‘ปวิณ วรพฤกษ์’ กับ 2 ปีของการปรับตัวใหญ่ ‘เอชพี’

นายปวิณ วรพฤกษ์ กรรมการผู้จัดการ เอชพี อิงค์ (ประเทศไทย) จำกัด

ผ่านไปแล้ว 2 ปี หลังการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของเอชพี ที่แยกออกเป็น 2 ส่วน คือ เอชพี อิงค์ ที่ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์พีซี (คอมพิวติ้ง) และเครื่องพิมพ์ (พรินติ้ง) และอีกบริษัท คือ ฮิวเล็ต-แพ็คการ์ด เอ็นเตอร์ไพรส์ นายปวิณ วรพฤกษ์ กรรมการผู้จัดการ เอชพี อิงค์ (ประเทศไทย) จำกัด ก็ได้มาบอกเล่าเรื่องราวของ 2 ปีที่ผ่านมา และที่กำลังจะเป็นต่อไปของเอชพีว่าเป็นอย่างไร

นายปวิณกล่าวว่า เอชพีมีดีเอ็นเอติดตัวมาเนิ่นนาน จนถึงปีนี้เป็นปีที่ 79 ที่แม้ว่าจะเติบโตมากขึ้น หากแต่ก็ยังคงไว้ซึ่งดีเอ็นเอสำคัญของเอชพี นั่นคือเรื่องของนวัตกรรม ที่เอชพียังคงมุ่งมั่นในการวิจัยและพัฒนา (อาร์แอนด์ดี) อย่างต่อเนื่อง และในช่วงไตรมาสที่ 3 ที่ผ่านมาของเอชพีเอง ก็เติบโตทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นคอมพิวติ้งหรือพรินติ้ง

โดยกลยุทธ์หลังการแยกบริษัทคือเรื่องของ คอร์ (Core), โกรว์ธ (Growth) และฟิวเจอร์ (Future) ซึ่งเป็นกลยุทธ์ที่ปฏิบัติเหมือนกันทั่วโลก นายปวิณกล่าวว่า กลุ่มคอมพิวเตอร์พีซีและพรินเตอร์ของเอชพียังขายได้ดีมากในประเทศไทย โดยปัจจุบัน แม้ว่าใครจะบอกว่าเครื่องคอมพิวเตอร์ขายไม่ได้ แต่จริงๆแล้วในยุคของบิ๊กดาต้าข้อมูลจำนวนมหาศาลที่มีอยู่ในปัจจุบัน ทำให้ทุกคนต้องการเครื่องคอมพิวเตอร์กันมากขึ้น

หรือแม้แต่ในส่วนของพรินติ้ง ส่วนงานที่เกี่ยวข้องกับการดูแลสุขภาพหรือการศึกษา ก็ยังคงต้องการใช้พรินเตอร์เพื่อพิมพ์งานกันอยู่มาก ซึ่งนายปวิณกล่าวว่า ทั้งหมดนี้ก็เหมือนกับประวัติศาสตร์ของเทคโนโลยีที่ผ่านๆ มา อย่างที่เคยถามๆ กันเมื่อครั้งที่โน้ตบุ๊กมาแรงๆ ว่าคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะจะหายไปไหม คำตอบที่เคยให้ก็คือ ไม่ได้หายไป แต่จะเป็นการเสริมกันและกันมากกว่า

Advertisement

นายปวิณกล่าวว่า เมื่อก่อนอาจจะนิยมโน้ตบุ๊กที่ราคาไม่แพง แต่ปัจจุบัน คนกลับเลือกเครื่องที่สเปกแรง ราคาสูงมาใช้งาน เพราะราคาเฉลี่ยของการซื้อเครื่องกลับเพิ่มสูงขึ้น

ในส่วนของพรินเตอร์นั้น ปัจจุบันถือว่าเปลี่ยนไปเยอะมาก เมื่อเทียบกับ 20 ปีก่อน โดยเฉพาะในเรื่องของเครื่องที่ติดแท็งก์ที่ปัจจุบันได้รับความนิยมอย่างมาก และมีการเติบโตขึ้นเป็นอย่างดี หรือแม้แต่เครื่องพิมพ์แบบพกพา ที่ถือเป็นนวัตกรรมใหม่ อย่าง สปร็อกเก็ต ของเอชพี ที่ใช้ ซีโร่ อิงค์ ที่สามารถพกพาไปไหนมาไหนได้ และพิมพ์ภาพได้เลยเมื่อต้องการ โดยใช้เทคโนโลยีซิงค์ คือ ไม่ต้องใช้หมึกเลย และรุ่นล่าสุดของสปร็อกเก็ตที่กำลังจะออกมาเป็นแบบ 2 ใน 1 เครื่อง คือมีกล้องอยู่ในตัวด้วย และรุ่น สปร็อกเก็ต พลัส ที่จะมีขนาดของกระดาษที่ใหญ่ขึ้นมาอีกหน่อย

นอกจากนี้การบริการเช่าใช้เครื่องพรินเตอร์ก็กำลังเป็นที่นิยมมากขึ้น ทุกคนต่างคิดว่าใช้เท่าไหร่ก็จ่ายไปเท่านั้น ไม่ได้อยากจ่ายเกินกว่าที่ใช้ หรือต้องคอยเก็บหมึกตุนเอาไว้ ก็จะหันมาใช้แบบใช้เท่าไหร่ จ่ายเท่านั้นแทน

ส่วนของเครื่องคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก คนก็หันมาลงทุนกับเครื่องเล่นเกมมากขึ้น แม้ว่าราคาจะสูง

ที่สุดแล้ว นายปวิณกล่าวว่า ทุกสิ่งก็มีการเปลี่ยนแปลงไปตามเวลา แต่สำหรับเอชพีแล้วก็ยังคงมุ่งมั่นที่จะเดินหน้าเพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจทั้งระดับประเทศและระดับโลก โดยเฉพาะเมื่อรัฐบาลประกาศนโยบาย ประเทศไทย 4.0 ที่เอชพีเองก็พร้อมที่จะเป็นแรงขับเคลื่อนไปด้วยกัน ด้วยโซลูชั่นและผลิตภัณฑ์ที่พร้อมเสริมในทุกภาคส่วน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image