โครงการค้นหา “สิ่งมีชีวิตทรงภูมิปัญญาจากต่างดาว” (Search for Extraterrestrial Intelligence) หรือที่เรียกกันสั้นๆ ว่า “เซติ” เผยแพร่ข้อมูลและผลลัพธ์ช่วงแรกของโครงการตรวจสอบเพื่อหาร่องรอยของสัญญาณจากดวงดาวต่างๆ ที่อยู่ห่างไกลออกไป ซึ่งหากตรวจจับได้ก็สามารถอนุมานได้ว่าน่าจะเป็นสิ่งบ่งชี้ที่แสดงให้เห็นได้ชัดเจนว่านอกเหนือจากมนุษย์บนโลกของเราใบนี้แล้ว ยังมีสิ่งมีชีวิตอื่นที่ทรงภูมิปัญญา มีความสามารถอย่างน้อยก็ไม่ต่างไปจากมนุษย์อยู่ด้วยบนดวงดาวเหล่านั้น
แดนนี ไพรซ์ นักฟิสิกส์ดาราศาสตร์จากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย เบิร์กลีย์ ซึ่งเป็นผู้เขียนหลักในรายงานผลของการค้นหาดังกล่าวครั้งแรกซึ่งเผยแพร่ออกมาเมื่อเร็วๆ นี้ผ่านทางวารสารวิชาการ แอสโทรฟิสิคัล เจอร์นัล ระบุว่า ผลการค้นครั้งใหม่ซึ่งเป็นการค้นหาอย่างถ้วนทั่วมากที่สุดในอาณาบริเวณที่ครอบคลุมดวงดาว 1,327 ดวงใกล้โลกเรา ไม่พบว่ามีสัญญาณที่พยายามติดต่อมาแต่อย่างใด หรืออย่างน้อยก็ยังไม่มีจนถึงขณะนี้
การค้นหาครั้งใหม่นี้ซึ่งเริ่มต้นเมื่อปี 2015 โดยได้รับเงินสลับสนุน 100 ล้านดอลลาร์จาก โครงการ “เบรกทรู ลิสซึน อินนิเชียทีฟ” ของ ยูริ มิลเนอร์ มหาเศรษฐีระดับพันล้านชาวรัสเซีย ที่ต้องการควานหา “ร่องรอยทางเทคโนโลยี” อย่างเช่นการส่งสัญญาณแรงสูง หรืออื่นๆ จากโลกอื่นในระบบดาวอื่นๆ โดยอาศัยกล้องโทรทรรศน์ที่ทรงอานุภาพที่สุดในโลก 2 กล้อง ในการดำเนินความพยายาม “ดักฟัง” การสื่อสารซึ่งกันและกันของ “มนุษย์ต่างดาว” คือ กล้องโทรทรรศน์ โรเบิร์ต ซี. เบิร์ด กรีนแบงก์ เทเลสโคป ในเวสต์ เวอร์จิเนีย ซึ่งมีจานรับสัญญาณขนาดมหึมาเส้นผ่านศูนย์กลาง 100 เมตร กับ ปาร์คส์ เทเลสโคป ในรัฐนิวเซาธ์เวลส์ ประเทศออสเตรเลีย ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 64 เมตร ได้ข้อมูลดิจิทัลสำหรับนำมาวิเคราะห์รวม 1 เพทาไบท์ (หรือเท่ากับ 1 ล้านกิกะไบต์)
ข้อมูล 1 เพทาไบต์ ดังกล่าวมีทั้งที่เป็นสัญญาณวิทยุและที่เป็นสัญญาณแสงคือ ออพติคอล เวฟเลนจ์ ซึ่งกวาดตรวจสอบไปยังดวงดาวมากกว่า 1,000 ดวงเหล่านั้นซึ่งอยู่ในปริมณฑล 160 ปีแสงของโลก มีการตรวจสอบพบสัญญาณที่น่าสนใจหลายพันสัญญาณในระหว่างการค้นหาดังกล่าว แต่เมื่อตรวจสอบซ้ำอย่างจริงจังกลับพบว่าสัญญาณที่น่าสนใจเหล่านั้นมีที่มาจากแหล่งที่มาซึ่งเป็นสิ่งประดิษฐ์ของมนุษย์ทั้งหมด เช่น จากดาวเทียมที่มนุษย์ส่งขึ้นไปสู่ห้วงอวกาศ เป็นต้น
ข้อมูลทั้งหมดถูกนำมาเผยแพร่ไว้ในเว็บไซต์ “Open Data Archive” ของโครงการเบรกทรู ซึ่งถือเป็นการเผยแพร่ข้อมูลของเซติขนาดใหญ่ที่สุด และได้รับความชื่นชมจากนักฟิสิกส์ทั่วไปต่อการเปิดกว้างครั้งนี้
“ไม่มีอะไรอยู่ข้างนอกนั้นแน่นอน ชัดเจนแจ่มแจ้ง” ไพรซ์ระบุถึงข้อมูลเท่าที่มีการสำรวจเหล่านั้น โดยไม่ลืมย้ำว่า ไม่มีอารยธรรมก้าวหน้าที่น่าอัศจรรย์ใดๆ พยายามติดต่อกับโลกเราด้วยสัญญาณติดต่อที่ทรงพลังน่าอัศจรรย์แต่อย่างใด แต่ถึงแม้ว่าทีมของเซติยังค้นไม่พบอะไรในการตรวจสอบอย่างขะมักเขม้นครั้งนี้ แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าสิ่งมีชีวิตทรงภูมิปัญญาดังกล่าวจะไม่มีโดยแน่นอนแล้ว
ไพรซ์ระบุเอาไว้ว่า การที่ยังค้นหาไม่พบจนถึงขณะนี้นั้น สามารถอธิบายได้หลายอย่าง ตั้งแต่เป็นการค้นหาสัญญาณผิดย่านคลื่นความถี่ หรือสัญญาณเหล่านั้นถูกซุกซ่อนหรือปกปิดด้วยสัญญาณรบกวนจากสัญญาณวิทยุจากโลก หรือไม่ก็เป็นเพราะขีดจำกัดของวิธีการและการค้นพบอื่นที่ผ่านๆ มาของมนุษยชาติเองก็เป็นได้
เพราะวิธีการที่มนุษย์ใช้ค้นหาก็เป็นไปตามความรู้ ความเข้าใจ ที่เราเคยรู้ เคยใช้ค้นหาสิ่งอื่นๆ ที่พบมาแล้วในประวัติศาสตร์ เพียงแต่สิ่งที่กำลังค้นหาใหม่นี้อยู่นอกเหนือขอบเขตดังกล่าวนั่นเอง
นอกจากนั้นยังมีข้อเท็จจริงหนึ่งที่ชัดเจนก็คือ ปริมาณการค้นหาครั้งนี้และเท่าที่เป็นมาเทียบได้เท่ากับน้ำในอ่างอาบน้ำ 1-2 อ่าง จากน้ำทั้งหมดมหาสมุทรเท่านั้นเอง
