รวมพลังสร้าง ‘สังคมนมแม่’ อย่างยั่งยืน

ในวันที่ 1-7 สิงหาคมของทุกปีเป็น “สัปดาห์นมแม่โลก” ที่ทุกประเทศทั่วโลกจะออกมาร่วมรณรงค์ให้แม่เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ เพราะนมแม่มีประโยชน์มากมายมหาศาล

สำหรับประเทศไทย กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ร่วมกับองค์กร Alive and Thrive องค์การยูนิเซฟ ประเทศไทย สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และมูลนิธิศูนย์นมแม่แห่งประเทศไทย ร่วมกันจัดงาน “รวมพลัง สร้างสังคมนมแม่ ให้ยั่งยืน” ในวาระสัปดาห์นมแม่โลก 2560 ในวันที่ 19 สิงหาคม ที่เซ็นทรัลพลาซา แกรนด์ พระราม 9

แพทย์หญิง ศิริพร กัญชนะ  ประธานมูลนิธิศูนย์นมแม่แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ในวันที่ 1-7 สิงหาคมของทุกปี หน่วยงานที่รณรงค์การส่งเสริมการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ในประเทศต่างๆ จะพร้อมใจกันจัดงานสัปดาห์นมแม่โลกขึ้นทุกปี โดยมีหน่วยงานที่ประสานการจัดงานโดย องค์กรเครือข่ายพันธมิตรนมแม่โลก (World Alliance for Breastfeeding Action – WABA) สัญลักษณ์โลโก้สัปดาห์นมแม่โลก 2560 ประกอบด้วยรูปผู้ใหญ่ 2 คนและเด็ก 1 คน สื่อถึงเพิ่มแรงสนับสนุนให้แข็งแกร่งขึ้น รูปผู้ใหญ่ที่มีสัดส่วนเท่าๆ กัน สื่อถึงความร่วมแรงร่วมใจของทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องกับระบบบริการสาธารณสุข เส้นวงกลมสีน้ำเงินที่เชื่อมต่อกับตัวอักษร Together สื่อถึงความยั่งยืนที่จะเกิดขึ้นได้จากการรวมพลังจากทุกฝ่าย

พญ.ศิริพร กัญชนะ

“ในประเทศไทย การรณรงค์ส่งเสริมการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ต้องอาศัยการ ปกป้อง (Protection) การส่งเสริม (Promotion) และการสนับสนุน (Support) ซึ่งธีมสัปดาห์นมแม่โลกในปีนี้ “รวมพลัง สร้างสังคมนมแม่ ให้ยั่งยืน” หมายถึง การรวมพลังของทุกฝ่าย ประกอบด้วย พลังของผู้บริหารในระดับนโยบาย – กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน กระทรวงแรงงาน และโรงพยาบาลต่างๆ พลังของสถานที่ทำงาน – ภาครัฐและเอกชนที่มีนโยบายสนับสนุนมุมนมแม่และการลาคลอด 3 เดือนให้กับพนักงาน พลังขององค์กรในระดับส่วนกลางและระดับภูมิภาคที่ทำงานสนับสนุนการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ เช่น การคิดค้นนวัตกรรมเทคโนโลยีเพื่อการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล คลินิคนมแม่ฯ พลังของภาคประชาชน ทั้งกลุ่มแม่อาสาทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด อสม. สมาชิกในครอบครัว โดยมีเป้าหมายเพื่อร่วมกันสร้าง รวมพลังกันเป็นหนึ่งเดียว ให้การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่เกิดความยั่งยืนในสังคมไทย” แพทย์หญิง ศิริพร กล่าว

Advertisement

ศาสตราจารย์ คลินิก แพทย์หญิงศิราภรณ์ สวัสดิวร เลขาธิการศูนย์นมแม่แห่งประเทศไทย กล่าวว่า ในส่วนของ “การปกป้อง” ประเทศไทยได้มีพระราชบัญญัติควบคุมการส่งเสริมการตลาดอาหารสำหรับทารกและเด็กเล็ก ผ่านความเห็นชอบจากสภานิติบัญญัติไปเมื่อวันที่ 4 เมษายน 2560 และ ประกาศบังคับใช้ในราชกิจจานุเบกษา ไปเมื่อวันที่  9 กรกฎาคม 2560 เป็นการร่วมผลักดันมากว่า 36 ปี

“กฎหมายมีใจความสำคัญ คือ ห้ามโฆษณานมผงสำหรับทารกและอาหารเสริมทารก, ห้ามบริษัททำการติดต่อกับหญิงตั้งครรภ์แม่และครอบครัว, ฉลากนมผงสำหรับทารก นมผงสำหรับเด็กเล็กและอาหารเสริมสำหรับทารกต้องแตกต่างกันและต้องแตกต่างจากฉลากนมอื่นๆ, ห้ามบริษัทจัดกิจกรรม event หรือ การประชุมสำหรับหญิงตั้งครรภ์ แม่ และบุคลากรสาธารณสุข โดย พรบ. นี้ เป็นกฎหมายห้ามโฆษณาอาหารทารก อายุ 0 – 12 เดือน ในส่วนอาหารเด็กเล็ก 1 -3 ปี โฆษณาได้ แต่ต้องไม่เป็นการโฆษณาข้ามผลิตภัณฑ์ หรือ สื่อถึงอาหารทารก และห้ามไม่ให้มีการส่งเสริมการขายอาหารสำหรับทารกและเด็กเล็ก” ศาสตราจารย์ คลินิก แพทย์หญิงศิราภรณ์ กล่าว

ศาสตราจารย์ คลินิก แพทย์หญิงศิราภรณ์ สวัสดิวร

จากข้อมูลรายงานสถานการณ์การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ของประเทศไทย (MICS 6th by UNICEF – พ.ศ. 2558 – 2559) พบว่า แม่เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ล้วนถึง 6 เดือน มีอัตราร้อยละ 23 แม่ที่สามารถให้นมแม่ได้ถึง 1 ปี มีอัตราร้อยละ 24 แม่ที่สามารถให้นมแม่ได้ถึง 2 ปี มีอัตราร้อยละ 13

Advertisement

ซึ่งอุปสรรคสำคัญที่แม่ไม่สามารถเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ได้สำเร็จ คือ การเริ่มต้นในโรงพยาบาล และ ระยะ 2 สัปดาห์แรก หลังจากที่แม่ออกจากโรงพยาบาลและกลับมาอยู่ที่บ้าน และอยู่ในชุมชน

ดังนั้น เส้นทางเพื่อช่วยให้แม่ให้นมแม่ได้สำเร็จ เริ่มจากโรงพยาบาล ไปสู่ชุมชน และครอบครัว ต้องให้การสนับสนุน ส่งเสริม และปกป้อง ให้แม่สามารถเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ได้อย่างเต็มที่ ประกอบด้วย 6 ประเด็น คือ 1.ลงทุน 9 เดือน กำไรตลอดชีวิต 2.รู้ว่ามีน้อง ฝากท้องทันที 3.โฟเลต ไอโอดีน ธาตุเหล็ก สำคัญต่อลูกในท้อง 4.ชั่วโมงแรกที่ลูกเกิดบอกหมอ พยาบาล ช่วยนำลูกมาวางบนอกแม่ตั้งแต่ในห้องคลอด 5.วันแรกที่ลูกเกิดแยกแม่แยกลูกหลังคลอดไม่ดีนะ 6.น้ำนมมาแน่ถ้าแม่รู้และทำถูกวิธี

แพทย์ศิริพัฒนา ศิริธนารัตนกุล ประธานคณะอนุกรรมการสื่อสาร มูลนิธิศูนย์นมแม่แห่งประเทศไทย กล่าวเสริมว่า การรวมพลังเพื่อให้ทุกฝ่ายผนึกกำลังสร้างความยั่งยืนให้กับสังคมไทย ในงานนี้ใช้เพลงเป็นสื่อกลางในการสื่อสาร ด้วยการเชิญ “น้องใบพลู” ด.ญ.ภาวิดา พรวัฒนานุกุล เป็นตัวแทนของหนูน้อยนมแม่ที่กินนมแม่ถึงอายุ 5 ขวบ และมีความสามารถทางการร้องเพลง มาขับร้องเพลง “พลังรักนมแม่” สื่อความหมายถึง การรวมพลังของผู้ที่รักนมแม่ โดยเริ่มจาก ความรักที่เกิดจากสายสัมพันธ์ระหว่างแม่ลูก และได้แผ่ขยายออกไปสู่สังคมในวงกว้าง งานรวมพลัง สร้างสังคมนมแม่ให้ยั่งยืน ได้ใช้เพลงดังกล่าวเพื่อรณรงค์ให้ภาครัฐ ภาคประชาชน ร่วมกันสร้างสังคมนมแม่ให้เกิดความยั่งยืนในสังคมไทยตลอดไป

พญ.ศิริพัฒนา ศิริธนารัตนกุล

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image