5 วิธีการทำงานแบบอไจล์ ที่ไม่จำกัดการใช้งานแต่กับสตาร์ตอัพ

การทำงานแบบอไจล์ (Agile) หรือการทำงานในทีมที่ประกอบไปด้วยบุคลากรจากหลายสายงาน แทนการทำงานแบบส่งไม้ต่อระหว่างแผนก เน้นการสื่อสารระหว่างบุคคลเพื่อความเข้าใจกันให้มากยิ่งขึ้น กระจายอำนาจการตัดสินใจ และเปลี่ยนวิธีการทำงาน จากการกำหนดเป้าหมายระยะยาวแบบมุ่งไปครั้งเดียว เป็นแบบระยะสั้นๆ หรือที่เรียกว่า สปรินต์ (Sprint) เพื่อให้สามารถรับมือกับการเปลี่ยนแปลงในโลกธุรกิจ ซึ่งเกิดขึ้นได้ทุกวัน และแก้ไขปัญหาข้อผิดพลาดที่อาจจะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว เป็นหนึ่งในวิธีที่เหล่าสตาร์ตอัพใช้ในการทำงาน ซึ่งช่วยเรื่องต้นทุนที่เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลง (Cost of Change) ด้วยแนวคิดที่ว่า Fail fast, Fail often ยอมรับความผิดพลาดได้หลายครั้ง แต่ต้องผิดพลาดให้เร็วและแก้ไขปรับตัวให้เร็วตามด้วย เพื่อเรียนรู้ความผิดพลาดจากครั้งก่อน จนสามารถสร้างสินค้าและบริการที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคอย่างทันท่วงที

พชร อารยะการกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บลูบิค กรุ๊ป จำกัด ที่ปรึกษาด้านกลยุทธ์และการจัดการด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยี ผู้มีประสบการณ์และมีความเชี่ยวชาญด้านการพัฒนากลยุทธ์ดิจิทัลเพื่อการแข่งขันในปัจจุบันและอนาคต ได้กล่าวถึง 5 วิธีการทำงานแบบอไจล์ ที่มิได้จำกัดอยู่แค่ในวงสตาร์ตอัพ แต่หลายองค์กรในโลกธุรกิจ เริ่มหันมาเลือกใช้วิธีการทำงานนี้ กับหลายๆ โครงการ หรือแม้กระทั่งการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ๆ ซึ่ง 5 วิธีการทำงานแบบอไจล์ ได้แก่

1.การแบ่งรอบการดำเนินงานเป็นระยะเวลาสั้นๆ (Sprint planning) คือการทำงานที่สามารถส่งมอบงานบางส่วน โดยไม่จำเป็นต้องรอจนกว่าจะเสร็จทั้งหมด และทยอยส่งส่วนที่เหลือในรอบต่อๆ ไป เพื่อตอบสนองธุรกิจในปัจจุบันที่มีการแข่งขันที่สูง และความต้องการของผู้ใช้งานเปลี่ยนแปลงบ่อย

2.การทำงานโดยใช้ Task board (print Execution) เป็นการบริหารการทำงาน โดยแบ่งสถานะการทำงานเป็น To-do, Doing and Done เพื่อให้ทุกคนในทีมได้อัพเดตและเห็นงานทั้งหมดร่วมกัน

Advertisement

3.การมีประชุมสั้นๆ ก่อนเริ่มงานทุกวัน (Daily meeting) เป็นการที่ทุกคนบอกกับทีมว่าวันนี้จะทำอะไร เราติดปัญหาอะไรอยู่ และต้องการความช่วยเหลืออย่างไร นอกจากนี้ ยังเป็นการช่วยให้ทุกคนในทีมมีความกระตือรือร้นในการทำงานยิ่งขึ้น หรือบางครั้งเราอาจจะใช้วิธีการที่เรียกว่า “Standup Meeting” หรือยืนประชุม เพื่อป้องกันการประชุมที่ใช้เวลานานเกินไป เพราะบางครั้งการที่เรานั่งประชุม จะทำให้เราสบายเกินไป และมีการคุย การนอกเรื่องเหนือจากประเด็นที่จำเป็น

4.การรีวิวและทดสอบงานในทุกๆ ช่วงการดำเนินงาน (Sprint Review) เป็นการทดสอบว่าเราทำงานเสร็จตามแผนที่วางไว้หรือไม่ ผลลัพธ์ที่ได้ตลอดรอบการดำเนินงานเป็นอย่างไร มีส่วนใดที่เกิดปัญหาและมีวิธีแก้ปัญหาอย่างไร

และ 5.การวิเคราะห์วิธีการทำงานที่ผ่านมาเพื่อการพัฒนา (Retrospective) เป็นการที่ทีมร่วมกันทบทวนวิธีการทำงานที่ผ่านมา โดยคิดว่าอะไรที่ Good-ทำมาดีแล้วควรทำต่อไป Bad-อะไรที่เป็นปัญหาสมควรแก้ไข และ Try-จะทำอย่างไรให้วิธีการทำงานร่วมกันนั้นดีขึ้นหรือมีอะไรใหม่ๆ ที่อยากจะลอง ในรอบการทำงานถัดไป

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image