หลุมศพหมู่ลึกลับ ที่ “อัปเปอร์ อียิปต์”

สภาพภายในสุสาน (ภาพ-Gebel el-Silsila Project, 2018)

เมื่อวันที่ 13 ธันวาคมที่ผ่านมา ทีมสำรวจทางโบราณคดี ที่นำโดย ดร.มาเรีย นิลส์สัน นักวิชาการประจำคณะโบราณคดีดั้งเดิมและประวัติศาสตร์โบราณ มหาวิทยาลัยลุนด์ ประเทศสวีเดน แถลงถึงการค้นพบสุสานฝังศพหมู่ในเมืองเก่า กาเบล เอล-ซิลซิลา ซึ่งเป็นพื้นที่เหมืองหินโบราณริมฝั่งแม่น้ำไนล์ ในเขตอียิปต์ตอนบน หรืออัปเปอร์ อียิปต์

สุสานดังกล่าวถูกตรวจสอบพบเมื่อเกือบ 2 ปีที่แล้ว แต่การขุดค้นตรวจสอบทำได้ยากเย็นอย่างยิ่ง เพราะภายในหลุมเต็มไปด้วยน้ำเค็มซึ่งเกิดจากน้ำทะเลหนุนในฤดูใบไม้ผลิตามธรรมชาติของลำน้ำไนล์ในแต่ละปี เมื่อต้องการเข้าไปสำรวจภายใน ทีมสำรวจต้องใช้ปั๊มดูดน้ำออกจากโถงหลุมศพให้หลงเหลือไม่เกินระดับที่สามารถนั่งแช่อยู่ในน้ำได้ จากนั้นจึงค่อยๆ ใช้มือคลำหา ตรวจสอบว่ามีโครงกระดูกหรือโบราณวัตถุที่ใช้กลบฝังร่วมกับศพอยู่หรือไม่

จอห์น วอร์ด สามีของ ดร.นิลส์สัน ซึ่งเป็นผู้ช่วยผู้อำนวยการโครงการสำรวจขุดค้น เกเบล เอล-ซิลซิลา ครั้งนี้ เปิดเผยว่า น้ำภายในโถงหลุมศพข้นคลั่กจนเหมือนกับน้ำซุปข้น ไม่มีทางที่จะมองผ่านน้ำลงไปได้เลย ด้วยเหตุนี้การสำรวจทุกอย่างจึงต้องทำโดยอาศัยการคลำและสัมผัสเอาเท่านั้น

เกเบล เอล-ซิลซิลา ตั้งอยู่ในบริเวณที่ลำน้ำไนล์หดแคบลงมามาก ห่างจากเขื่อนอัสวานไปทางเหนือราว 65 กิโลเมตร เป็นแหล่งทำเหมืองหินเก่าแก่ของประเทศที่มีประวัติศาสตร์ย้อนหลังไปได้นานถึงราว 3,550 ปีทีเดียว

Advertisement
โลงหินหรือ ซาร์โคฟากัส สำหรับทารก (ภาพ-Gebel el-Silsila Project, 2018)

อายุของหลุมฝังศพหมู่ที่เพิ่งค้นพบใหม่นี้ ก็มีอายุอยู่ในยุคดังกล่าว สภาพของสุสานฝังศพหมู่คือก้นของปล่องหินลึก 5 เมตร ที่ขุดขึ้นหยาบๆ จากหินชั้นฐานในบริเวณนั้น ตัวสุสานแยกออกเป็นห้องเก็บศพ 2 ห้อง แต่ทีมนักโบราณคดียังไม่สามารถเข้าถึงห้องเก็บศพห้องที่ 2 ได้เนื่องจากเต็มไปด้วยซากปรักหักพังและโคลนเลน

วอร์ดเปิดเผยว่า ในส่วนของห้องเก็บศพหลักที่เริ่มสำรวจไปแล้ว ทีมขุดค้นสามารถตรวจสอบพบโลงศพหิน หรือ ซาร์โคฟากัส 3 โลง หนึ่งในโลงหินที่เปิดออกตรวจสอบแล้วพบว่าใช้บรรจุศพเด็ก เช่นเดียวกับอีกโลงที่เป็นโลงบรรจุศพทารกแรกเกิด ส่วนโลงหินใบที่ 3 ยังไม่มีการศึกษาตรวจสอบอย่างเต็มที่

ในพื้นที่รอบๆ โลงหินเหล่านี้ มีซากโครงกระดูกของคนอย่างน้อย 50 คน ราว 2 ใน 3 ของซากโครงกระดูกดังกล่าวนั้นเป็นผู้ใหญ่ ส่วนที่เหลือเป็นกระดูกเด็กๆ ซากกระดูกเหล่านี้ปะปนกันอยู่ยุ่งเหยิง สาเหตุอาจเป็นไปได้ทั้งจากการที่น้ำทะเลไหลเข้ามาภายในสุสาน หรือไม่ก็มีความพยายามที่จะปล้นสุสานแห่งนี้แต่ไม่ประสบผลสำเร็จ แต่ทำให้โคลนเลนและน้ำปั่นป่วนพัดเอาซากโครงกระดูกไปกองปนกันในที่สุด ทั้งนี้เนื่องจากสุสานอื่นๆใน เกเบล เอล-ซิลซิลา ล้วนตกเป็นเหยื่อของโจรปล้นสุสานมาแล้วทั้งหมด

Advertisement

จากการตรวจวิเคราะห์ซากโครงกระดูกส่วนใหญ่พบว่าเป็นของผู้ใหญ่เพศชาย มีร่องรอยของอาการกระดูกแตกและหัก และปัญหากระดูกส่วนหลังอยู่เป็นส่วนใหญ่ ซึ่งบ่งชี้ว่าคนเหล่านี้คือผู้ใช้แรงงานที่ทำงานอยู่ในเหมืองหินเก่าแก่เหล่านี้นี่เอง ส่วนกระดูกสตรีและเด็กที่พบภายในอาจเป็นสมาชิกในครอบครัวของแรงงานเหล่านี้ ซึ่งไม่ใช่ทาสที่ถูกเกณฑ์มาใช้แรงงานแต่อย่างใด

หลักฐานที่แสดงว่าไม่ใช่ทาสนั้น วอร์ดระบุว่าเป็นเพราะศพจำนวนหนึ่งถูกฝังพร้อมกับเครื่องรางหลายอย่าง รวมทั้ง แช็บทิส ตุ๊กตาขนาดเล็กที่ใช้กลบฝังร่วมกับผู้ตายเพื่อส่งไปเป็นผู้รับใช้หลังเสียชีวิตแล้ว ผู้มีฐานะเป็นทาสจะไม่ได้รับการกลบฝังร่วมกับ แช็บทิส แต่อย่างใด

ข้อมูลจากการตรวจสอบเท่าที่ได้ในเวลานี้ แสดงให้เห็นว่า เกเบล เอล-ซิลซิลา เป็นชุมชนเมืองขนาดใหญ่ที่รุ่งเรืองทีเดียว ไม่ใช่เป็นเพียงแคมป์คนงานเหมืองทั่วไปเท่านั้น

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image