รู้จัก ‘เลดี้ เบิร์ด จอห์นสัน’ จาก ‘เสียง’ ที่อดีตสตรีหมายเลข 1 แห่งสหรัฐฯ ทิ้งไว้

AP Photo/File

รู้จัก ‘เลดี้ เบิร์ด จอห์นสัน’ จาก ‘เสียง’ ที่อดีตสตรีหมายเลข 1 แห่งสหรัฐฯ ทิ้งไว้

เจด เอเมอร์สัน นักศึกษามหาวิทยาลัยเท็กซัส สหรัฐอเมริกา พบว่าเธอเองเต็มไปด้วยความสุข ความสนใจ เมื่อเข้ามาทำรายการพอดแคสต์ ‘เลดี้ เบิร์ด (Lady Bird)’ ที่เปิดโอกาสให้ได้ฟังเรื่องราวชีวิตของ เลดี้ เบิร์ด จอห์นสัน อดีตสุภาพสตรีหมายเลข 1 แห่งสหรัฐอเมริกาตั้งแต่ความทรงจำในวัยเด็ก รวมถึงคำปรึกษาที่เคยให้แก่ ลินดอน บี. จอห์นสัน สามีเมื่อครั้งดำรงตำแหน่งประธานาธิดีสหรัฐอเมริกา “ฉันตกหลุมรักเรื่องราวของเธออย่างรวดเร็ว เธอมีเรื่องราวทำให้ฉันประหลาดใจได้ตลอด” เอเมอร์สัน โปรดิวเซอร์ และผู้จัดรายการพอดแคสต์ บอกกับเอเอฟพี

จากบทความของเอเอฟพี เล่าว่ารายการพอดแคสต์เลดี้ เบิร์ด เริ่มออกอากาศเมื่อต้นปี 2566 เป็นผลงานหนึ่งในอีกหลายผลงานที่นำเสียงจริงของเลดี้ เบิร์ด จอห์นสันที่เคยเล่าเรื่องราวต่างๆบันทึกเสียงไว้ มาให้ผู้คนได้เรียนรู้เรื่องราวชีวิตของอดีตสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งแห่งสหรัฐอเมริกา ผู้มีบทบาทสำคัญและ ทำงานเคียงข้างสามี ก่อนจะเสียชีวิตด้วยโรคชราเมื่อปี 2550 ขณะอายุ 94 ปี โดยผลงานอื่นๆที่มีออกมาแล้วก็เช่นภาพยนตร์สารคดีเรื่อง The Lady Bird Diaries ออกฉายทางช่องฮูลู (Hulu) และนิทรรศการเลดี้ เบิร์ด : บียอนด์ เดอะ ไวลด์ฟลาวเวอร์ ที่ห้องสมุด LBJ Presidential Library ในมหาวิทยาลัยเท็กซัส เมืองออสติน ซึ่งจะมีไปจนถึงสิ้นปี 2566

เลดี้ เบิร์ด จอห์นสัน เริ่มบันทึกเสียงของเธอเองทุกวันในช่วงเวลาสำคัญต่างๆ เมื่อสามีเธอขึ้นดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา หลังจากประธานาธิบดีจอห์น เอฟ.เคนเนดี ถูกลอบสังหารในเมืองดัลลัส รัฐเท็กซัส เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2506

ADVERTISMENT

หลังจากเลดี้ เบิร์ด จอห์นสัน เสียชีวิตไปราว 10 ปี ห้องสมุด LBJ Presidential Library ได้นำเทปบันทึกเสียงของอดีตสุภาพสตรีหมายเลข 1 ผู้นี้มาเผยแพร่ รวมถึงเทปสัมภาษณ์ต่างๆที่เลดี้ เบิร์ด จอห์นสันได้ทำไว้เมื่อสามีขึ้นเป็นผู้นำสหรัฐฯ รวมทั้งโฮม วิดีโอต่างๆที่เลดี้ เบิร์ดฯ เป็นผู้ให้เสียงบรรยาย

AP Photo/Eric Gay

“ฉันไม่รู้ว่ามีผู้คนรู้สึกชื่นชมหรือรู้กันดีว่าเธอทำงานอยู่เบื้องหลังมากมายแค่ไหน ฉันคิดว่าเรื่องราวต่างๆเหล่านั้นเพิ่งจะเริ่มออกมาจริงๆแล้วตอนนี้” ลารา ฮอลล์ ภัณฑารักษ์ห้องสมุดประธานาธิบดี LBJ บอก

ADVERTISMENT

ทั้งนี้ในนิทรรศการเลดี้ เบิร์ด : บียอนด์ เดอะ ไวลด์ฟลาวเวอร์ ที่ห้องสมุด LBJ Presidential Library ผู้เข้าชมจะได้เห็นถึงวิธีการมากมายที่เลดี้ เบิร์ด จอห์นสัน สร้างผลกระทบที่สำคัญ

เอเมอร์สัน บัณฑิตนิเทศศาสตร์จากมหาวิทยาลัยเท็กซัส จบการศึกษาเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา เล่าว่าเธออาศัยบทสัมภาษณ์ต่างๆที่เลดี้ เบิร์ด จอห์นสัน เคยร่วมทำกับเจ้าหน้าที่ห้องสมุดประธานาธิบดี LBJในช่วงหลายทศวรรษ หลังจากสามีเธอพ้นตำแหน่งจากทำเนียบขาวเมื่อปี 2512 เป็นวัตถุดิบในการทำรายการพอดแคสต์นี้

“แค่ได้ฟังเธอบอกเล่าเรื่องราวของตัวเองก็เป็นเรื่องที่น่าทึ่งมากๆแล้ว แต่เธอยังทำให้ฉันประหลาดใจได้เรื่อยๆ อย่างเช่นในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง เมื่อประธานาธิบดีลินดอน บี.จอห์นสันไม่ได้ปฎิบัติหน้าที่ เธอเป็นคนทำหน้าที่ในรัฐสภาช่วงทศวรรษ 1940s. เธอยังซื้อสถานีวิทยุกระจายเสียงในเมืองออสติน และเดินทางไปที่ออสตินเพื่อปรับปรุงสถานีฯ และทำให้มันออกอากาศได้อีกครั้ง”

AP Photo/Eric Gay

ลูซี เบนส์ จอห์นสัน ลูกสาวของเลดี้ เบิร์ด จอห์นสัน เล่าว่าทุกวันนี้เธอยังจำได้ดีถึงความรู้สึกตอนเธออายุ 16 เมื่อเห็นป้ายห้อยที่ลูกบิดประตูหน้าห้องแม่เขียนว่า “ฉันต้องการอยู่ตามลำพัง” ทั้งนี้เพราะแม่ของเธอชอบใช้เวลานั่งอัดเสียงลงเทป โดยอาศัยความทรงจำต่างๆที่ผุดขึ้นมาระหว่างนั่งดูรูปถ่ายต่างๆ จดหมายต่างๆ และข้อมูลอื่นๆที่อาจกระตุ้นความทรงจำของแม่

“เธอแค่ต้องการขอให้โลกมอบเวลาให้เธอได้ทำสิ่งที่เธอได้รับการฝึกฝนมาโดยเฉพาะ” ลูซี เล่าว่าแม่เธอจบการศึกษาด้านประวัติศาสตร์และสื่อสารมวลชนจากมหาวิทยาลัยเท็กซัส “เธอไม่เคยหยุด เธอมีความคิดว่าวันที่ไม่มีการเรียนรู้อะไรเลยคือวันที่สูญเปล่า”

ขณะที่เอเมอร์สัน เล่าถึงการมีโอกาสทำรายการพอดแคสต์ว่า “มันเหมือนของขวัญชิ้นใหญ่ เธอ (เลดี้ เบิร์ด จอห์นสัน)สอนฉันมากมายเกี่ยวกับมรดกที่ฉันอยากทิ้งไว้เบื้องหลังเกี่ยวกับชีวิตของฉัน และวิธีปฎิบัติต่อคนอื่น ทุกครั้งที่ได้ฟังเสียงเธอ ฉันก็เผลอยิ้มโดยไม่รู้ตัว”

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image