รางวัลโนเบล หรือโนเบลไพรซ์นั้น รู้จักกันดีทั่วโลกว่าเป็นรางวัลที่ถือว่าทรงเกียรติและยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก โดยเฉพาะในทางด้านวิทยาศาสตร์สาขาต่างๆ อัลเฟรด โนเบล นักวิทยาศาสตร์สวีดิช ก่อตั้งรางวัลนี้ 5 สาขาแรกขึ้นในปี 1895 แจกรางวัลครั้งแรกกันในปี 1901
ส่วนรางวัล “อิกโนเบล” หรือ “อิกโนเบลไพรซ์” นั้นเกิดขึ้นทีหลัง เมื่อ 27 ปีที่แล้วนี่เอง ตอนแรกๆ เข้าใจกันว่าเกิดขึ้นมาเพื่อ “เสียดสีถากถาง” รางวัลโนเบลโดยเฉพาะ แต่ในความเป็นจริงแล้วไม่ใช่ ผู้ก่อตั้งรางวัลนี้คือ “แอนนัลส์ ออฟ อิมพร็อบเพเบิล รีเสิร์ช” (Annals of Improbpable Research-AIR) นิตยสารแนววิทยาศาสตร์เริงรมย์ คือนำเสนอเรื่องขบขันในเชิงวิทยาศาสตร์โดยเฉพาะ
เป้าหมายของรางวัลก็เพื่อ “แสดงความชื่นชมและให้เกียรติแก่งานวิจัยที่ทำให้คุณหัวร่อ จากนั้นถึงทำให้คุณต้องคิด” เท่านั้นเอง
นับตั้งแต่มีการแจกรางวัลนี้ครั้งแรกในปี 1991 เรื่อยมา ยังไม่เคยมีนักวิทยาศาสตร์รายไหนได้รางวัลใดรางวัลหนึ่งแล้วไปคว้าอีกรางวัลหนึ่งตามมามาก่อน
ราวกับว่าวิทยาศาสตร์กับอารมณ์ขันนั้น ไปด้วยกันไม่ได้ ยังไงยังงั้น
ยกเว้น… เซอร์แอนเดร เกอิม นักวิทยาศาสตร์รายแรกและรายเดียว (จนถึงขณะนี้) เท่านั้นที่คว้ารางวัลอิกโนเบลได้แล้ว ยังสามารถคว้ารางวัลโนเบลไปครองได้อีกรางวัล
เซอร์แอนเดร คอนสแตนติน เกอิม เป็นนักฟิสิกส์ชาวอังกฤษเชื้อสายดัตช์ที่เกิดในสหภาพโซเวียต ทำงานประจำอยู่ที่สำนักดาราศาสตร์และฟิสิกส์ ของมหาวิทยาลัยแมนเชสเตอร์ ในเมืองแมนเชสเตอร์ ประเทศอังกฤษ คว้ารางวัลโนเบล สาขาฟิสิกส์ (ร่วมกับเซอร์คอนสแตนติน เซอร์กีวิช โนโวเซลอฟ นักฟิสิกส์ชาวอังกฤษเชื้อสายโซเวียต) เมื่อปี 2010 จากผลงานการค้นคว้าวิจัยซึ่งเป็นที่มาของวัสดุใหม่ที่รู้จักกันดีในเวลาต่อมาในชื่อ “กราฟีน” เซอร์แอนเดรเคยอธิบายถึงความ “พิเศษ” ของกราฟีนเอาไว้ดังนี้
“คือวัสดุที่สามารถทำให้บางที่สุดได้แล้วแต่จินตนาการของคุณ มีผิวหน้าแผ่ได้กว้างที่สุดเมื่อเทียบเป็นสัดส่วนกับน้ำหนัก เพียงแค่กรัมเดียวก็สามารถแผ่คลุมสนามฟุตบอลได้ทั้งสนาม แถมยังเป็นวัสดุที่แข็งแกร่งที่สุดเท่าที่เคยมีตรวจวัดกันมา นี่ยังไม่หมดนะ แต่แค่นี้ก็ประทับใจแล้ว”
แล้วนักวิทยาศาสตร์ที่ปราดเปรื่องถึงขนาดคว้ารางวัลโนเบลอันทรงเกียรติได้ ไปทำอะไรไว้ถึงได้รางวัล “อิกโนเบล” ตามมา?
คำตอบก็คือ เขาทดลองเพื่อให้แน่ใจว่าสามารถใช้พลังสนามแม่เหล็ก ยกตัว “กบ” ให้ลอยขึ้นได้
เป็นการทดลองที่ในเวลานี้มีชื่อเสียงโด่งดังพอๆ กับงานวิจัยที่นำไปสู่การพัฒนากราฟีน และแม้แต่เจ้าตัวเอง ก็จำไม่ได้แล้วว่า ทำไมถึงต้องทดลอง รู้แต่ว่า ได้ลองเท (ทั้งน้ำทั้งกบ) ลงบนแท่นแม่เหล็กไฟฟ้า แทนที่น้ำจะราดลงบนแท่นแม่เหล็ก มันกลับกลายเป็นทรงกลมขนาดเล็ก เจ้ากบลอยอยู่บนนั้น
นั่นคือหลักการใช้สนามแม่เหล็กยกสิ่งของที่เรียกว่า “แม็กเนติค เลวิเทชั่น” ซึ่งนิยมเรียกกันสั้นๆ ว่า “แม็กเลฟ” นั่นเอง
เกอิมบอกว่า จริงแล้วๆ ตลอดชีวิตการทำงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์ เขาปันเวลาราว 10% มาทดลองอะไรสนุกๆ ทำนองนี้ ซึ่งเกอิมเรียกว่าเป็น “งานทดลองคืนวันศุกร์” เปลี่ยนวัสดุไปเรื่อยเปื่อย เพื่อดูว่าอะไรเกิดขึ้นตามมา การใช้สนามแม่เหล็กยกกบก็คือหนึ่งใน “ฟรายเดย์ไนต์ เอ็กซ์เพอริเมนต์” ของเกอิม ซึ่งจะว่าไปแล้ว ไม่เพียงสนุก เรียกรอยยิ้มได้ แต่ยังมีประโยชน์ให้ “คิดต่อ” ได้
เกอิมยืนยันว่า งานวิจันกราฟีนที่ได้รางวัลโนเบล ซึ่งคือการแยกกราฟีนออกจากกราไฟท์ ก็เริ่มจากการทดลองคืนวันศุกร์นี่แหละ
อุปกรณ์คือ สก๊อตเทป กับ ดินสอแท่งหนึ่ง เท่านั้นเอง