เตือนภัย”บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป” ทำเด็ก 9,500 คนเข้าโรงพยาบาล

ในงานวิจัยทางการแพทย์ชิ้นใหม่ซึ่งนำเสนอต่อที่ประชุมวิชาการด้านกุมารเวชศาสตร์อเมริกัน (เอเอพี) เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน เปิดเผยว่า มีเด็กอเมริกันอายุระหว่าง 4 ขวบถึง 12 ปี จำเป็นต้องเข้ารับการรักษาอาการน้ำร้อนลวกในห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาลที่เกิดจากอุบัติเหตุเกี่ยวเนื่องกับบะหมี่สำเร็จรูปมากถึง 9,500 ต่อปี ซึ่งนับเป็นสัดส่วนสูงถึง 1 ใน 5 ของอาการไฟไหม้ หรือน้ำร้อนลวกในเด็กทั้งหมดเลยทีเดียว

รายงานทางการแพทย์ดังกล่าว ซึ่งอาศัยข้อมูลจากคอนซูเมอร์ โปรดักส์ เซฟตี คอมมิสชั่น หรือคณะกรรมการเพื่อความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ต่อผู้บริโภค (ซีพีเอสซี) ในสหรัฐอเมริกา เป็นพื้นฐานในการวิจัย ข้อมูลดังกล่าวเก็บรวบรวมจากโรงพยาบาลทั่วประเทศ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงอันตรายจากการปล่อยให้เด็กปรุงหรือกินบะหมี่สำเร็จรูปตามลำพังได้เป็นอย่างดี

ข้อมูลจากงานวิจัยชิ้นนี้ ยังแสดงให้เห็นด้วยว่า ราว 1 ใน 10 ของเด็กที่ต้องเข้ารับการรักษาพยาบาลในห้องฉุกเฉินดังกล่าว จำเป็นต้องพักรักษาตัวต่อในโรงพยาบาลแสดงให้เห็นว่าบาดแผลที่ได้รับไม่ได้เป็นเพียงแค่แผลน้ำร้อนลวกเล็กๆ น้อยๆ แต่อย่างใด แต่เป็นเด็กที่ได้รับบาดเจ็บจากน้ำร้อนลวกในระดับสูงไม่น้อยอีกด้วย

ทีมวิจัยระบุเอาไว้ในรายงานว่า นอกเหนือจากความต้องการที่จะศึกษากรณีนี้เพื่อใช้เป็นข้อมูลในการเตือนผู้ปกครองหรือผู้ใหญ่ ไม่ให้ปล่อยให้เด็กๆ เตรียมอาหารจำพวกบะหมี่ หรือซุปสำเร็จรูปกินเองตามลำพังแล้วเท่านั้น ยังต้องการหาข้อมูลเป็นพื้นฐานสำหรับการนำเสนอให้บริษัทผู้ผลิตอาหารสำเร็จรูปหรือกึ่งสำเร็จรูปเหล่านี้ เปลี่ยนแปลงแพคเกจจิงของตนเอง โดยคำนึงถึงอุบัติเหตุที่จะเกิดขึ้นกับเด็กๆ เป็นหลักอีกด้วย

Advertisement

ข้อมูลในรายงานใหม่นี้สอดคล้องกับงานวิจัยเกี่ยวกับภาวะไฟไหม้น้ำร้อนลวกในเด็ก เมื่อปี 2008 ที่ระบุว่า 51 เปอร์เซ็นต์ของเด็กๆ ที่ต้องเข้ารับการรักษาอาการน้ำร้อนลวก เกิดจากการใช้ไมโครเวฟอุ่นอาหาร, 65 เปอร์เซ็นต์ พบว่าเกิดจากการปรุงซุปหรือบะหมี่สำเร็จรูป

รายงานทั้ง 2 ชิ้นดังกล่าว เสนอให้มีการเปลี่ยนแปลงภาชนะบรรจุบะหมี่สำเร็จรูป ให้มีฐานกว้าง ปากแคบ เพื่อลดโอกาสเกิดอุบัติเหตุดังกล่าวนั่นเอง

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image