ซีดีซีระบุ “น้ำมันวิตามินอี” ต้นเหตุโรคปอดจากบุหรี่ไฟฟ้า

(AP Photo/Jim Mone, File)

แพทย์หญิง แอนน์ ชูแชท ผู้อำนวยการศูนย์เพื่อป้องกันและควบคุมโรค (ซีดีซี) ของสหรัฐอเมริกา เปิดเผยสถิติล่าสุดของผู้ป่วยเป็นโรคปอดอันเนื่องมาจากการสูบบุหรี่ไฟฟ้าในสหรัฐอเมริกาล่าสุด เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายนนี้ว่า เพิ่มขึ้นเป็น 2,051 ราย และมีผู้เสียชีวิตจากอาการของโรคดังกล่าวรวม 39 ราย ในขณะเดียวกันก็ระบุด้วยว่า มีหลักฐานแน่นหนามากขึ้นที่ชี้ให้เห็นว่า “น้ำมันวิตามินอี” หรือ “วิตามินอี อะซีเตท” ที่พบในน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าชนิดทำเองซึ่งผสมสาร “ทีเอชซี” ซึ่งสกัดจากกัญชาและเป็นสารออกฤทธิ์ที่ก่อให้เกิดอาการเมาในกัญชาคือตัวการสำคัญที่ก่อให้เกิดอาการบาดเจ็บในปอด ที่เป็นอาการหลักของผู้ป่วยจากการสูบบุหรี่ไฟฟ้าในเวลานี้

“ถือเป็นครั้งแรกที่เราสามารถตรวจพบตัวการก่อให้เกิดพิษในผู้ป่วยที่เกี่ยวข้อง นั่นคือ วิตามินอี อะซีเตท” แพทย์หญิงชูแชทกล่าว โดยให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ผู้ทำหน้าที่สืบสวนโรคได้ทดสอบตัวอย่างของเหลวที่ได้จากปอดของผู้ป่วยจากการสูบบุหรี่ไฟฟ้าจำนวน 29 ราย ซึ่งสุ่มจากรัฐต่างๆ 10 รัฐ ในสหรัฐอเมริกา และพบว่ามีวิตามินอี อะซีเตท อยู่ในตัวอย่างทั้ง 29 ตัวอย่าง โดยไม่ได้พบน้ำมันอย่างอื่น ไม่ว่าจะเป็น มิเนอรัล ออยล์ หรือน้ำมันพืชอื่นใดปนเปื้อนอยู่ในปริมาณสูงเหมือนกับ น้ำมันวิตามินอี นอกจากพบจากของเหลวที่ได้จากปอดผู้ป่วยแล้ว ก่อนหน้านี้ในการทดสอบผลิตภัณฑ์น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า เจ้าหน้าที่ก็พบน้ำมันชนิดนี้อยู่ในผลิตภัณฑ์ด้วยเช่นกัน

เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา สำนักงานสาธารณสุขแห่งรัฐนิวยอร์ก เคยตรวจสอบตัวอย่างผลิตภัณฑ์โดยละเอียดในห้องปฏิบัติการทดลอง พบว่าตัวอย่างของผลิตภัณฑ์ที่นำมาตรวจวิเคราะห์เกือบทั้งหมด มีส่วนผสมของวิตามินอี อะซีเตท อยู่ในระดับสูงมาก

“วิตามินอี อะซีเตท” เป็นสารสังเคราะห์จากวิตามินอี ที่พบได้ในหลายผลิตภัณฑ์ทั่วไป ตั้งแต่อาหารเสริมไปจนถึงเครื่องสำอางประเภทโลชั่นประทินผิว บำรุงผิว และไม่มีหลักฐานบ่งชี้ว่าจะก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพหากกลืน หรือทาลงบนผิวหนังแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม ในกรณีที่วิตามินอี อะซีเตท ถูกเผาเป็นควันแล้วสูดเข้าไปในปอด สามารถก่อให้เกิดปัญหาได้ เจ้าหน้าที่ซีดีซีผู้หนึ่งอธิบายว่า อนุภาคของน้ำมันวิตามินอีจะเข้าไปเคลือบพื้นผิวของปอดเหมือนเคลือบด้วยน้ำผึ้ง และจะคงสภาพอยู่เช่นนั้น ส่งผลให้การแลกเปลี่ยนถ่ายเทออกซิเจนผิดไปจากปกติ ก่อให้เกิดอาการหายใจลำบาก นานเข้าก็จะเกิดอาการอักเสบในปอด เหมือนอาการของปอดที่ได้รับเชื้อโรคจนเกิดอักเสบ ซึ่งเป็นอาการทั่วไปของผู้ที่ล้มป่วยจากการสูบบุหรี่ไฟฟ้า

Advertisement

แม้จะมีหลักฐานบ่งชี้ชัดเจน แต่ทางซีดีซียังไม่เชื่อว่าผู้ที่ป่วยเป็นโรคปอดจากการสูบบุหรี่ไฟฟ้านั้น ป่วยด้วยสาเหตุดังกล่าวเพียงอย่างเดียว โดยเชื่อว่าโรคนี้อาจมีสาเหตุผสมจากต้นเหตุหลายประการ โดยอาจมีส่วนผสมอย่างอื่นที่ก่อพิษได้อีกด้วย ดังนั้น จึงจะยังคงตรวจวิเคราะห์ส่วนประกอบของน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าทั้งหมดต่อไป

ข้อมูลของซีดีซียังแสดงให้เห็นด้วยว่า ผู้ป่วยเกือบทั้ง 29 คน ที่ถูกสุ่มมาเป็นตัวอย่างในครั้งนี้รายงานต่อผู้สืบสวนโรคว่า เคยสูบบุหรี่ไฟฟ้าที่ใช้น้ำยาซึ่งมีส่วนผสมของกัญชาที่มีทีเอชซี เป็นสารออกฤทธิ์

ในวันเดียวกันนั้น ซีดีซียังได้เผยแพร่รายงานอีกชิ้น ที่เป็นผลจากการสำรวจผู้ป่วยของสำนักงานสาธารณสุขแห่งรัฐอิลลินอยส์ ที่พบว่าส่วนใหญ่ของผู้ป่วยยอมรับว่า ได้รับหลอดบรรจุน้ำยาสำเร็จรูปสำหรับใช้กับบุหรี่ไฟฟ้าจากเพื่อน หรือซื้อเอาตามท้องถนนทั่วไป โดยไม่ได้เป็นการซื้อจากร้านค้าอย่างเป็นทางการและมีเครื่องหมายการค้าชัดเจน

Advertisement

แพทย์หญิง เจนนิเฟอร์ เลย์เดน หัวหน้าสำนักงานการแพทย์อิลลินอยส์ ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า การสำรวจดังกล่าวทำในกลุ่มผู้สูบบุหรี่ไฟฟ้าจำนวนมากกว่า 4,000 ราย แยกออกเป็นผู้สูบแล้วป่วย กับผู้ที่สูบแต่ยังคงมีสุขภาพปกติ พบว่า 94 เปอร์เซ็นต์ ของผู้ที่สูบบุหรี่ไฟฟ้าแล้วยังมีสุขภาพปกตินั้น ระบุชัดเจนว่าสูบแต่ชนิดที่ผสมนิโคตินเพียงอย่างเดียว ในขณะที่ในกลุ่มผู้ที่ล้มป่วยส่วนใหญ่จะมีแนวโน้มสูบบุหรี่ไฟฟ้าที่ใช้น้ำยาผสมกัญชา และมีผู้ที่ได้รับหลอดน้ำยาจากแหล่งอย่างไม่เป็นทางการมากกว่าแหล่งทั่วไปถึง 9 เท่า

ในรายงานชิ้นดังกล่าวสรุปผลเอาไว้ด้วยว่า ในกลุ่มผู้ที่ล้มป่วยจากการสูบบุหรี่ไฟฟ้ามีสัดส่วนผู้ที่ใช้อุปกรณ์และน้ำยาสำเร็จรูปเลียนแบบที่ผลิตโดยโรงงานเถื่อนวางจำหน่ายผ่านเครือขายในตลาดมืดซึ่งมักเรียกกันว่า แดงค์เวป สูงกว่าผู้ที่ใช้อุปกรณ์มาตรฐานถึง 8 เท่าอีกด้วย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image