“กบยักษ์” วิศวกรสร้างสระ

(ภาพ-AFP)

ทีมวิจัยทางสัตววิทยาสาขาสัตว์เลื้อยคลานและสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ นำโดย มาร์ก-โอลิเวอร์ โรเดล นักวิจัยอาวุโสด้านสัตววิทยาสัตว์เลื้อยคลานและสัตว์ครึ่งบก

ครึ่งน้ำ ประจำพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ธรรมชาติแห่งเบอร์ลิน ในกรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี เดินทางไปสำรวจและศึกษาพฤติกรรมของกบที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกคือ กบโกไลแอธ (ชื่อวิทยาศาสตร์ Conraua goliath) ถึงถิ่นอาศัยในพื้นที่ทางตะวันตกของประเทศแคเมอรูน เพื่อพิสูจน์คำบอกเล่าของพรานกบในท้องถิ่นที่บอกว่า กบยักษ์ชนิดนี้สร้างสระให้กับลูกอ๊อดของมันแถมยังเฝ้ายามดูตลอดทั้งคืนเพื่อเพิ่มโอกาสการรอดชีวิตของลูกๆ

เมื่อฤดูใบไม้ผลิ ปี 2018 ที่ผ่านมาทีมวิจัยลงพื้นที่สำรวจตามแนวแม่น้ำเอ็มพูลาเป็นระยะทาง 400 เมตร พบสระเลี้ยงลูกอ๊อดที่กบวิศวกรนี้สร้างขึ้นมาสำหรับการขยายพันธุ์โดยเฉพาะมากถึง 22 สระ ทั้งยังตั้งกล้องบันทึกภาพเคลื่อนไหวแบบไทม์-แลปส์ พบว่ามีแม่กบทำหน้าที่เฝ้าสระในตอนกลางคืนอยู่ด้วยจริงๆ

กบโกไลแอธเป็นกบพื้นถิ่นของประเทศแคเมอรูนและเอควิทอเรียล กินี เท่านั้น เมื่อโตเต็มวัยจะมีขนาดใหญ่มากหนักถึง 3.3 กิโลกรัม ตัวผู้จะมีขนาดใหญ่ ลำตัวยาวถึง 34 เซนติเมตร ในจำนวนสระที่กบยักษ์สร้างขึ้นมาทั้งหมดนั้นมีอยู่ถึง 14 สระที่มีลูกอ๊อดอยู่อย่างน้อยสระละ 3,000 ตัว

Advertisement

ทีมวิจัยพบว่า ลักษณะของแอ่งน้ำหรือสระที่กบโกไลแอธทำขึ้นเพื่อใช้เป็นสถานที่อนุบาลลูกอ๊อดนั้นมีอยู่ถึง 3 แบบ แบบแรกเป็นการใช้พื้นที่ท้องน้ำริมแม่น้ำที่มีลักษณะเป็นสระอยู่แล้ว จากนั้นเข้าไปจัดการขยายขนาดให้ใหญ่ขึ้นด้วยการเคลียร์พื้นและดันก้อนหินมาเรียงรายไว้เป็นขอบ เป็นการป้องกันการกระเพื่อมของน้ำ

แบบที่สองเป็นการใช้แอ่งน้ำขังด้านข้างแม่น้ำที่มีลักษณะเป็นสระอยู่ก่อนแล้วเช่นกัน ขยายขนาดและดันหินมาเรียงเป็นขอบเขต ทีมวิจัยสังเกตว่าหินบางก้อนมีน้ำหนักไม่น้อยกว่า 2 กิโลกรัม หรือกว่าครึ่งหนึ่งของน้ำหนักตัวของกบยักษ์ชนิดนี้ ที่น่าสังเกตก็คือ กบโกไลแอธจะเก็บกวาดทำความสะอาดสระของมันอยู่เสมอ จนพื้นสระราบเรียบและไม่มีเศษใบไม้ เศษหินหลงเหลืออยู่เลย

แบบที่สามเป็นแบบที่สร้างขึ้นเองโดยอาศัยการขุดหินกรวดและอื่นๆ ออกไป ดันก้อนหินมารายล้อมไว้โดยรอบ ขณะที่ตัวผู้กำลังเตรียมทำสระเลี้ยงลูกอยู่นี้ ตัวเมียจะรออยู่ใกล้ๆ เมื่อสระแล้วเสร็จก็จะมีการผสมพันธุ์วางไข่ แล้วตัวเมียจะทำหน้าที่เฝ้ารังต่อไป

Advertisement

เมื่อได้เวลาลูกอ๊อดโตพอเลี้ยงตัวเองได้แล้วก็เปิดทางสระให้เชื่อมต่อกับแม่น้ำ ปล่อยให้ลูกอ๊อดใช้ชีวิตตามลำพังต่อไป

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image