ถวายพระราชกุศล ‘เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา’ ลงนามบันทึกร่วมมือ ‘ช่วยเหลือผู้ต้องขังทั่วปท.’
กองทุนกำลังใจในพระดำริพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา จัดพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจความร่วมมือ กับ สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา กรมส่งเสริมการเรียนรู้ กระทรวงศึกษาธิการและกรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรมเพื่อสนับสนุนการดำเนินงานตามโครงการกำลังใจในพระดำริพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภาและถวายเป็นพระราชกุศลเนื่องในวันคล้ายวันประสูติของสมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ณ ทัณฑสถานหญิงกลาง กรุงเทพฯ
พลอากาศเอก สมคิด สุขบาง กรมวังใหญ่ผู้ใหญ่ประจำพระองค์ 908 กล่าวว่า เมื่อปี 2564 สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภาฯ เคยพระราชทานแนวทางที่จะให้สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา กระทรวงศึกษาธิการเข้ามาช่วยพัฒนาผู้ต้องขัง จนถึงขั้นที่มีการยกร่างบันทึกความเข้าใจ และเตรียมที่จะมีการลงนามร่วมกันระหว่างกองทุนกำลังใจฯ และสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา และเพื่อสืบสานพระปณิธานในสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภาฯ กองทุนกำลังใจในพระดำริฯ จึงได้จัดพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจความร่วมมือขึ้น เพื่อพัฒนาผู้ต้องขังทั้งชายและหญิงให้มีความพร้อมทุกด้านทั้งร่างกายและจิตใจก่อนออกไปสู่สังคมภายนอก และถวายเป็นพระราชกุศลเนื่องในวันคล้ายวันประสูติของสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภาฯ วันที่ 7 ธันวาคม 2566
“กรอบขอความร่วมมือระหว่างหน่วยงานจะประกอบด้วย การร่วมกัน กำหนดกรอบ แนวทาง และแผนงาน การจัดฝึกอบรมวิชาชีพ ในสาขาวิชาที่เกี่ยวข้อง ให้แก่ผู้ต้องขัง ในโครงการกำลังใจ ,การจัดกิจกรรมแนะแนวอาชีพ ให้แก่ผู้ต้องขัง ในโครงการกำลังใจ ,การสำรวจความต้องการอาชีพของผู้ต้องขัง ในโครงการกำลังใจ ,การพัฒนาหลักสูตรการจัดการเรียนการสอน และการฝึกอบรมวิชาชีพ ,การจัดให้มีการฝึกอบรมทักษะวิชาชีพ การพัฒนาทักษะชีวิต และทักษะที่จำเป็น เพื่อยกระดับความรู้ให้แก่ผู้ต้องขังในโครงการกำลังใจ เพื่อนำไปประกอบอาชีพ โดยผลการดำเนินสาระสำคัญประการหนึ่งคือ จะต้องปลูกฝังให้ผู้ต้องขังได้มีความรู้ ความเข้าใจและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณต่อสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ เนื่องด้วยสถาบันพระมหากษัตริย์ได้เข้ามาช่วยเหลือและพัฒนาผู้ต้องขังในโครงการต่างๆ เช่น ด้านสุขภาพและความเป็นอยู่ในเรือนจำภายใต้โครงการราชทัณฑ์ปันสุข ทำความดีเพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ และผู้ต้องขังได้รับการพัฒนาอาชีพและจิตใจ ภายใต้หลายๆ โครงการ ” พลอากาศเอก สมคิด สุขบาง กล่าว
ด้านพันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่าสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภาฯ ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณที่ยิ่งใหญ่ต่อชาวราชทัณฑ์และต่อกระทรวงยุติธรรม โดยทรงนำบทเรียนที่ดีที่เกิดจาก การให้ความสำคัญกับเด็กติดผู้ต้องขัง ซึ่งเป็นผู้บริสุทธิ์ และการเข้าใจถึงทุกข์ยากของผู้หญิงที่ต้องรับโทษจำคุกณ ทัณสถานหญิงกลางแห่งนี้ รวมทั้งการช่วยเหลือผู้ต้องขังหญิงในมิติต่างๆ ไปนำเสนอในเวทีต่างประเทศและต่อมาเวทีของสประชาติ ได้ให้การยอมรับในแนวทางดังกล่าวในชื่อของ Bangkok Reules หรือข้อกำหนดกรุงเทพฯ ซึ่งเป็นมาตรฐานสากลที่ใช้กับผู้ต้องขังหญิงทั้งในประเทศไทยและทั่วโลกมาจนถึงปัจจุบัน
ขณะที่ พลตำรวจเอก เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) กล่าวว่า แต่ละหน่วยจะเข้ามาทำหน้าที่เพื่อสนับสนุนและผลักดัน ให้ผู้ต้องขังได้รับการพัฒนาในทุกมิติเพื่อกลับคืนเป็นทรัพยากรมนุษย์ที่มีคุณภาพและมีทักษะในศตวรรษที่ 21 ของสังคม
ทั้งนี้ จะเริ่มดำเนินงาน หรือการ kick off โครงการในช่วงเดือนมกราคม 2567 เป็นต้นไป โดยจะลงไปแนะแนวให้กับผู้ต้องขังในเรือนจำต่างๆ เพื่อให้ผู้ต้องขังได้รับทราบถึงแนวทางการวางแผนชีวิตภายหลังพ้นโทษ และจากนั้นจะมีการลงไปให้ความรู้เพิ่มทักษะในด้านต่างๆ ที่ตรงตามความต้องการและตรงกับตลาดแรงงานภายนอก