‘เฟซบุ๊ก’ เปิดฟีเจอร์ ‘ช็อปส์’ ลุยอีคอมเมิร์ซ ให้ใช้โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ

Photo by Alastair Pike / AFP

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม นายมาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) และผู้ก่อตั้ง เฟซบุ๊ก อิงค์ เจ้าของ เฟซบุ๊ก แพลตฟอร์มออนไลน์ยอดนิยมของโลก ประกาศเปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ “ช็อปส์” เพื่อเปิดให้ผู้ใช้เฟซบุ๊กสามารถแสดงลักษณะและขายสินค้าต่างๆ ได้โดยตรงในเว็บไซต์เครือข่ายสังคมออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกนี้ได้ รวมเอาคุณสมบัติทั้งหมดในไอจีและวอทส์แอพพ์เข้าไว้ด้วยกัน ให้ทำพาณิชยกรรมอิเล็กทรอนิกส์ หรือ อีคอมเมิร์ซได้โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ

ความเคลื่อนไหวล่าสุดของเฟซบุ๊ก เป็นการดำเนินงานต่อเนื่องจากการเปิดตัวหลายฟีเจอร์สำหรับใช้การทำการค้าออนไลน์ผ่าน อินสตาแกรม และ วอทส์แอพพ์ ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้งานแอพพ์สามารถซื้อขายสินค้าได้แบบจำกัด โดยเดิมพันว่าวิธีนี้จะช่วยให้แพลตฟอร์มเฟซบุ๊กเอื้อต่อการทำธุรกิจในโลกออนไลน์มากยิ่งขึ้น ช่วยให้เกิดรายได้จากการโฆษณามากขึ้น แม้จะส่งผลให้จำนวนยูสเซอร์หรือผู้ใช้งานขยายตัวช้าลงก็ตาม

เฟซบุ๊ก “ช็อปส์” จะรวมเอาหลายอย่างที่เคยเริ่มต้นไว้ในที่ต่างกันเข้าไว้ด้วยกัน ช่วยให้ผู้ทำธุรกิจสามารถจัดทำร้านค้าออนไลน์เพียงจุดเดียวได้โดยอาจเลือกใช้ได้ทั้งบนแฟนเพจของเฟซบุ๊กหรือบนอินสตาแกรม อาทิ เช็กเอาต์ ซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่ช่วยให้สามารถซื้อสินค้าในแอพพ์ได้ หรือ ฟีเจอร์ในแอพพ์แมสเสจจิงที่ช่วยให้ผู้ซื้อและผู้ขายสามารถพูดคุยกันได้ผ่าน วอทส์แอพพ์, แมสเซนเจอร์ หรือ อินสตาแกรมไดเรคท์ เป็นต้น

ซัคเคอร์เบิร์กกล่าวในการแถลงผ่านระบบไลฟ์สตรีมว่า เฟซบุ๊กเตรียมร่วมงานอย่างใกล้ชิดมากยิ่งขึ้นเพื่อบูรณาการสินค้าต่างๆ ร่วมกับ “ช็อปปิฟาย” และ แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซอื่นๆ อีก 7 ราย ในการพัฒนา “ช็อปส์” ให้ก้าวไปข้างหน้า โดยมี โทเบียส ลุทเก ซีอีโอของช็อปปิฟาย ร่วมอยู่ในวิดีโอไลฟ์สตรีมเพื่อประกาศความเป็นหุ้นส่วนกันในครั้งนี้ด้วย

Advertisement

ทั้งนี้แม้ว่า ช็อปส์ จะเป็นฟีเจอร์เพื่ออีคอมเมิร์ซ แต่ก็เหมือนกับฟีเจอร์อีคอมเมิร์ซอื่นๆ ที่เฟซบุ๊กเคยจัดทำขึ้นก่อนหน้านี้คือยังคงเปิดให้ใช้งานได้โดยไม่คิดมูลค่า โดยหวังว่าการเปิดให้ใช้ฟรีนี้จะช่วยให้ผู้ใช้งานเข้ามาใช้งานซื้อขายกันมากขึ้น ทำให้ขายโฆษณาได้มากขึ้นกว่าเดิม

“แทนที่เราจะเรียกเก็บค่าธรรมเนียมต่อธุรกิจต่างๆ ที่เข้ามาเปิดร้านในช็อป เรารู็ว่าช็อปส์มีคุณค่าต่อธรกิจทั้งหลาย ซึ่งโดยทั่วไปแล้วจะทำให้มีความพยายามโฆษณาเพิ่มมากขึ้น แล้วในที่สุดเราก็จะทำรายได้ด้วยวิธีนี้” ซัคเคอร์เบิร์กระบุ

นอกเหนือจากฟีเจอร์ช็อปส์แล้ว เฟซบุ๊กยังเพิ่มเครื่องมือเพื่อเชื่อมต่อเข้ากับโปรแกรมเรียกเก็บค่าลอยัลตีและฟีเจอร์สำหรับการแสดงแท็กของผลิตภัณฑ์ต่างๆ ด้านล่างไลฟ์วิดีโอ เพื่อให้ผู้ชมวิดีโอสามารถเลือกซื้อสินค้าต่างๆ ได้ระหว่างการรับชม โดยซัคเคอร์เบิร์กระบุว่า มีผู้ใช้งานไลฟ์วิดีโอต่อวันมากถึงกว่า 800 ล้านคน ทั้งที่ผ่านเฟซบุ๊กและอินสตาแกรม

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image