พระอาทิตย์เที่ยงคืน ทำหนุ่มออสซีผิวเน่า!?

(ภาพ-BMJ Case Reports)

เจ้าของมือในภาพนี้คือ นักท่องเที่ยววัย 29 ปี ชาวออสเตรเลีย ที่เดินทางมาท่องเที่ยวด้วยการปีนเขาท่องป่าบนเกาะกรีนแลนด์ของเดนมาร์ก ระหว่างหน้าร้อนของที่นี่ ซึ่งเป็นที่มาที่ทำให้เกาะใหญ่ที่สุดในโลกแห่งนี้

ได้ชื่อว่าเป็นดินแดนแห่งอาทิตย์เที่ยงคืน เพราะสามารถมองเห็นดวงอาทิตย์ได้ตลอด 24 ชั่วโมง สลับกับตอนหน้าหนาวที่ไม่มีแสงอาทิตย์ให้เห็นเลย 24 ชั่วโมงเช่นกัน

เพื่อรักษาอาการผิวหนังดังกล่าวหนุ่มรายนี้เข้าพบแพทย์และทีมแพทย์รายงานเป็นกรณีศึกษาไว้ในวารสารวิชาการบีเอ็มเจ เคส รีพอร์ต เมื่อเร็วๆ นี้ โดยนักท่องเที่ยวรายนี้ให้รายละเอียดว่า เพื่อป้องกันการขาดวิตามินซี ระหว่างท่องป่าและตั้งแคมป์ดังกล่าว จึงบีบน้ำผลไลม์สดซึ่งเป็นพืชตระกูลมะนาวชนิดหนึ่ง 2 ลูกใส่ขวดน้ำดื่มบ่อยๆ ที่สำคัญก็คือเมื่อน้ำในพื้นที่หาได้ยากก็ไม่ได้ล้างมือ ปล่อยทิ้งไว้อย่างนั้น อีก 2 วันต่อมาก็พบว่าผิวบริเวณนิ้วและหลังมือเกิดรอยจ้ำแดงเข้ม จนเกือบม่วงขึ้น ต่อมาก็แย่ลง ปรากฏหนองเต็มแผล พร้อมอาการบวม พุพองและคัน “เหมือนกับผิวผีดิบกำลังเน่าเฟะไม่มีผิด” ชายหนุ่มบอกกับทีมแพทย์ประจำโรงพยาบาล อิลูลิสสาท ในกรีนแลนด์ที่เข้าไปรับการรักษา

นายแพทย์ ลูอิท เพนนิงกา ศัลยแพทย์ที่ทำหน้าที่ผู้อำนวยการด้านการแพทย์ของโรงพยาบาลและเขตอนามัยอาวันนา ทางตอนเหนือของกรีนแลนด์ อธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นว่า เป็นเพราะสารประกอบไวแสงชื่อ “โซราเลน” (psoralen) ที่มีอยู่ในผลไม้รสเปรี้ยวหลายชนิด รวมทั้ง ไลม์, เซเลอรี (คึ่นช่าย), มะเดื่อ (ฟิก), หญ้ามีโดว์, หัวพาร์สนิปป่า, ฮ็อกวีดยักษ์ และน้ำมันจากผิวมะกรูด เมื่อโซราเลน ทำปฏิกิริยาเคมีกับผิวหนังและแสงแดด จะก่อให้เกิดการทำลายและพุพองขึ้นบนผิวหนังในบริเวณนั้น ทางการแพทย์เรียกโรคนี้ว่า “ฟายโตโฟโตเดอร์มาทิทิส” (phytophotodermatitis) ซึ่งสามารถนำไปสู่มะเร็งผิวหนังได้

Advertisement

ในกรณีของนักท่องเที่ยวรายนี้ แพทย์จัดการกรีด ทำความสะอาด ตุ่มพุพองดังกล่าวแล้วปิดพลาสเตอร์ ให้ยาปฏิชีวนะป้องกันการติดเชื้อ และแนะนำให้สวมถุงมือป้องกันการสัมผัสแสง หลังจากเจ็บๆ คันๆ ต่อมาอีกราว 4 สัปดาห์แล้วหายเป็นปกติภายใน 2 เดือน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image