แกร็บจับมือมหา’ลัยแห่งชาติสิงคโปร์ เปิด ‘ห้องปฏิบัติการปัญญาประดิษฐ์’

แกร็บ หนึ่งในผู้ให้บริการแพลตฟอร์ม O2O (Online to Offline) ที่มีการเรียกใช้งานมากที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ประกาศความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์ (NUS) เปิดตัวห้องปฏิบัติการปัญญาประดิษฐ์ หรือ เอไอ (Artificial Intelligence-AI) เพื่อคิดค้นแนวทางแก้ไขระบบขนส่งในเมือง ซึ่งสามารถต่อยอดไปสู่การพัฒนาเมืองอัจฉริยะในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ต่อไป โดยห้องปฏิบัติการ แกร็บ-เอ็นยูเอส เอไอ (Grab-NUS AI) เป็นโครงการลงทุนร่วมซึ่งมีมูลค่าการลงทุนตั้งต้นที่ 6 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ และนับเป็นการลงทุนใหญ่สำหรับการสร้างห้องปฏิบัติการเอไอแห่งแรกของแกร็บ รวมถึงเป็นห้องปฏิบัติการเอไอแห่งแรกที่มหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์ลงทุนร่วมกับพันธมิตรจากภาคธุรกิจ

ห้องปฏิบัติการ Grab-NUS AI ซึ่งมีสถานที่ปฏิบัติงานอยู่ที่สถาบันวิทยาศาสตร์ข้อมูลของมหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์ จะใช้ประโยชน์จากข้อมูลบนแพลตฟอร์มของแกร็บเพื่อพัฒนาวิธีแก้ไขปัญหาอันซับซ้อนต่างๆ ที่เกิดขึ้นในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ฐานข้อมูลจำนวนมหาศาลซึ่งรวบรวมจากบริการรับส่งผู้โดยสารกว่าสองพันล้านเที่ยวของแกร็บนั้นมีความสำคัญ และจะช่วยให้นักวิจัยมีความเข้าใจเชิงลึกเกี่ยวกับการเดินทางของผู้คนในแต่ละวันทั่วทั้งภูมิภาค และเมื่อข้อมูลเชิงลึกเหล่านี้ถูกนำมาผนวกเข้ากับความเชี่ยวชาญด้านงานวิจัยเอไอของมหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์ ทั้งสองฝ่ายก็จะสามารถพัฒนาแบบแผนต่างๆ ด้านการจราจร ตลอดจนคิดค้นแนวทางที่เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาคุณภาพการเดินทางและการใช้ชีวิตของคนในเมืองต่างๆ ทั่วภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

นายแอนโทนี่ ตัน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ร่วมก่อตั้งแกร็บ กล่าวว่า “ข้อมูลจากแพลตฟอร์มแกร็บ สามารถนำมาใช้สร้างแบบแผนด้านการจราจรและการเดินทางของคนเมืองในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้เป็นอย่างดี ยกตัวอย่างเช่น ข้อมูลของเราระบุได้ว่า เราสามารถร่นเวลาในการเดินทางจากตลาดประตูน้ำไปสนามบินดอนเมืองได้อย่างมีนัยสำคัญ หากเราสามารถใช้เส้นทางเดิมด้วยวิธีการที่ดีกว่า อาทิ ระบบขนส่งที่ใช้ร่วมกันได้ เช่น รถเมล์ รถไฟ บริการเรียกรถโดยสารผ่านแอพพ์ และบริการทางเดียวกันไปด้วยกัน เราจะสามารถประหยัดเวลาการเดินทางในชั่วโมงเร่งด่วนได้ถึง 25% หรือจาก 45 นาที เหลือเพียง 34 นาที โดยแกร็บหวังว่าเราจะสามารถทำงานร่วมกับรัฐบาลของแต่ละประเทศในภูมิภาคนี้ได้อย่างเต็มที่ เพื่อให้สามารถนำข้อมูลจากห้องปฏิบัติการ Grab-NUS AI แห่งนี้มาใช้ในการร่วมแก้ไขปัญหาให้กับเมืองต่างๆ ได้”

ห้องปฏิบัติการ Grab-NUS AI จะมุ่งพัฒนาประสิทธิภาพและความเสถียรของระบบขนส่งบนแพลตฟอร์มแกร็บที่ใช้ในเมืองต่างๆ ทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ก่อนเป็นลำดับแรก ก่อนที่จะขยายผลการวิจัยไปสู่ระดับการแก้ไขปัญหาใหญ่ๆ ที่หลายเมืองในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กำลังเผชิญอยู่ เช่น ปัญหาการจราจรติดขัด และคุณภาพการใช้ชีวิตของคนเมือง โดยทีมนักวิจัยประจำห้องปฏิบัติการ Grab-NUS AI จะสร้างแพลตฟอร์มเอไอที่ชาญฉลาดเพื่อรองรับระบบคอมพิวเตอร์ที่เรียนรู้ได้เองและแสดงผลการวิเคราะห์ข้อมูลจนสามารถแปลงชุดข้อมูลมหาศาลของแกร็บ พัฒนาเป็นรูปแบบการใช้งานใหม่ๆ ได้ โดยห้องปฏิบัติการแห่งนี้จะช่วยให้แกร็บเข้าใจถึงความต้องการของผู้ใช้งานและพันธมิตรได้ดียิ่งขึ้น และสามารถนำไปสู่การคาดการณ์ความต้องการล่วงหน้าได้ในที่สุด

Advertisement

ศาสตราจารย์ ตัน เอ็ง ชี อธิการบดีมหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์ กล่าวว่า “แกร็บมุ่งมั่นช่วยแก้ไขปัญหาที่มีความซับซ้อนที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะปัญหาจราจรที่ส่งผลกระทบต่อเมืองต่างๆ ที่ผ่านมาการทำงานของเราก้าวหน้าไปมาก โดยเรามุ่งพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้คนผ่านข้อมูลเชิงลึกที่สุดและมากที่สุดที่ได้จากข้อมูลนับล้านที่เกี่ยวข้องกับเส้นทาง การเดินทาง และสถานที่ที่ผู้คนสนใจ ซึ่งแล็บเอไอแห่งนี้จะสามารถใช้ประโยชน์จากความมหัศจรรย์ของข้อมูลเหล่านี้และระบบคอมพิวเตอร์ที่เรียนรู้ได้เองของแกร็บ รวมถึงงานวิจัยและผู้เชี่ยวชาญจากสถาบันชั้นนำระดับโลกแห่งนี้ เพื่อสร้างเครื่องมือที่รัฐบาลของประเทศต่างๆ ทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้สามารถนำไปใช้สร้างระบบขนส่งอัจฉริยะให้เกิดขึ้นในเมืองของตนได้”

นอกจากนี้ แล็บเอไอยังมีส่วนช่วยส่งเสริมศักยภาพให้กับบุคลากรที่มีความสามารถด้านเอไอของสิงคโปร์ ผ่านการฝึกอบรมสำหรับนักศึกษาระดับปริญญาเอกที่ลงเรียนในมหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์ ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจแห่งสิงคโปร์ (Singapore Economic Development Board-EDB) โครงการอบรมในหลักสูตรระดับปริญญาเอกจะช่วยสร้างทักษะที่จำเป็นให้กับนักศึกษา อีกทั้งยังสามารถนำผลลัพธ์ไปใช้แก้ไขปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นจริงผ่านแพลตฟอร์มของแกร็บได้อีกด้วย

ทั้งนี้ ห้องปฏิบัติการ Grab-NUS AI ตั้งอยู่ที่อาคารนวัตกรรม 4.0 ภายในวิทยาเขตเคนท์ริดจ์ มหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์ ประกอบด้วยทีมนักวิจัยจำนวน 28 คน ที่จะประจำการอยู่ที่แล็บเอไอแห่งนี้ เพื่อดำเนินโครงการด้านเอไอหลายโครงการด้วยกัน

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image