รู้จักเทคโนโลยี ‘คอนเทนเนอร์’ จาก สุภัค ลายเลิศ

สุภัค ลายเลิศ

นายสุภัค ลายเลิศ กรรมการอำนวยการและประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ บริษัท ยิบอินซอย จำกัด ได้เปิดเผยเกี่ยวกับเทคโนโลยี “คอนเทนเนอร์” ว่า เชื่อว่าองค์กรธุรกิจหลายแห่งในขณะนี้ต่างต้องการเครื่องมือที่จะมาช่วยในการพัฒนาซอฟต์แวร์ให้มีขนาดกะทัดรัด ใช้ทรัพยากรน้อยๆ แต่มีประสิทธิภาพการทำงานสูง สามารถปรับเปลี่ยนย่อ-ขยายซอฟต์แวร์ได้ตามลักษณะของงาน รวมถึงขนย้ายไปติดตั้งใช้งานในสภาพแวดล้อมต่างๆ ได้ง่ายดายและรวดเร็ว โดยเฉพาะสภาพแวดล้อมคลาวด์ที่กำลังใช้งานกันอย่างแพร่หลายในขณะนี้

เครื่องมือหนึ่งที่อยากแนะนำให้รู้จักก็คือ เทคโนโลยีคอนเทนเนอร์ (Container) ซึ่งคุณลักษณะการทำงานจะเปรียบเสมือนตู้รวบรวมสิ่งจำเป็นสำหรับการทำงานของซอฟต์แวร์ ซึ่งประกอบด้วยแอพพลิเคชั่นหนึ่งตัวหรือมากกว่านั้น กลุ่มไฟล์สนับสนุนต่างๆ (Dependencies) เช่น ไฟล์ข้อมูลไลบรารี (Library) ไฟล์แบบไบนารี (Binary) ไฟล์สกุล config ซึ่งเป็นกลุ่มไฟล์เกี่ยวกับการเขียนโปรแกรม ไฟล์เกี่ยวกับการจัดการระบบ (System Tools) รวมถึงจัดเตรียมพื้นที่ใช้รันโปรแกรมการทำงาน (Runtime) และจัดเก็บฐานข้อมูลเฉพาะซอฟต์แวร์นั้นๆ

โดยมีผู้ช่วยคนสำคัญ ชื่อว่า คูเบอร์เนเตส (Kubernetes) มาทำหน้าที่ควบคุมการทำงานของคอนเทนเนอร์ ซึ่งกระจายไปตามกลุ่มก้อนการทำงานของระบบคอมพิวเตอร์ต่างๆ (Cluster) ในองค์กรให้อยู่ในจุดที่ถูกต้องเหมาะสม สามารถทำงานเป็นอิสระ และไม่รบกวนซึ่งกันและกัน

แล้วเทคโนโลยีคอนเทนเนอร์จะช่วยองค์กรธุรกิจได้อย่างไรบ้าง?

Advertisement

มองจากมุมของการพัฒนาซอฟต์แวร์ เทคโนโลยีคอนเทนเนอร์ได้ช่วยส่งเสริมการทำงานร่วมกันระหว่างทีมนักพัฒนาโปรแกรม และทีมผู้ปฏิบัติ (DevOps) ให้เกิดความสะดวกมากขึ้น ตั้งแต่ขั้นตอนการเขียนโค้ดโปรแกรม การเข้าสู่การทดสอบปรับแต่งให้ออกมาเป็นซอฟต์แวร์สำเร็จ และนำไปติดตั้งใช้งานในสภาพแวดล้อมต่างๆ ชนิดยกกันไปทั้งคอนเทนเนอร์โดยไม่ต้องกังวลถึงการตกหล่นของโค้ดโปรแกรม ไฟล์สนับสนุน หรือฐานข้อมูลใดที่ใช้สำหรับการทำงานของซอฟต์แวร์นั้นๆ เช่น เราสามารถพัฒนาและขนย้ายซอฟต์แวร์ในรูปแบบคอนเทนเนอร์ที่พัฒนาบนเครื่องเดสก์ท็อปของเราขึ้นไปอยู่บนอเมซอนเว็บเซอร์วิส กูเกิลคลาวด์ หรือไมโครซอฟท์ อาซัวร์ ให้พร้อมใช้งานได้โดยไม่ต้องปรับแต่งโค้ด หรือตั้งค่าติดตั้งใดๆ เพิ่มเติม หรือปรับแต่งแค่เพียงเล็กน้อย ซึ่งทำให้การติดตั้งยิ่งง่าย รวดเร็ว และเกิดข้อผิดพลาดน้อย

นอกจากนี้ คอนเทนเนอร์ยังเหมาะสำหรับองค์กรที่ต้องการพัฒนาซอฟต์แวร์ในรูปแบบ ไมโครเซอร์วิส (Microservices) ซึ่งเป็นการออกแบบโปรแกรมโดยแบ่งแอพพลิเคชั่นแยกส่วนเป็นชิ้นเล็กๆ แล้วทำการพัฒนาหรือจัดการแต่ละชิ้น ซึ่งเราจะเห็นว่าคอนเทนเนอร์ได้จัดสภาพแวดล้อมและทรัพยากรที่เหมาะสมไว้ให้แล้วในขั้นตอนของการพัฒนา มีความสะดวกในขั้นตอนการส่งต่อเพื่อนำไปใช้งาน และยังสามารถลด-ขยายเฉพาะส่วนที่ต้องการใช้งานตามความจำเป็น หรือตามปริมาณงานที่เกิดขึ้น ซึ่งช่วยให้องค์กรสามารถคุมงบประมาณด้านไอทีได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

หากมองจากมุมของธุรกิจผ่านกระแสการเติบโตของคลาวด์ เราจะเห็นว่า หลายองค์กรพยายามเปลี่ยนผ่านการดำเนินธุรกิจเพื่อมุ่งสู่เทคโนโลยีคลาวด์ ซึ่งคอนเทนเนอร์จะมีส่วนช่วยองค์กรในการปรับแต่ง หรือย่อส่วนซอฟต์แวร์บางตัวที่มีขนาดใหญ่ และเดิมใช้เฉพาะภายในองค์กร ไปเป็นซอฟต์แวร์ที่มีขนาดกะทัดรัดและทันสมัย โดยใช้ทรัพยากรในการทำงานน้อย และสามารถปรับเปลี่ยนขึ้นไปสู่การทำงานบนคลาวด์ หรือจะเป็นการขยับขยายการทำงานจากคลาวด์ในองค์กรไปอยู่บนคลาวด์สาธารณะ หรือคลาวด์แบบไฮบริดภายในระยะเวลาอันรวดเร็ว รวมถึงการพัฒนาแอพพลิเคชั่น หรือแพลตฟอร์มการให้บริการทางธุรกิจ หรือรุกคืบสู่ตลาดการแข่งขันใหม่ๆ โดยลดความยุ่งยากในขั้นตอนการพัฒนาและการติดตั้ง และยังทำให้องค์กรประหยัดเวลา ประหยัดค่าใช้จ่าย รวมถึงสามารถประเมินความคุ้มค่าของการพัฒนาซอฟต์แวร์ในโครงการหรือกิจกรรมต่างๆ ภายหลังใช้งานได้ในเวลาไม่นาน

Advertisement

ปัจจุบัน องค์กรธุรกิจนิยมนำเทคโนโลยีคอนเทนเนอร์ไปใช้เป็นฐานในการพัฒนาและติดตั้งซอฟต์แวร์ แอพพลิเคชั่น หรือแพลตฟอร์มในหลายรูปแบบมากขึ้น เช่น การพัฒนาด้านปัญญาประดิษฐ์ แมชชีนเลิร์นนิ่ง บิ๊ก ดาต้า การวิเคราะห์ข้อมูล ไอโอที เอดจ์ คอมพิวติ้ง รวมถึงใช้ปรับปรุงแอพพลิเคชั่นเดิมให้ทันสมัยขึ้น สนับสนุนกระบวนการทำงานระหว่างขั้นของการเขียนโค้ดโปรแกรมและแปลงเป็นซอฟต์แวร์สำเร็จ รวมถึงการทำงานร่วมกับไฮบริดคลาวด์ หรือมัลติคลาวด์

รายงานของการ์ทเนอร์เองได้ย้ำตัวเลขการใช้เทคโนโลยีคอนเทนเนอร์ และคูเบอร์เนเตส สำหรับพัฒนาแอพพลิเคชั่นบนคลาวด์ที่เพิ่มขึ้น รวมถึงความต้องการขององค์กรทั่วโลกต่อการใช้แอพพลิเคชั่นในแบบคอนเทนเนอร์ที่ก้าวกระโดดจากตัวเลขน้อยกว่า 30% ในตอนนี้ ไปเป็นมากกว่า 75% ในปี 2565 เช่นเดียวกับปริมาณการใช้งานแอพพลิเคชั่นในแบบคอนเทนเนอร์บนสภาพแวดล้อมการทำงานแบบไฮบริด กำลังกระโดดจากตัวเลขที่น้อยกว่า 20% ในตอนนี้ ไปเป็นมากกว่า 50% ในปี 2565 เช่นกัน ส่วนไอดีซีชี้ว่า เทคโนโลยีคอนเทนเนอร์จะเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยปริมาณการใช้งานจะเพิ่มจาก 723 ล้านคอนเทนเนอร์ในปีนี้ ไปเป็นมากกว่า 1.8 พันล้านคอนเทนเนอร์ในปี 2564

ขณะที่บริษัทชั้นนำด้านไอทีหลายแห่งก็มีแนวโน้มที่จะนำเสนอแพลตฟอร์มด้านคอนเทนเนอร์มากขึ้น เห็นได้จากกูเกิลได้ออกมาเสนอบริการด้านคอนเทนเนอร์ หรือ Containers as a Service (CaaS) เพื่อช่วยให้องค์กรส่งต่อซอฟต์แวร์ในรูปแบบคอนเทนเนอร์ผ่านการใช้งานบนคลาวด์สาธารณะ หรือบริษัทซอฟต์แวร์อย่างไมโครซอฟท์ ได้เปิดตัวบริการไมโครซอฟท์ อาซัวร์ คูเบอร์เนเตส (Azure Kubernetes Services-AKS) ซึ่งช่วยเพิ่มขีดความสามารถให้กับคูเบอร์เนเตสในการทำงานร่วมกับคลัสเตอร์ต่างๆ ในระบบ

ส่วนบริษัทผู้พัฒนาฮาร์ดแวร์ เช่น ฮิวเลตต์-แพคการ์ด ได้ออกแบบแพลตฟอร์ม เอชพีอี คอนเทนเนอร์ (HPE Container Platform) เพื่อมารองรับการพัฒนา และการติดตั้งใช้งานซอฟต์แวร์ด้วยเทคโนโลยีคอนเทนเนอร์โดยเฉพาะ เสริมด้วยศักยภาพของเทคโนโลยี บลู ดาต้า (Blue Data) ซึ่งเป็นคอนเทนเนอร์สำหรับการจัดการด้านปัญญาประดิษฐ์ แมชชีนเลิร์นนิ่ง และบิ๊ก ดาต้าขนาดใหญ่ คู่กับแมปอาร์ (MapR) เทคโนโลยีสำหรับการจัดการบิ๊ก ดาต้า เพื่อให้การทำงานของแพลตฟอร์มด้านคอนเทนเนอร์มีประสิทธิภาพสูง และสามารถบริหารจัดการง่าย หรือเอชพีอี แมชชีน เลิร์นนิ่ง ออปส์ (HPE Machine Learning Ops) ซึ่งจะมาช่วยองค์กรในการสร้างซอฟต์แวร์โซลูชั่นซึ่งใช้เทคโนโลยีคอนเทนเนอร์เป็นฐาน โดยใช้เวลาในการพัฒนาและติดตั้งใช้งานที่ลดลงจากเดือนเหลือเป็นวัน เพื่อมาสนับสนุนมาตรฐานการทำงานของแมชชีนเลิร์นนิ่ง และเป็นตัวเร่งให้เกิดการใช้งานปัญญาประดิษฐ์ที่เหมาะสมกับสถาปัตยกรรมด้านไอทีที่มีความหลากหลาย ทั้งกับคลาวด์ในองค์กร คลาวด์สาธารณะ หรือไฮบริดคลาวด์ โดยที่ยังมีความปลอดภัยสูง เป็นต้น

สำหรับองค์กรที่เคยขัดใจกับการพัฒนาหรือติดตั้งใช้งานซอฟต์แวร์ที่ยุ่งยากและยืดยาว เทคโนโลยีคอนเทนเนอร์จึงนับเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่นอกจากจะมาช่วยคลี่คลายปมปัญหาเดิมแล้ว ยังเป็นโอกาสที่องค์กรจะได้ปรับปรุงรูปแบบการทำงานของซอฟต์แวร์ แอพพลิเคชั่น หรือแพลตฟอร์มให้กระชับ ฉับไว คล่องตัวสูงในการตอบสนองต่อเป้าหมายการดำเนินธุรกิจ และพร้อมเปลี่ยนผ่านตัวเองเพื่อสนองตอบการทำงานในโลกของคลาวด์ และความหลากหลายทางเทคโนโลยีที่จะเกิดขึ้นใหม่ในอนาคต

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image