หลายครอบครัวมีวิธีเลี้ยงดูลูกแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับเศรษฐสถานะ ภูมิปัญญา และวัฒนธรรมประเพณี แต่สิ่งที่เหมือนกันหมดคือ การเลี้ยงลูกด้วยความรัก
ซึ่งเป็นเรื่องราวดีๆ ของแม่ที่ได้รับการคัดเลือกให้ได้รับรางวัลแม่ดีเด่นแห่งชาติ
ประจำปี 2560 มาเปิดใจในงานแถลงข่าวจัดงานวันแม่แห่งชาติ ประจำปี 2560 ณ ตึกนวมหาราช สภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย
เริ่มที่คุณแม่ลูก 3 ที่ทำได้ดีทั้งบทบาทหน้าที่นอกบ้านและในบ้าน ปัจจุบันเป็นอาจารย์แพทย์ด้านโรคผิวหนังเด็ก โรงพยาบาลศิริราช ทำโดยไม่รับเงินเดือนมาเป็นเวลา 8 ปี
ศ.คลินิกเกียรติคุณ พญ.สุจิตรา วีรวรรณ อายุ 77 ปี แม่ดีเด่นแห่งชาติ ประเภทแม่ผู้บำเพ็ญประโยชน์ต่อสังคม เล่าว่า บทบาทความเป็นแพทย์ทำให้มีเวลาให้ครอบครัวน้อย เวลาที่อยู่กับลูกจึงเป็นเวลาคุณภาพ อย่างเวลาขับรถไปส่งลูกที่โรงเรียนก็จะคอยสอนถึงคุณธรรม การประพฤติตัวที่ดี ไม่ว่าจะเรียนอะไรขอให้ตั้งใจ หรือหากได้ใช้ชีวิตด้วยกันจะปฏิบัติตัวเป็นตัวอย่างให้เขา ซึ่งก็น่าดีใจว่าเขาซึมซาบและทำได้ดี กระทั่งลูก 2 คนก็เลือกเส้นทางเป็นแพทย์ ทั้งที่ก็เคยบอกไปก่อนแล้วว่า การเป็นแพทย์นั้นต้องทุ่มเททั้งแรงกายแรงใจ ต้องอุทิศเวลาเพื่อช่วยเหลือคนไข้ให้หายจากโรคภัย ขณะที่อีกคนก็ประสบความสำเร็จในอีกหน้าที่การงานของเขา
ขณะที่ นางทัศนีย์ ลุมพิกานนท์ อายุ 87 ปี แม่ดีเด่นแห่งชาติ ประเภทแม่ของลูกผู้ทำประโยชน์ต่อสังคมและประเทศชาติ มีบุตร 3 คน ได้แก่ ศ.นพ.ภิเศก ลุมพิกานนท์ อาจารย์แพทย์ด้านสูติศาสตร์และนรีเวชวิทยา ผู้สร้างสรรค์ผลงานวิจัยดีเด่นมากมายที่ได้รับการยอมรับทั้งในและต่างประเทศ, ดร.นฤมล เผือกขาว อาจารย์ด้านเคมีอินทรีย์ อุทิศตนในการสอนนิสิต นักศึกษา และ พล.ร.อ.จุมพล ลุมพิกานนท์ ข้าราชการทหารเรือ ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นราชองครักษ์เวรเมื่อวันที่ 14 เมษายนที่ผ่านมา เล่าว่า หลังจากแยกทางกับสามี ต้องรับหน้าที่เลี้ยงดูลูกทั้ง 3 เพียงลำพัง ทำให้นอกจากอาชีพรับราชการเป็นครูประชาบาล ยังต้องหารายได้เสริมด้วยการทำสวนและรับสอนพิเศษ เพื่อเลี้ยงดูลูกให้กินอิ่มนอนหลับ แม้ตัวเองจะอดไม่เป็นไร แต่ขอให้ลูกได้กิน ทั้งนี้ ได้พยายามปลูกฝังให้ลูกสวดมนต์ ไหว้พระก่อนนอนทุกคืน เพื่อฝึกสมาธิ รู้จักให้ การเสียสละ ช่วยเหลือสังคม
“ปัจจุบันลูกๆ ทุกคนเติบโตประสบความสำเร็จในการทำงานเพื่อประเทศชาติ แต่ก็หมั่นบอกลูกเสมอว่า ไม่ว่าทำการใดๆ ขอให้นึกถึงแม่ไว้ก่อนเสมอ เพื่อเป็นการระลึกให้ตัวเองมีความรอบคอบมากขึ้น” นางทัศนีย์กล่าว
คุณแม่ลูก 7 ฟันฝ่าความยากจน อดทนเลี้ยงลูกจนได้ดี นางเหมือน กำธรเจริญรุ่ง อายุ 84 ปี แม่ดีเด่นแห่งชาติ ประเภทแม่ผู้มีความมานะอดทน ขยันหมั่นเพียร เล่าว่า เป็นชาวนาที่มีฐานะยากจน ยิ่งพอมามีลูกถึง 7 คน ยิ่งทำให้ต้องขยันและอดทนเป็นพิเศษ อีกทั้งไม่มีใครช่วยเลี้ยง เนื่องจากสามีเข้ากรุงเทพฯไปขายหมู ทำให้ต้องรับผิดชอบตั้งแต่หุงหาอาหารให้ลูกกินไม่ให้อดอยาก ทำเสร็จก็ออกไปทำนา หรือไปส่งที่โรงเรียนเสร็จก็กลับมาทำงานบ้าน ขณะที่ช่วงเทศกาลก็หารายได้พิเศษด้วยการทำขนมขาย ซึ่งก็ทำมาตลอด พยายามสู้จนถึงทุกวันนี้ที่ยังทำงานอยู่ เพราะความรักที่มีต่อลูก แม้จะเหนื่อย แต่ก็ไม่ท้อ และไม่เคยดุด่าลูก
“ดิฉันพยายามสอนให้ลูกอดทน ขยันให้เหมือนที่ในหลวง ร.9 พระองค์สอนไว้และปฏิบัติพระองค์เป็นแบบอย่าง ดิฉันจะพูดตรงๆ ว่าแม่ไม่มีเงินนะ ของเล่นถ้าอยากได้รอให้แม่มีเงินจะพยายามหาซื้อให้ ซึ่งพวกเขาก็ฟังโดยดี โดยรวมก็พยายามอดทนอดกลั้น ต่อสู้กันมาตลอด โชคดีลูกไม่เกเร จนวันนี้สามารถสร้างเนื้อสร้างตัวมีงานทำ แม้จะแยกย้ายกันออกไป แต่ก็ส่งเงินมาให้ใช้ กลับมาหาเมื่อถึงเทศกาล ดิฉันก็รู้สึกภูมิใจ” นางเหมือนกล่าวทิ้งท้าย