นาซาบุก “โพรงลาวา” หวังใช้หลบภัยในอวกาศ

คณะนักวิทยาศาสตร์ขององค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติ (นาซา) ของสหรัฐอเมริกา ลงพื้นที่สำรวจเครือข่ายของถ้ำหรือโพรงลาวา บริเวณโบราณสถานแห่งชาติ ลาวา เบดส์ ในรัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกาเมื่อเร็วๆ นี้ เพื่อสร้างความคุ้นเคยและพัฒนาองค์ความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับการสำรวจถ้ำหรือโพรงในลักษณะเดียวกันนี้ ซึ่งปรากฏอยู่ทั้งบนดวงจันทร์และดาวอังคาร โดยอาศัยชุดสูท พร้อมอุปกรณ์ติดตัว 3 ชิ้น ประกอบด้วย อุปกรณ์สำรวจหยั่งลึกด้วยสัญญาณเรดาร์ (ground-penetrating radar), เครื่องแม็กนีโตมิเตอร์ และ กราฟิมิเตอร์ หรือเครื่องมือวัดค่าแรงโน้มถ่วง

การสำรวจดังกล่าวเป็นไปตามโครงการ “ทูบเอ็กซ์” ซึ่งนำโดย เคลซีย์ ยัง นักธรณีวิทยาของนาซา “ทูบเอ็กซ์ โปรเจ็กต์” ตั้งเป้าให้เป็นการเตรียมความพร้อมและสร้างองค์ความรู้ ความคุ้นเคยไว้สำหรับการสำรวจในห้วงอวกาศในอนาคต เนื่องจากถ้ำหรือโพรงที่เกิดจากลาวาภูเขาไฟแบบเดียวกันนี้ ปรากฏอยู่ทั้งบนดวงจันทร์และบนดาวอังคาร ซึ่งในยุคหนึ่งก่อนหน้านี้มีกิจกรรมของภูเขาไฟระเบิดและธารลาวามหาศาลแบบเดียวกับบนพื้นโลกเช่นเดียวกัน

ทั้งนี้ นักวิทยาศาสตร์ของนาซาเชื่อว่าโพรงลาวาทำนองนี้สามารถใช้เป็นที่พักอาศัยที่เหมาะสมและปลอดภัย สำหรับมนุษย์ที่ต้องการใช้เวลาระยะยาวในการสำรวจหรือปฏิบัติภารกิจอื่นใดบนดวงจันทร์ หรือบนดาวอังคารในอนาคต เนื่องจากปลอดภัยจากการแผ่รังสีที่อาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้

โบราณสถานลาวาเบดส์เกิดขึ้นเมื่อราว 10,000 ปี จนถึง 65,000 ปีมาแล้ว จากการระเบิดของภูเขาไฟเมดิซีนเลคชีลด์ โพรงหรือถ้ำลาวา เกิดขึ้นเมื่อธารลาวามหาศาลไหลบ่าออกมา บริเวณริมขอบนอกจะเย็นลงเร็วกว่าบริเวณใจกลาง หลังจากการระเบิดสิ้นสุดลง ผิวด้านนอกของธารลาวาจะแข็งตัวก่อให้เกิดโพรงด้านในซึ่งบางครั้งยาวไกลหลายกิโลเมตร และเมื่อเวลาผ่านไปนับพันๆ ปี บางส่วนของเพดานโพรงจะทลาย หรือแตกหลุดออก กลายเป็นทางเข้าของเครือข่ายโพรงภายใน ที่โบราณสถานลาวาเบดส์นี้ มีช่องทางเข้าทำนองนี้อยู่อย่างน้อย 800 จุดด้วยกัน

Advertisement

บางส่วนของโพรงใหญ่โตกว้างขวาง สามารถใช้เป็นที่อยู่อาศัยได้ บางส่วนยืดยาวเหมือนอุโมงค์รถไฟใต้ดิน และมีอีกหลายส่วนเช่นกันที่ต้องคลานเข่าถึงจะลอดตัวผ่านไปได้

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image