้องตั้งใจอยากมาเป็นมิสแกรนด์ไทยแลนด์ ถึงขนาดเปลี่ยนตัวเองไปเยอะ”
