ขณะที่ปัญหาขยะพลาสติกดูเหมือนจะกลายเป็นปัญหาใหญ่ที่ลุกลามไปในหลายประเทศ โดยเฉพาะประเทศในแถบภูมิภาคเอเชีย ที่ประสบกับปัญหามลพิษอันเกิดจากขยะพลาสติกเหล่านี้ หากแต่ตอนนี้เริ่มมีกระแสตีกลับไปยังบรรดาผู้ผลิตพลาสติกเหล่านี้ที่แท้จริง โดยเฉพาะชาติตะวันตก เจ้าของผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่มีการนำพลาสติกมาเป็นบรรจุภัณฑ์
เว็บไซต์เอเชียไทม์ส ได้หยิบยกเรื่องปัญหาขยะพลาสติกในเอเชียขึ้นมารายงาน โดยยกตัวอย่างฟรีดอม ไอส์แลนด์ แหล่งป่าโกงกางแห่งสุดท้ายในมหานครมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ ที่กำลังเต็มไปด้วยขยะพลาสติกที่ผู้คนกว่า 12 ล้านคนที่อาศัยอยู่ พากันทิ้งขว้างลงแม่น้ำ
โดยเมื่อปีที่ผ่านมา กลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมหลายกลุ่ม ได้ร่วมกันทำการตรวจสอบขยะที่ฟรีดอม ไอส์แลนด์ ของฟิลิปปินส์ เป็นเวลานาน 1 สัปดาห์ ก็พบว่า ผลิตภัณฑ์พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวที่ผลิตขึ้นโดยบริษัทหลายๆ บริษัท เช่น เนสท์เล่ ยูนิลีเวอร์ และพรอคเตอร์ แอนด์ แกมเบิล รวมไปถึงของบริษัทในท้องถิ่นและบริษัทในภูมิภาค ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่สุดของปัญหาภูเขาขยะในอ่าวมะนิลาของฟิลิปปินส์
ทั้งนี้ กลุ่มอนุรักษ์มหาสมุทรจากสหรัฐ ระบุว่า ฟิลิปปินส์ถือเป็นประเทศที่ก่อมลพิษต่อมหาสมุทรจากพลาสติกมากเป็นอันดับ 3 ของโลก ตามหลังเพียงจีนและอินโดนีเซีย นอกจากนี้ ยังมีประเทศไทย เวียดนามและมาเลเซีย ที่ติดอยู่ในอันดับต้นๆ ของประเทศที่ก่อมลพิษต่อมหาสมุทรจากพลาสติกมากที่สุด
และชาติในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ยังเป็นแหล่งที่มาของพลาสติกในมหาสมุทรในลำดับต้นๆ ด้วย
ขณะที่กลุ่มกรีนพีซเองเชื่อว่า ฟิลิปปินส์มีการบริหารจัดการขยะพลาสติกอย่างผิดพลาดมากถึงปีละ 2 ล้านตัน ขณะที่ผู้บริโภคเองก็ใช้ผลิตภัณฑ์ที่เป็นพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวกันจำนวนมาก
แองเจลิกา คาร์บัลโล-ปาโก ผู้จัดการด้านสื่อของกรีนพีซประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในฟิลิปปินส์ บอกว่า บรรดาผู้ผลิตพลาสติกที่เป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อมควรจะมีความรับผิดชอบต่อสิ่งที่ตนทำขึ้นมา เพราะผู้บริโภคฟิลิปปินส์เองก็ไม่มีทางอื่นให้เลือก เนื่องจากสินค้าเหล่านี้เป็นสินค้าที่มีขายอยู่ในท้องตลาด
ซึ่งนักสิ่งแวดล้อมมองว่า ปัญหาขยะพลาสติกจะลดลงได้ก็ต่อเมื่อบริษัทในแต่ละประเทศลดการใช้บรรจุภัณฑ์ที่เป็นพลาสติก เพราะตอนนี้ขยะพลาสติกกำลังส่งผลกระทบอย่างใหญ่หลวงของมหาสมุทร และมีการออกมาเคลื่อนไหวเพื่อให้เลิกการใช้พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวกันมากขึ้น
และมีการเรียกร้องให้บริษัทผู้ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภค ทั้งเนสท์เล่ เป๊ปซี่โค พรอคเตอร์ แอนด์ แกมเบิล และยูนิลีเวอร์ ลดการใช้บรรจุภัณฑ์พลาสติก แล้วหันไปใช้วัสดุที่สามารถรีไซเคิลได้แทน
มิเช่นนั้น ขยะพลาสติกในมหาสมุทรอาจจะมีมากกว่าจำนวนปลา ภายในปี ค.ศ.2050 และเชื่อว่าตอนนี้มีสัตว์น้ำเกือบ 700 สายพันธุ์ที่กำลังได้รับผลกระทบจากขยะในทะเล ที่เกือบทั้งหมดคือขยะพลาสติก
เพราะหากไม่ช่วยกันแก้ปัญหาขยะพลาสติกที่กำลังเป็นอันตรายต่อสิ่งมีชีวิตในทะเล มนุษย์ก็จะได้รับผลกระทบจากสิ่งที่เกิดขึ้นเช่นกัน
