Apple เปิดตัว Mac Pro โฉมใหม่อันทรงพลังและ Pro Display XDR สุดล้ำ

(Photo by Brittany Hosea-Small / AFP)

เมื่อวันที่ 3 มิถุนายน Apple® เปิดตัว Mac Pro® โฉมใหม่ ซึ่งเป็นเวิร์กสเตชั่นสุดล้ำที่ออกแบบใหม่หมดในทุกรายละเอียดสำหรับมือโปรที่ใช้ Mac จนถึงขีดสุดของความสามารถ พร้อมกับเผยโฉม Apple Pro Display XDR ซึ่งเป็นจอภาพระดับโปรที่ดีที่สุดในโลก Mac Pro โฉมใหม่ออกแบบมาเพื่อเป็นที่สุดทั้งในด้านประสิทธิภาพ การต่อขยาย และการปรับแต่ง เพราะมาพร้อมโปรเซสเซอร์ Xeon ระดับเวิร์กสเตชั่นสูงสุด 28 คอร์, ระบบหน่วยความจำประสิทธิภาพสูงที่มีความจุมากถึง 1.5TB, ช่องต่อขยายแบบ PCIe จำนวน 8 ช่อง และสถาปัตยกรรมกราฟิกซึ่งใช้การ์ดกราฟิกที่ทรงพลังที่สุดในโลก อีกทั้งยังเปิดตัว Apple Afterburner การ์ดเร่งความเร็วอันเหนือชั้นที่จะช่วยให้สามารถเล่นวิดีโอ ProRes RAW ความละเอียด 8K ได้พร้อมกันถึง 3 สตรีม

Pro Display XDR โดดเด่นด้วยจอภาพ Retina® 6K ขนาดมหึมา 32 นิ้ว ที่รองรับขอบเขตสีกว้างแบบ P3 และสีสันระดับ 10 บิตอันสวยสดงดงาม, ความสว่างสูงสุดที่ 1,600 นิต, อัตราส่วนคอนทราสต์สูงถึง 1,000,000:1 และยังมีมุมในการมองที่กว้างมาก ทั้งหมดนี้ในราคาที่ไม่ไกลเกินเอื้อมสำหรับจอภาพระดับนี้ และเมื่อ Mac Pro ผนึกกำลังกับ Pro Display XDR แล้วก็จะกลายเป็นเครื่องมือที่ทรงพลังที่สุดเท่าที่ Apple เคยสร้างมาสำหรับลูกค้ามือโปร และจะพลิกโฉมการทำงานในระดับโปรไปโดยสิ้นเชิง

“เราออกแบบ Mac Pro สำหรับผู้ใช้ที่ต้องการระบบแบบโมดูลาร์ที่เป็นที่สุดทั้งในด้านประสิทธิภาพ การต่อขยาย และการปรับแต่ง เพราะมาพร้อมโปรเซสเซอร์ Xeon อันทรงพลัง, หน่วยความจำที่มากเกินพอ, สถาปัตยกรรม GPU อันล้ำสมัย, PCIe สำหรับการต่อขยาย, การ์ดเร่งความเร็ว Afterburner และดีไซน์ที่ใครเห็นเป็นต้องทึ่ง บอกได้เลยว่า Mac Pro คือสุดยอดขุมพลังที่จะช่วยให้มือโปรสร้างสรรค์ผลงานที่ดีที่สุดในชีวิตการทำงาน” Phil Schiller รองประธานอาวุโสฝ่าย Worldwide Marketing ของ Apple กล่าว “Pro Display XDR คือจอภาพระดับโปรที่ดีที่สุดในโลก และเป็นคู่หูที่ลงตัวสำหรับใช้งานร่วมกับ Mac Pro โฉมใหม่อีกด้วย เพราะมาพร้อมความละเอียดระดับ Retina 6K, สีสันที่สวยสดงดงาม, ความสว่างและอัตราส่วนคอนทราสต์ที่สูงเหลือเชื่อ พร้อมดีไซน์ที่โดดเด่นด้านประโยชน์ใช้สอย จึงเรียกได้ว่า Pro Display XDR มีคุณสมบัติต่างๆ ครบเครื่องที่สุดเมื่อเทียบกับจอภาพในราคาระดับเดียวกัน”

(Photo by Brittany Hosea-Small / AFP)

ขุมพลังโปรเซสเซอร์ที่แรงสุดขั้ว พร้อมแบนด์วิดท์ที่เหลือเฟือ
Mac Pro ออกแบบมาสำหรับลูกค้าที่ต้องการประสิทธิภาพด้าน CPU ในระดับสุดยอด สำหรับเวิร์กโฟลว์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการเรนเดอร์งาน เล่นเครื่องดนตรีเสมือนหลายร้อยชิ้น หรือจำลองการทำงานของแอพบนอุปกรณ์ iOS หลายสิบเครื่องพร้อมกัน เพราะมาพร้อมโปรเซสเซอร์ Xeon สูงสุด 28 คอร์ และ PCI Express ถึง 64 ช่องสัญญาณ จึงมีประสิทธิภาพที่แรงสุดขั้ว พร้อมแบนด์วิดท์ที่เหลือเฟือ ทั้งยังจ่ายไฟได้มากกว่า 300 วัตต์ และมีสถาปัตยกรรมการควบคุมความร้อนอันเหนือชั้นที่ช่วยให้โปรเซสเซอร์ทำงานได้เต็มพลังตลอดเวลา

Advertisement

ใส่หน่วยความจำเพิ่มและต่อขยายได้อีกมาก
Mac Pro สามารถใส่หน่วยความจำเพิ่มได้อีกมากเพื่อรองรับความต้องการที่สูงขึ้นเรื่อยๆ เหมาะสำหรับมือโปรที่ต้องทำงานกับโปรเจ็กต์ใหญ่มหึมา วิเคราะห์ชุดข้อมูลมหาศาล หรือใช้แอพพลิเคชั่นระดับโปรพร้อมกันหลายแอพ นอกจากนี้ Mac Pro ใหม่ยังใช้สถาปัตยกรรมหน่วยความจำแบบ 6 ช่องสัญญาณ และมีช่องเสียบ DIMM มากถึง 12 ช่อง จึงรองรับหน่วยความจำได้ถึง 1.5TB เรียกได้ว่าสูงสุดเท่าที่เคยมีมาใน Mac เลยทีเดียว อีกทั้งยังมีช่องต่อขยายแบบ PCI Express จำนวน 8 ช่อง มากกว่า Mac Pro แบบทาวเวอร์รุ่นก่อนถึงสองเท่า ช่วยให้มือโปรปรับแต่งและขยายระบบอย่างที่ไม่เคยทำได้มาก่อนกับเวิร์กสเตชั่นเครื่องเดียว

สถาปัตยกรรมกราฟิกที่ทรงพลังที่สุดในโลก
ประสิทธิภาพด้านกราฟิกมีความสำคัญเหนือสิ่งอื่นใดสำหรับมือโปรที่ต้องทำงานแอนิเมชั่นในภาพยนตร์ 3D, รวมองค์ประกอบภาพในฉากระดับ 8K และสร้างสภาพแวดล้อม 3D ที่ซับซ้อน นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ Mac Pro มาพร้อมการ์ดกราฟิกที่ทรงพลังที่สุดในโลก และมีประสิทธิภาพด้านกราฟิกสูงสุดถึง 56 เทราฟลอปในระบบเดียว ยิ่งกว่านั้นยังมีสถาปัตยกรรมการต่อขยายกราฟิกสุดล้ำในชื่อ Apple MPX Module ที่ผสานการทำงานกับ Thunderbolt และจ่ายไฟได้มากกว่า 500 วัตต์ จึงพร้อมสำหรับการ์ดกราฟิกทุกแบบ ส่วนเรื่องการทำงานก็มั่นใจได้ว่าเงียบสนิท เพราะมีระบบควบคุมความร้อนของ Mac Pro คอยระบายความร้อนให้กับ MPX Module

ตัวเลือกกราฟิกสำหรับ Mac Pro เริ่มต้นด้วย Radeon Pro 580X และ Mac Pro ยังเผยโฉม Radeon Pro Vega II ที่มีประสิทธิภาพในการประมวลผลสูงสุด 14 เทราฟลอป และหน่วยความจำ 32GB พร้อมแบนด์วิดท์หน่วยความจำสูงสุดในบรรดา GPU ด้วยกันที่ 1TB/s พร้อมกันนี้ Mac Pro ได้เปิดตัว Radeon Pro Vega II Duo ซึ่งใช้ GPU รุ่น Vega II สองตัวเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพด้านกราฟิกให้แรงเหลือเชื่อถึง 28 เทราฟลอป พร้อมหน่วยความจำ 64GB จึงกลายเป็นการ์ดกราฟิกที่ทรงพลังที่สุดในโลก ยิ่งกว่านั้น Mac Pro ยังรองรับ MXP Module สองชุด ลูกค้าจึงสามารถใช้ Vega II Duo สองตัวคู่กันเพื่อยกระดับประสิทธิภาพด้านกราฟิกให้เหนือชั้นไปอีกขั้นถึง 56 เทราฟลอป พร้อมหน่วยความจำวิดีโอขนาด 128GB

Advertisement

ขอแนะนำ Apple Afterburner การ์ดเร่งความเร็วที่จะพลิกโฉมการทำงาน
Mac Pro ใหม่เปิดตัว Afterburner ซึ่งมาพร้อม ASIC แบบตั้งโปรแกรมได้ที่สามารถถอดรหัสได้สูงสุดถึง 6.3 พันล้านพิกเซลต่อวินาที และเมื่อมี Afterburner แล้ว นักตัดต่อวิดีโอที่ใช้กล้องคุณภาพสูง ซึ่งปกติต้องแปลงไฟล์จากรูปแบบเดิมของกล้องมาเป็นพร็อกซี่เพื่อให้ง่ายต่อการตัดต่อ ก็สามารถใช้ไฟล์รูปแบบเดิมจากกล้องได้ทันที และยังถอดรหัสวิดีโอ ProRes RAW ความละเอียด 8K ได้สูงสุด 3 สตรีม หรือวิดีโอ ProRes RAW ความละเอียด 4K สูงสุด 12 สตรีมในแบบเรียลไทม์1 จึงแทบจะบอกลาการทำงานกับพร็อกซี่ไปได้เลย

ตัวเครื่องแบบโมดูลาร์ที่สวยสะดุดตาและเข้าถึงได้ 360 องศา
ดีไซน์ของ Mac Pro ใหม่ประกอบด้วยโครงที่ทำมาจากสแตนเลสสตีล พร้อมฝาครอบอะลูมิเนียมที่สามารถยกออกเพื่อเข้าถึงทั้งระบบภายในได้แบบ 360 องศา โดยตัวโครงนั้นเป็นหัวใจสำคัญสำหรับระบบแบบโมดูลาร์ที่มีความยืดหยุ่น และยังมาพร้อมที่จับที่เรียบเนียน ช่วยให้การย้าย Mac Pro ไปมาในสตูดิโอเป็นเรื่องง่าย นอกจากนี้ฝาครอบยังมีลายตารางที่สวยสะดุดตาเพื่อช่วยให้อากาศไหลผ่านได้ดีที่สุดและทำงานได้เงียบ ส่วนลูกค้าที่ต้องการยึด Mac Pro เข้ากับตู้แร็คในห้องตัดต่อหรือห้องเก็บอุปกรณ์ จะมีการวางจำหน่ายเวอร์ชั่นที่ปรับแต่งมาสำหรับการติดตั้งในตู้แร็คโดยเฉพาะภายในปีนี้

ประสิทธิภาพที่จะพลิกโฉมการทำงานในระดับโปร
Mac Pro ใหม่มาพร้อมประสิทธิภาพที่จะพลิกโฉมการทำงานในระดับโปรด้วยโปรเซสเซอร์ Xeon สูงสุด 28 คอร์ และประสิทธิภาพด้านกราฟิกสูงถึง 56 เทราฟลอป พร้อมด้วยการ์ด Afterburner สุดล้ำ และนักพัฒนาแอพระดับโปรหลายรายก็เริ่มสัมผัสได้ถึงผลลัพธ์ที่เยี่ยมยอดอย่างที่ไม่เคยทำได้มาก่อนในเวิร์กสเตชั่นเครื่องเดียว
ไม่ว่าจะเป็น Blackmagic Design ที่ทำให้ทุกระบบสามารถตัดต่อวิดีโอ ProRes 444 ความละเอียด 8K พร้อมใส่เอฟเฟ็กต์และแก้ไขสีแบบเรียลไทม์ได้เป็นครั้งแรกโดยอาศัย CPU และ GPU หลายตัวในการเร่งความเร็วเต็มรูปแบบ
ส่วน Avid ก็สามารถพัฒนา Pro Tools ให้รองรับการ์ด HDX ได้สูงสุด 6 ตัว ซึ่งช่วยเพิ่มทั้ง IO และจำนวนเสียงพูด ทั้งยังประมวลผล DSP แบบเรียลไทม์ได้มากขึ้นสองเท่าเมื่อเทียบกับระบบอื่นๆ
และ Cinema 4D ที่พัฒนาโดย Maxon ก็มีประสิทธิภาพในการเรนเดอร์ด้วย GPU เร็วขึ้นอีก 20% เมื่อเทียบกับเวิร์กสเตชั่น Windows ที่ใส่การ์ดกราฟิก NVIDIA Quadro RTX 8000 ครบ 3 ตัว
ดูผลลัพธ์ด้านประสิทธิภาพสำหรับ Mac Pro โฉมใหม่เพิ่มเติมได้ที่ apple.com/th/mac-pro

จุดเด่นของ Pro Display XDR คือจอภาพ Retina ที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา
Pro Display XDR ใช้แผงจอภาพ LCD ขนาด 32 นิ้ว ที่มีความละเอียดระดับ Retina 6K ที่ 6016 x 3384 จึงสามารถมอบประสบการณ์การรับชมความละเอียดสูงที่คมชัดทุกรายละเอียด ด้วยพื้นที่บนหน้าจอที่มากกว่าจอภาพ Retina 5K ถึงเกือบ 40% ทั้งยังรองรับขอบเขตสีกว้างแบบ P3 และสีสันระดับ 10 บิตแท้ๆ ที่แสดงสีได้มากกว่า 1 พันล้านสี เพื่อประสบการณ์การรับชมที่สมจริงยิ่งขึ้นสำหรับมือโปรที่ตัดต่อวิดีโอและปรับแต่งรูปภาพ ทำงานแอนิเมชั่น 3D หรือปรับสี นอกจากนี้ Pro Display XDR ยังมาพร้อมเทคโนโลยีโพลาไรเซอร์ที่ดีที่สุดในอุตสาหกรรม จึงมีมุมในการมองจากด้านข้างที่กว้างมากโดยที่ยังแสดงสีสันได้ถูกต้อง ช่วยให้ผู้ใช้หลายคนสามารถดูคอนเทนต์ที่ถูกต้องสมจริงยิ่งขึ้นพร้อมกันได้ และ Pro Display XDR ยังมีการเคลือบผิวป้องกันแสงสะท้อนระดับชั้นนำของวงการที่ช่วยจัดการกับแสงสะท้อน อีกทั้งยังมีตัวเลือกใหม่แบบผิวด้านอันล้ำสมัยที่เรียกว่าพื้นผิวนาโน ซึ่งมีการสลักลายลงบนกระจกในระดับนาโนเมตรเพื่อให้การสะท้อนแสงอยู่ในระดับต่ำและมีแสงรบกวนสายตาน้อยลง

ช่วงไดนามิกที่สูงสุดขั้วช่วยให้คอนเทนต์ดูมีชีวิตชีวา
Pro Display XDR ยกระดับช่วงไดนามิกที่สูงอยู่แล้วให้สูงสุดขั้วอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนเพื่อให้สามารถแสดงผลได้ตรงกับที่ตาเห็นจริงๆ โดย Pro Display XDR ใช้ระบบแบ็คไลท์ชนิดตรงกับอาร์เรย์ LED ขนาดใหญ่ที่ให้ความสว่างเต็มหน้าจอ 1,000 นิต และมีความสว่างสูงสุดถึง 1,600 นิต เหนือกว่าจอภาพทั่วไปแบบเทียบไม่ติด นอกจากนี้ยังมีระบบควบคุมความร้อนอันล้ำสมัยที่ใช้อะลูมิเนียมลายตารางเป็นแผงระบายความร้อน Pro Display XDR จึงสามารถให้ความสว่างเต็มหน้าจอที่ 1,000 นิตได้ต่อเนื่องไม่มีสะดุด ซึ่งเป็นสิ่งที่จอภาพความละเอียดระดับนี้ไม่เคยทำได้มาก่อนในราคาระดับนี้ อีกทั้งยังมีอัตราส่วนคอนทราสต์สูงถึง 1,000,000:1 จึงแสดงภาพในส่วนไฮไลท์ได้สว่างสดใสแบบเห็นได้ชัด แสดงสีดำได้ดำสนิท และถ่ายทอดทุกรายละเอียดได้อย่างครบถ้วน

ดีไซน์โมดูลาร์ที่ยืดหยุ่นและสวยสะดุดตา เพื่อการทำงานแบบมือโปร
Pro Display XDR มาพร้อมกระจกแบบขอบจรดขอบ และกรอบที่แคบเพียง 9 มม. ในตัวเครื่องอะลูมิเนียมที่สวยสะดุดตา เรียกว่าเป็นดีไซน์ที่โดดเด่นทั้งในด้านประโยชน์ใช้สอยและความยืดหยุ่น ส่วน Pro Stand ก็มีแขนยึดที่ออกแบบทางวิศวกรรมอย่างพิถีพิถันเพื่อถ่วงน้ำหนักกับจอภาพได้อย่างสมดุล จึงให้ความรู้สึกที่เรียกว่าแทบจะไร้น้ำหนัก ช่วยให้ผู้ใช้จัดวางจอภาพในตำแหน่งที่ต้องการได้ง่าย นอกจากนี้ Pro Stand ยังปรับได้ทั้งความเอียงและความสูง และยังทำให้หมุน Pro Display XDR เป็นแนวตั้งได้ด้วย ซึ่งเหมาะสำหรับการทำงานหลายประเภทอย่างการแต่งรูป การออกแบบเว็บเพจ หรือการเขียนโค้ด และยังสามารถยึดติดหรือถอดออกได้ง่ายๆ อย่างรวดเร็วจึงสามารถพกพาไปใช้งานนอกสถานที่ได้สะดวก ส่วนมือโปรที่ต้องการใช้ระบบยึดเฉพาะทาง ก็สามารถสับเปลี่ยนระหว่างอะแดปเตอร์สำหรับตัวยึด VESA กับ Pro Stand ได้ และยังสามารถใช้สาย Thunderbolt 3 เส้นเดียวเพื่อต่อ Pro Display XDR กับผลิตภัณฑ์ตระกูล Mac ได้ทุกรุ่น รวมถึง Mac Pro ซึ่งรองรับการใช้งานกับจอภาพสูงสุด 6 จอ รวมเป็นจำนวนพิกเซลสูงถึง 120 ล้านพิกเซล

ราคาและการวางจำหน่าย
Mac Pro โฉมใหม่มีราคาเริ่มต้นที่ 5,999 เหรียญสหรัฐ และจะเปิดให้สั่งซื้อภายในปีนี้ Pro Display XDR มีราคาเริ่มต้นที่ 4,999 เหรียญสหรัฐ, Pro Stand มีราคา 999 เหรียญสหรัฐ และอะแดปเตอร์สำหรับตัวยึด VESA มีราคา 199 เหรียญสหรัฐ โดยทั้งหมดจะเปิดให้สั่งซื้อภายในปีนี้ ดูข้อมูลทางเทคนิคเพิ่มเติม ตัวเลือกสำหรับการปรับแต่งตามสั่ง

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image