จากคำถาม “มารีญา” เวทีมิสยูนิเวิร์ส แอมเนสตี้ ชวนทำความรู้จัก “โซเชียล มูฟเมนต์”

จากการตอบคำถามของ มารีญา พูลเลิศลาภ ตัวแทนประเทศไทย ในรอบ 5 คนสุดท้าย ในประเด็นคำถามที่ว่า “อะไรคือความเคลื่อนไหวทางสังคม (โซเชียล มูฟเมนต์) ที่สำคัญที่สุดในยุคของคุณ และทำไม” ซึ่ง มารีญาได้ตอบไปแล้วนั้น กลายเป็นที่สงสัยของคนบนโลกสังคมออนไลน์ว่า ถึงคำว่า “โซเชียล มูฟเมนต์” หมายถึงอะไร

ทางแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ในฐานะโซเชียล มูฟเมนต์ ที่ใหญ่ที่สุดกลุ่มหนึ่งของโลก ได้ออกมาอธิบายผ่านเฟซบุ๊กว่า โซเชียล มูฟเมนต์ ไทยแลนด์ เรื่อง การเคลื่อนไหวทางสังคม ไว้ว่า

Social Movement หรือ “การเคลื่อนไหวทางสังคม” เป็นปฏิบัติการของกลุ่มคนที่มีเป้าหมายเดียวกัน คือ ต้องการเปลี่ยนแปลงสังคมที่พวกเขาอาศัยอยู่ในประเด็นต่างๆ เช่น การเมือง สิ่งแวดล้อม เชื้อชาติ สิทธิผู้หญิง LGBT โรคเอดส์ คนพิการ ฯลฯ

ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร ระบุว่า การเคลื่อนไหวทางสังคมเติบโตมาพร้อมกับอุดมการณ์เสรีนิยมประชาธิปไตย ซึ่งให้ความสำคัญกับเสรีภาพในการแสดงออกและการมีส่วนร่วมของประชาชนอย่างมาก โดยเชื่อว่าเมื่อประชาชนถูกกดขี่ข่มเหงหรือไม่ได้รับความเป็นธรรม พวกเขาย่อมมีสิทธิออกมาแสดงความเห็น วิพากษ์วิจารณ์ ประท้วง และเรียกร้องความยุติธรรมให้ตัวเองได้

Advertisement

กลุ่มคนที่เข้าร่วมกับการเคลื่อนไหวทางสังคมมีความหลากหลายแตกต่างกันไปในแต่ละบริบท บางกลุ่มเป็นคนที่ออกมาต่อสู้เพื่อปลดแอกจากอำนาจผู้ปกครองที่ไม่เป็นธรรม บางกลุ่มเป็นคนยากจนที่ต้องการพัฒนาคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น และบางกลุ่มเป็นชนชั้นกลางไปจนถึงชนชั้นสูงที่แย่งชิงอำนาจทางการเมืองระหว่างกัน

การเคลื่อนไหวทางสังคมในบางประเด็นขยายตัวจากในประเทศจนได้รับการยอมรับเกือบทั่วโลก โดยบางประเด็นมีต้นกำเนิดในโลกตะวันตก เช่น สิทธิและความเท่าเทียมของผู้หญิง การแต่งงานของคนเพศเดียวกัน แต่บางเรื่องก็มาจากโลกตะวันออก เช่น หลักการไม่ใช้ความรุนแรง (อหิงสา) ของมหาตมา คานธี

การเคลื่อนไหวที่เป็นที่รู้จักและได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง เช่น การเรียกร้องสิทธิพลเมืองของคนดำในสหรัฐฯ ซึ่งนำโดยมาร์ติน ลูเธอร์ คิง จูเนียร์ อาหรับสปริงส์ในภูมิภาคตะวันออกกลาง การรณรงค์ลดใช้ถุงพลาสติกเพื่อแก้ปัญหาโลกร้อน การเปิดโปงข้อมูลการละเมิดสิทธิมนุษยชนของรัฐบาลทั่วโลกโดยวิกิลีกส์ หรือแม้กระทั่งการเคลื่อนไหวต่อต้านเผด็จการของนักศึกษาไทยในเหตุการณ์ 14 ตุลาฯ 2516 และ 6 ตุลาฯ 2519

Advertisement

อย่างไรก็ตาม การเคลื่อนไหวทางสังคมไม่ได้เป็นการเคลื่อนไหวเพื่อการพัฒนาเชิงบวกหรือทำให้สังคมให้ดีขึ้นเสมอไป เห็นได้จากการเคลื่อนไหวของกลุ่มนาซีใหม่ กลุ่มหัวรุนแรงต่างๆ ที่มีเป้าหมายเพื่อกดขี่ เลือกปฏิบัติ หรือปองร้ายต่อเพื่อนมนุษย์ซึ่งเป็นสมาชิกร่วมสังคมเดียวกัน

แอมเนสตี้ เป็นขบวนการเพื่อสิทธิมนุษยชนของที่ใหญ่ที่สุดในโลก ปัจจุบัน มีผู้สนับสนุนทั่วโลกมากกว่า 7 ล้านคน เรารณรงค์ทั้งกับภาครัฐ เอกชน สถานศึกษา และประชาชนทั่วไปทั้งในไทยและต่างประเทศ ความอิสระและเป็นกลางทางการเมือง เชื้อชาติ ศาสนา และเพศคือหลักการสำคัญที่เรายึดถือ

ขอบคุณภาพและเนื้อหาจาก Amnesty International Thailand

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image