ผู้สื่อข่าวรายงานเมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน ว่า บริษัททีโอที จำกัด มหาชน ได้นำทีมผู้บริหารนำโดยน.อ. สมศักดิ์ ขาวสุวรรณ์ ประธานกรรมการบริษัททีโอที และ นางพิมพ์วิมล วงษ์สุวรรณ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ และคณะ พร้อมด้วยผู้สื่อข่าว จากประเทศไทย เข้าเยี่ยมชมศูนย์วิจัยและพัฒนาของบริษัทเอ็นทีที โดโคโม บริษัทผู้ให้บริการการสื่อสารยักษ์ใหญ่ของประเทศญี่ปุ่น ที่เมืองโยโกสึกะ ประเทศญี่ปุ่น เพื่อศึกษาเรียนรู้การเตรียมความพร้อมในการให้บริการโครงข่าย 5G โดยเฉพาะอย่างยิ่งในมหกรรมกีฬาโอลิมปิก ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ในปี 2020 ที่กำลังจะมาถึง
โดยดร.มาซาจิ คาตากิริ ผู้จัดการอาวุโส แผนกบริการข้อมูลศูนย์วิจัยและพัฒนา เอ็นทีที โดโคโม ระบุว่า ศูนย์วิจัยและพัฒนาโดโคโม ตั้งขึ้นในปีค.ศ.1997 ในนิคมที่มีศูนย์วิจัยและพัฒนาอยู่ถึง 56 องค์กร มีเจ้าหน้าที่ทำงานในพื้นที่ดังกล่าวถึง 4,500 คน โดยในส่วนศูนย์วิจัยโดโคโม มีเจ้าหน้าที่จำนวนถึง 2,400 คนหรือนับเป็นครึ่งหนึ่งของนิคมดังกล่าว โดยนอกจากในญี่ปุ่นแล้ว โดโคโม ยังมีศูนย์วิจัยและพัฒนาอยู่ใน 3 เมืองใหญ่ทั่วโลกไม่ว่าจะเป็นกรุงปักกิ่ง นครมิวนิค รวมไปถึงรัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา
ดร.คาตากิริ ระบุว่าบทบาทของศูนย์วิจัยและพัฒนาคือการวิจัยและพัฒนาระบบซึ่งพัฒนามาจาก เอ็นทีที ในอดีตให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น รวมไปถึงพัฒนาระบบใหม่ๆที่ครอบคลุมในเรื่องของการสื่อสาร การขนส่ง และเทคโนโลยี และเวลานี้ก็เน้นไปที่การพัฒนาระบบโครงข่าย 5G โดยเฉพาะ
ผู้จัดการอาวุโสศูนย์วิจัยและพัฒนาโดโคโม ระบุว่า ระบบ 5G ปัจจุบันยังไม่ได้มีการให้บริการในเชิงพาณิชย์ แต่เตรียมที่จะมีการใช้จริงและประมูลกันในปีหน้า อย่างไรก็ตามระบบ 5G ของโดโคโมได้มีการนำมาทดลองใช้จริงแล้วกับการแข่งขันรักบี้เวิล์ดคัพที่ญี่ปุ่นเป็นเจ้าภาพ และจะมีการนำโครงข่าย 5 จีไปใช้ในมหกรรมกีฬาโอลิมปิกต่อไป
เจ้าหน้าที่บริษัท โดโคโม ได้นำคณะเยี่ยมชมส่วนจัดแสดงเทคโนโลยีที่บริษัทโดโคโมที่มีการนำออกใช้ และอยู่ระหว่างการพัฒนาร่วมกับระบบโครงข่าย 5G ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์ ไบโอชิฟ โมบาย โฟน สมาร์ทโฟนที่ผสานเข้ากับเทคโนโลยีเซ็นเซอร์วิเคราะห์แก๊สจากผิวหนังที่สามารถวัดระดับน้ำตาลในเลือด คอเลสเตอรอล ความเหนื่อยล้า และให้คำแนะนำทางการแพทย์ รวมไปถึงอาหารและการออกกำลังกายได้
นอกจากนี้ยังนำคณะชมสาธิตการส่งสัญญาณสื่อสารความมถี่สูงในระบบ 5G ที่เรียกว่า Massive MIMO เสาส่งสัญญาณความถี่สูงที่สามารถส่งข้อมูลไปยังอุปกรณ์สื่อสารของผู้ใช้บริการจำนวนมากอย่างเช่นในสนามกีฬาได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ
รวมไปถึงการโชว์เทคโนโลยีการถ่ายทอดสดผ่านเครื่อข่าย 5G ที่การส่งข้อมูลจำนวนมากในเวลาอันรวดเร็วทำให้สามารถวิเคราะห์ภาพสดๆในการแข่งขันฟุตบอลเจลีก ประมวลผลออกมาเป็นภาพ 3 มิติแบบเออาร์ได้สดๆ พร้อมรับข้อมูลการแข่งขันแบบเรียลไทม์ได้อีกด้วย
เจ้าหน้าที่โดโคโม ยังนำชมเทคโนโลยีอื่นๆไม่ว่าจะเป็น “สเฟียริคอล โดรน ดิสเพลย์” โดรนที่มีการแสดงผลภาพเป็นทรงกลม “ฮาราล กูร์เมต์แอพพ์” แอพพลิเคชั่นที่ใช้เอไอวิเคราะห์ข้อมูลและเลือกซื้ออาหารสำหรับชาวมุสลิมที่ไม่สามารถอ่านภาษาญี่ปุ่นได้ รวมไปถึงอุปกรณ์ในชีวิตประจำวันที่เชื่อมต่อกับโลกออนไลน์ หรือ ไอโอที ด้วยเช่นเซ็นเซอร์ช่วยตากผ้า เซ็นเซอร์เช็คชื่อสำหรับเด็กนักเรียน เซ็นเซอร์ด้านความปลอดภัยในรถยนต์ ฯลฯ เป็นต้น
ด้านนายสมศักดิ์ ขาวสุวรรณ์ ประธานกรรมการบริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในนามของบริษัท ทีโอที ขอขอบคุณบริษัทโดโคโม ที่ให้การต้อนรับคณะดูงานและให้ความรู้อย่างครบถ้วน ซึ่งจากการให้ข้อมูลของเจ้าหน้าที่ถือว่าเป็นประโยชน์อย่างมากและหวังว่าข้อมูลที่ได้รับในครั้งนี้ จะนำไปใช้ประโยชน์ในการพัฒนาสิ่งต่างๆที่ประเทศไทยกำลังดำเนินการในเรื่องของการพัฒนาเทคโนโลยีด้านการสื่อสาร ทั้งนี้ มีหลายสิ่งหลายอย่างน่าจะมีความร่วมมือของทั้งสองประเทศ จากการรับฟังข้อมูลเห็นว่า ทีโอทีเดินมาถูกทางแล้ว สามารถพัฒนาดูแลประชาชนได้อย่างดีไม่ได้ล้าหลังอย่างที่คิด
