ส่อง “ศัลยกรรม” ฮิต 2018 “สาวเกาหลี-ดาราไทย” ไอดอลความสวย

มีคนจำนวนไม่น้อย โดยเฉพาะคนยุคใหม่ที่เลือกศัลยกรรมเพื่อเปลี่ยนแปลงรูปลักษณ์ตัวเองเสริมความมั่นใจ ยิ่งกับทุกวันนี้ที่เทคโนโลยีและนวัตกรรมความงามก้าวไกลขึ้นมาก หากไม่อยากขึ้นเขียงผ่านมีดหมอ ก็อาจมีเทคนิคเล็กๆน้อยๆที่ช่วยให้ชีวิตง่ายขึ้น เมื่อ 4 ปีที่ผ่านมา วอนจิน บิวตี้ เมดิคอล กรุ๊ป (ประเทศไทย) จึงได้เริ่มต้นเปิดสถาบันให้คำปรึกษาด้านความงามขึ้น และล่าสุดกับการเปิดคลินิกให้บริการความงามอย่างครบวงจร ที่ชั้น 10 เกษร วิลเลจ กับ “วอนจิน แอท เกษร” ในงาน วอนจิน แอท เกษร เอ็กซ์คลูซีฟ ลอนจ์ ปาร์ตี้

เปิดใหญ่ทั้งที หัวเรืออย่าง มณฑ์ลัชชา สกุลไทย และลูกสาว พะเพื่อน – ชุติมณฑ์ จึงได้เชิญชวนเพื่อนๆเซเลบริตี้ อาทิ อุษณีย์ มหากิจศิริ, อินทิรา ธนวิสุทธิ์, พอฤทัย ณรงค์เดช,ชนัดดา จิราธิวัฒน์, ม.ร.ว.โสรัจจ์ วิสุทธิ, กัญจนา ศิลปอาชา และ ปัญญชลี เพ็ญชาติ มาร่วมงานคึกคัก

มณฑ์ลัชชา– ชุติมณฑ์ สกุลไทย
นพ.กนธร ปราณีประชาชน

โดยภายในงานได้ นพ.กนธร ปราณีประชาชน ผู้อำนวยการแพทย์ วอนจิน แอท เกษร มาเปิดเผยแง่มุมการทำศัลยกรรมและความนิยมว่า การจะทำศัลยกรรมของคนเกาหลีนั้น เน้นความเป็นธรรมชาติ คือเลือกดูว่าบนใบหน้ามีปัญหาอะไรและเลือกทำสิ่งนั้น อาจจะไม่ได้สวยที่สุดแต่ให้ดูเป็นตัวเอง

“คนไทยเองก็เหมือนคนเอเชียทั่วไป ที่ไม่ได้มีดั้งจมูกสูงมาก สิ่งที่คนจะเลือกทำศัลยกรรมแรกๆจึงเป็นเรื่องจมูก เพราะทำให้หน้าดูมีมิติและสวยขึ้นได้ มีบ้างที่ลูกค้าจะนำเอารูปดารามาเป็นแบบ ส่วนใหญ่ก็ยังคงเป็นซองเฮเคียว และ อั้ม – พัชราภา ที่หลายคนอยากจะเหมือน แต่ก็ต้องชี้แจงว่าไม่ใช่ทุกคนจะทำออกมาแล้วเหมือนเป๊ะ เพราะมีโครงหน้าที่ต่างกัน”

Advertisement

ซึ่งการทำจมูก ก็มีหลายรูปแบบด้วยกัน นพ.กนธร เผยว่า การทำจมูกนั้น มีด้วยกัน 2 เทคนิค ชนิดแรกอย่างที่คนไทยชอบทำกันคือการเปิดรูจมูกแล้วใส่ซิลิโคนยาวๆขึ้นไป ใช้เวลาเพียง 15 นาที – ครึ่งชั่วโมงก็เสร็จ แต่ตกแต่งไม่ได้และทำให้ปลายจมูกบาง อย่างที่ 2 คือ การเปิดจมูกขึ้นมาแล้วใส่ซิลิโคนช่วงดั้ง และนำเอากระดูกอ่อนหลังหูมาใส่ปลายจมูก หมอจะสามารถตกแต่งได้ก่อนที่จะปิดจมูก วิธีนี้เป็นการนำสิ่งแปลกปลอมเข้าสู่ร่างกายน้อยกว่า และไม่ทำให้จมูกบาง ใช้เวลา 2-6 ชั่วโมงด้วยกัน อย่างบางคนที่มาแก้จมูก ต้องบอกว่ายิ่งแก้ยิ่งทำยาก อาจต้องใช้กระดูกอ่อนซี่โครงเข้ามาแก้ไขด้วย
นอกจากทำจมูกแล้ว “การทำตา” ถือเป็นอีกหนึ่งความนิยมของคนไทย ซึ่งมักกรีดให้ดูมีชั้นตามากขึ้น ขณะที่เกาหลีเองจะเลือกผ่านตัดขยายหัวตาและท้ายตาให้ดูกลมโตมากขึ้น รวมไปถึงการสักปาก และดูแลผิวที่เป็นที่นิยมอยู่มาก ยิ่งเทคโนโลยีใหม่ๆช่วยลดความเจ็บทั้งขณะผ่าและหลังผ่าตัดได้เยอะ ก็ยิ่งดึงดูดการทำศัลยกรรมได้มาก

“ต้องบอกว่าการทำศัลยกรรมต่างๆ ยังไม่ได้มีการวิจัยชัดเจนว่าเมื่อทำไปแล้วแก่ตัวลงจะเป็นอย่างไร มุมมองของหมอ หรือว่าคนทำเองก็ต่างกัน ร่างกายของคนเราก็เปลี่ยนแปลงตลอด แต่อย่างน้อยส่วนที่ทำจะอยู่ได้ 10-20 ปี เว้นแต่ว่าทำจมูกสูงพุ่งมาก 2-3 ปีอาจมีปัญหาได้” นพ.กนธรเผย

Advertisement

นั่นทำให้คนที่ไม่กล้าจะลงมีดหมอ จึงเลือกการดูแลผิว และการฉีดโบท็อกซ์ ฟิลเลอร์เข้าสู่ใบหน้า เพื่อช่วยในการชะลอวัย

“เมื่อคนเราสูงวัยมากขึ้น นวัตกรรมต่างๆก็คิดค้นขึ้นมาเพื่อชะลอวัยมากขึ้น อย่างการผลักวิตามินซีเข้าสู่ผิว ที่มีทั้งผลักเฉพาะส่วนและฉีดเข้าสู่ผิวหนัง ซึ่งแบบหลังจะช่วยความกระจ่างใสได้ และเมื่อยิ่งสูงวัยมากขึ้น ไขมันในชั้นผิวก็ยิ่งลดลง หน้าดูตอบลง นวัตกรรมใหม่ๆที่มีก็เช่นนำเอาไขมันจากส่วนต่างๆของร่างกายมาฉีดบริเวณหน้าผาก แก้ม ให้ดูมีอะไรมากขึ้น ซึ่งทุกวันนี้ก็มีเครื่องเลเซอร์ช่วยลดเลือนริ้วรอย สิว ฝ้า กระ ได้อย่างดี” นพ.กนธรเผย

แน่นอนว่าอีกหนึ่งปัญหาความงามของผู้หญิง ก็คือน้ำหนัก และหน้าอก นพ.กนธร เผยว่า เทคโนโลยีการกระชับรูปร่างในปัจจุบัน นอกจากควบคุมอาหาร ออกกำลังกาย รวมถึงอาหารเสริมแล้ว ก็ยังมีการดูดไขมันที่ปัจจุบันนี้สามารถทรีตเมนต์กระชับผิวที่ดูดไขมันออกไปไม่ให้เหี่ยวย่น แต่หากไม่กล้าผ่าตัดก็มีการฉีดลดไขมันเฉพาะส่วน อย่างไขมันใต้คาง แขน ขา และเลเซอร์กระชับรูปร่างได้
อัพเดทเทรนด์ความงาม 2018

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image