เมื่อวันที่ 8 มีนาคม ที่ศูนย์การแสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็คเมืองทองธานี จังหวัดนนทบุรี พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวในการปาฐกถาพิเศษเรื่อง “พลังสตรีชนบท พลังขับเคลื่อนสังคมไทย” ในงานวันสตรีสากล ประจำปี 2561 จัดโดยกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว (สค.) กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ซึ่งมี พล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์ รมว.พม. ผู้บริหาร ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ พม. ตลอดจนภาคประชาสังคม ประชาชน เข้าร่วมกว่า 1,000 คน ว่า วันนี้สตรีทุกคนต้องหมั่นฝึกฝนตนเองพัฒนาตนเอง ความชำนาญ มีทักษะต่างๆที่เอื้อต่อการดำรงชีพ มีการคิดอย่างเป็นระบบ และมีวิจารณญาณ มีความมั่นใจและความเป็นผู้นำ ก้าวทันเทคโนโลยี รู้เท่าทันการเปลี่ยนแปลง รวมทั้งรักษาภาพลักษณ์อันงดงามของสตรีไทย พร้อมที่จะก้าวเดินต่อไปอย่างมีศักดิ์ศรี เพื่อมีสวนร่วมในการพัฒนาประเทศและได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติ ขณะที่รัฐบาลพยายามให้ความสำคัญในบทบาทสตรีไทยและความเสมอภาคระหว่างเพศ โดยได้กำหนดในยุทธศาสตร์ 20 ปี ที่เน้นสร้างโอกาสความเสมอภาคและความเท่าเทียมทางสังคม รวมถึงแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 ที่เน้นสร้างความเป็นธรรม ลดความเหลื่อมล้ำในสังคม สอดคล้องกับเป้าหมายการพัมนาที่ยั่งยืน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายในงาน พล.อ.ฉัตรชัยได้มอบโล่ประกาศเกียรติคุณแก่สตรี บุคคล และหน่วยงานองค์กรดีเด่น เนื่องในวันสตรีสากล ประจำปี 2561 รวม 47 รางวัล 19 สาขา ซึ่งมีบุคคลและองค์กรได้รับ อาทิ ศ.ชนิตา รักษ์พลเมือง รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยสยาม ได้รับรางวัลสตรีดีเด่นในเวที/เครือข่ายระดับสากล, นางผา กองธรรม แกนนำชาวบ้านลุ่มน้ำมูลตอนกลาง จังหวัดศรีสะเกษ ได้รับรางวัลสตรีดีเด่นด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม, นางสาวปาตีเมาะ เปาะอีแตดาโอะ นายกสมาคมผู้หญิงเพื่อสันติภาพ ได้รับรางวัลสตรีดีเด่นด้านการส่งเสริมสันติภาพ, ปอเปี๊ยะ-กาลเวลา เสาเรือน ผู้สื่อข่าวสถานีโทรทัศน์แห่งหนึ่ง ได้รับรางวัลสตรีดีเด่นด้านการปกป้องสิทธิของตนเอง, มูลนิธิเพื่อสิทธิและความเป็นธรรมทางเพศ (For SOGI) ได้รับรางวัลหน่วยงานดีเด่นด้านการคุ้มครองสิทธิและการส่งเสริมความเสมอภาคระหว่างเพศ
จากนั้น พล.อ.ฉัตรชัยรับมอบข้อเสนอเชิงนโยบายจากการประชุมสมัชชาสตรีแห่งชาติ ประจำปี 2561 ซึ่งได้เรียกร้อง 2 ข้อเสนอ ได้แก่ 1.ให้มีคำสั่งแต่งตั้งผู้แทนคณะกรรมการพัฒนาสตรีระดับจังหวัด เข้าร่วมเป็นคณะกรรมการไทยนิยมยั่งยืน เพื่อส่งเสริมให้ผู้หญิงมีส่วนร่วมในโครงการฯ และ2.ให้รัฐบาลสนับสนุนโครงการสตรีกับการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากชุมชนท้องถิ่น อำเภอละ 1 ตำบล โดยขอรับการสนับสนุนตำบลละ 500,000 บาท ในเรื่องการพัฒนาศักยภาพการผลิต การแปรรูป การเป็นผู้ประกอบการ และการจัดการท่องเที่ยวโดยชุมชน
ด้าน นางสาวปาตีเมาะ เปาะอีแตดาโอะ นายกสมาคมผู้หญิงเพื่อสันติภาพ กล่าวภายหลังได้รับรางวัลสตรีดีเด่นด้านการส่งเสริมสันติภาพ ว่า รู้สึกดีใจ เพราะการได้รับรางวัลได้ก็เหมือนว่ามีคนให้ความสำคัญองค์กร มองเห็นความสำคัญต่อข้อเรียกร้องของผู้หญิงชายแดนใต้ที่ต้องการเห็นพื้นที่สาธารณะปลอดภัย ตรงนี้ประโยชน์ไม่เพียงได้กับผู้หญิง แต่ได้กับทุกคน ขณะเดียวกันเรากำลังพยายามเปิดพื้นที่ให้ผู้หญิงได้ไปพูดคุยเรียกร้องบนโต๊ะเจรจาสันติภาพ จากที่ผ่านมาไม่มีผู้หญิงบนโต๊ะเจรจาเลย อย่างไรก็ดี จะนำรางวัลไปให้กลุ่มผู้หญิงชายแดนใต้และผู้เกี่ยวข้องที่ร่วมสนับสนุนขับเคลื่อนในข้อเสนอของเรา เพื่อเป็นกำลังใจหาทางขับเคลื่อนสร้างสันติภาพสันติสุขต่อไป
