ในโลกที่มีแนวโน้มว่าอุปกรณ์กว่า 4 หมื่นล้านเครื่องจะสร้างข้อมูลเกือบ 80 เซตตะไบต์ (ZB) ภายในปี 2025 องค์กรและอุตสาหกรรมต่างๆ จำเป็นต้องนำเทคโนโลยีใหม่มาใช้อย่างรวดเร็วและเสริมสร้างขีดความสามารถทางเทคโนโลยี เพื่อรับประกันความสำเร็จในอนาคตที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม คลาวด์ และปัญญาประดิษฐ์
ไมโครซอฟท์ต้องการสร้างประสบการณ์ทางเทคโนโลยีที่ครอบคลุมและสมจริงให้แก่
ผู้ประกอบธุรกิจในเอเชียแปซิฟิก เพื่อช่วยให้เห็นภาพ เรียนรู้ และสามารถใช้นวัตกรรมรองรับการเปลี่ยนผ่านทางดิจิทัลและวัฒนธรรม ด้วยเหตุนี้ ไมโครซอฟท์จึงเปิดตัว “ดิ เอ็กซ์พีเรียนซ์ เซ็นเตอร์ เอเชีย” (The Experience Center Asia) ภายในสำนักงานใหญ่ระดับภูมิภาคแห่งใหม่ของบริษัท ซึ่งอยู่ในอาคารเฟรเซอร์ส ทาวเวอร์ ประเทศสิงคโปร์ โดยมีการรวบรวมเทคโนโลยีและพาร์ตเนอร์เพื่อมอบพลังให้กับทุกองค์กรในทุกอุตสาหกรรมในการเปลี่ยนผ่านไปสู่ยุคดิจิทัล ปฏิรูปองค์กร สร้างสรรค์นวัตกรรม และพลิกโฉมธุรกิจ
แอนเดรีย เดลลา แมทเทีย ประธานไมโครซอฟท์ เอเชียแปซิฟิก กล่าวว่า “เราเชื่อว่าทุกบริษัทจะกลายเป็นบริษัทซอฟต์แวร์ เนื่องจากการเปลี่ยนผ่านไปสู่ยุคดิจิทัลและความเข้มข้นทางเทคโนโลยีกลายเป็นสิ่งที่แพร่หลายในทุกองค์กร The Experience Center Asia จะเปิดทางให้ธุรกิจในเอเชียแปซิฟิกได้เรียนรู้เกี่ยวกับความจำเป็นเร่งด่วนของการพลิกโฉมธุรกิจและแสวงหาโซลูชันอุตสาหกรรมที่สร้างความเป็นไปได้ทั้งในปัจจุบันและอนาคต ผ่านการจับมือเป็นพันธมิตรกับไมโครซอฟท์”
“สำนักงานใหญ่ระดับภูมิภาคแห่งใหม่ของของเราคือ สถานที่ทำงานแห่งอนาคต เราทำให้องค์กรต่างๆ ในภูมิภาคได้เห็นรูปแบบการทำงานแห่งอนาคต บนพื้นฐานของคลาวด์คอมพิวติง การวิเคราะห์ข้อมูล ปัญญาประดิษฐ์ และวัฒนธรรมการเปลี่ยนแปลง ดิฉันรู้สึกยินดีที่ได้มาทำงาน เพื่อนร่วมงานก็ช่วยสนับสนุนภารกิจในทุกๆ วันด้วยการสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัย ความเป็นอยู่ที่ดี ความยั่งยืน ความเป็นมิตร และการเข้าถึงสำหรับทุกคน”
สำหรับส่วนต่างๆ ของ The Experience Center Asia ประกอบด้วย
-The Experience Zone มีการสาธิตเทคโนโลยีและตัวอย่างการใช้งานในอุตสาหกรรมต่างๆ โดยทีมผู้เชี่ยวชาญจะพาลูกค้าไปสัมผัสกับโซลูชันเทคโนโลยีที่จะเป็นประโยชน์ต่อธุรกิจ และช่วยให้ลูกค้ามองเห็นความเป็นไปได้ในอนาคต
– The Microsoft Technology Center (MTC) นำเสนอความเชี่ยวชาญทางเทคโนโลยีที่ช่วยในการตัดสินใจ โดยนำทรัพยากรที่เหมาะสมมาช่วยให้ลูกค้าสามารถขยายขนาดดีลและปิดดีลได้เร็วขึ้น ขณะเดียวกันก็เพิ่มความพึงพอใจให้แก่ลูกค้า
– The Cybersecurity Center แสดงผลวิเคราะห์ภัยคุกคามทางไซเบอร์อย่างชาญฉลาด สร้างการรับรู้เกี่ยวกับภัยคุกคามจากอาชญากรรมทางไซเบอร์ที่เพิ่มขึ้น รวมถึงเพิ่มความเข้าใจเกี่ยวกับแพลตฟอร์มดิจิทัลและคลาวด์คอมพิวติงที่เชื่อถือได้
– The Innovation Factory นำเสนอแนวคิดและไอเดียเกี่ยวกับแฮกกาธอน รีเบกกา ฮิก ผู้อำนวยการ ไมโครซอฟท์ เอ็กซ์พีเรียนซ์ เซ็นเตอร์ เอเชีย กล่าวว่า “สิงคโปร์เป็นที่ตั้งสำนักงานใหญ่ระดับภูมิภาคของบริษัทข้ามชาติจำนวนมาก ที่นี่มีระบบนิเวศสำหรับผู้ประกอบการที่ทรงพลัง และเป็นปลายทางความร่วมมือระหว่างประเทศสำหรับบรรดาผู้เชี่ยวชาญชั้นนำและหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ เราเปิด Experience Center แห่งแรกของโลกที่สิงคโปร์เพื่อเปิดโอกาสให้องค์กรต่างๆ เข้าถึงนวัตกรรมและประสบการณ์จากผู้นำและเทคโนโลยีของเรา ไมโครซอฟท์เป็นผู้นำด้านการนำเสนอประสบการณ์ให้แก่ลูกค้าเสมอมา ลูกค้าจำนวนมากเคยไปเยี่ยมเยือน Executive Briefing Center ในซีแอตเทิลมาแล้ว และมองหาประสบการณ์ที่ใกล้เคียงกันเพราะต้องการสร้างมูลค่าของธุรกิจให้เร็วขึ้น”
เอเชียแปซิฟิกเป็นหนึ่งในภูมิภาคที่เติบโตเร็วที่สุดของไมโครซอฟท์ และมีความสำคัญเป็นลำดับต้นๆ เพราะมอบโอกาสมหาศาลในการพลิกโฉมประเทศ อุตสาหกรรม และชุมชนต่างๆ ไปสู่ระบบดิจิทัล ไมโครซอฟท์เป็นแม่แบบให้กับองค์กรต่างๆ ในการนำวัฒนธรรม พื้นที่ และเทคโนโลยีมาใช้สร้างสรรค์สถานที่ทำงานแห่งอนาคต
สำนักงานแห่งใหม่ของไมโครซอฟท์มี 6 ชั้น ครอบคลุมพื้นที่ 12,500 ตารางเมตร โดยเป็นที่ทำงานของพนักงาน 1,400 คน ท่ามกลางสภาพแวดล้อมที่เชื่อมโลกดิจิทัลและโลกแห่งความเป็นจริงอย่างกลมกลืน ภายในสำนักงานมีกล้องสแกนใบหน้าระบบปัญญาประดิษฐ์ หรือเอไอ ที่ช่วยรักษาความปลอดภัยและให้พนักงานขึ้นลงทั้ง 6 ชั้นได้อย่างสะดวกสบาย นอกจากนั้น ยังมีตู้ล็อกเกอร์อัจฉริยะและตู้จ่ายสินค้าอัตโนมัติที่ช่วยเติมเต็มบริการด้านไอทีของบริษัท เมื่อพนักงานต้องการเปลี่ยนอุปกรณ์อย่างคีย์บอร์ด เมาส์ หูฟัง สายไฟ ฯลฯ ก็สามารถใช้บริการตู้จ่ายสินค้าอัตโนมัติได้ โดยบัตรพนักงานจะบันทึกรายการสินค้า ซึ่งมอบความสะดวกสบายในการติดตามสินค้า
พนักงานและเจ้าหน้าที่ของไมโครซอฟท์ใช้แอพพลิเคชั่น Smart Building CampusLink ที่ทำงานร่วมกับ Microsoft Outlook และ Microsoft Office 365 เพื่อช่วยนำทาง ดูข้อมูลห้องว่าง และจองห้องแบบเรียลไทม์ สำนักงานใหญ่ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกของไมโครซอฟท์ใช้ Azure App Services, Azure Data Lake และ Office 365 Graph API และเป็นสำนักงานแห่งแรกนอกเหนือจากสำนักงานในเรดมอนด์ รัฐวอชิงตัน ที่ใช้ Smart Building CampusLink
ไมโครซอฟท์ยังได้บริจาคเฟอร์นิเจอร์ พรม รวมถึงอุปกรณ์ภาพและเสียงจากสำนักงานเก่าให้แก่ Base of Pyramid Hub (BoP Hub) องค์กรไม่แสวงผลกำไรในสิงคโปร์ที่ก่อตั้งโดย แจ็ก ซิม ซึ่งมีเป้าหมายในการส่งเสริมธุรกิจในระดับรากหญ้า เพื่อทลายวงจรความยากจนด้วยการสร้างผู้ประกอบการ เชื่อมโยงหุ้นส่วนที่เกี่ยวข้อง รวมถึงให้คำปรึกษาและจัดหาทรัพยากรที่จำเป็น นอกจากนั้น ยังเป็นประตูที่เปิดโอกาสให้ธุรกิจร่วมทุน นักเทคโนโลยี และผู้ผลิตได้เข้าถึงตลาดในภูมิภาค และทำหน้าที่เป็นโคเวิร์กกิ้งสเปซด้วย