คอลัมน์ Taste Test : ไอโฟน 12 โปร แม็กซ์ สเปคสุดล้ำ กล้องขั้นเทพ
หลังผ่านการใช้งานไอโฟน 12 โปร แม็กซ์ ถือเป็นรุ่นท็อปสุดของไอโฟนซีรีส์ 12 มาได้ระยะหนึ่ง โดยหน้าจอจะใหญ่สุด คืออยู่ที่ 6.7 นิ้ว น้ำหนักเครื่องจะอยู่ที่ 228 กรัม ใช้หน่วยประมวลผล เป็น เอ14 ไบโอนิก แล้ว ซึ่งเอ14 ไบโอนิก ที่ถือว่าเป็นชิ้นส่วนสำคัญในการทำงานของเครื่อง ที่ช่วยทำให้เครื่องมีความเร็ว ประหยัดพลังงานมากขึ้น ช่วยยืดอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ให้ยาวนานขึ้น
มาถึงรูปร่างหน้าตา ก็ต้องบอกว่ามีการเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม หลังจากไม่เปลี่ยนมานาน ตอนนี้ตัวเครื่องกลับมามีความคมบริเวณขอบเครื่อง เรียกว่าคมจนมีรายงานข่าวออกมาเลยว่า ?บาด? นิ้วผู้ใช้งานบางคน หากแต่ถ้าลองลูบที่ขอบเครื่องดู ก็จะพบว่าไม่ได้คมอะไรขนาดนั้น ก็เลยไม่รู้ว่าที่ไปบาดนิ้วนั้น บาดได้อย่างไร
อีกส่วนที่ยังคงความน่ารักไว้ คือเรื่องของเลนส์กล้องด้านหลัง ที่มีมาให้ 3 ตัวด้วยกัน หน้าตาดูยังเหมือนกับชาไข่มุก
โดยกล้อง 3 ตัวด้านหลังเครื่องนี้ ก็มีดังนี้ คือ เลนส์หลัก 12 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.6, เลนส์ Telephoto 12 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2 และ เลนส์ Ultra Wide 12 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4
ซึ่งจากประสบการณ์ในการถ่ายภาพจากเครื่องนั้น ต้องบอกว่าให้ภาพที่คมชัดสวยงามมากกว่าไอโฟนรุ่นก่อนจริงๆ โดยหน้าจอกล้องจะมีปุ่มสำหรับซูมอิน ซูมเอาต์ได้ ที่หลายคนชื่นชอบ เพราะการเปิดเลนส์ Ultra Wide ช่วยทำให้ภาพได้มุมกว้างมากขึ้น ถ้าถ่ายวิว ก็ได้มุมกว้างขึ้น ถ้าถ่ายคน ก็จะมีขาที่ยาวมากขึ้น แต่ถ้ากะมุมไม่ถูก หน้าก็จะเบี้ยวไปด้วย เพราะฉะนั้น ถ้าจะใช้เลนส์นี้ จะต้องดูดีๆ ระวังความบิดเบี้ยวของภาพ
จุดเด่นอีกอย่าง น่าจะเป็นที่ LiDAR Scanner (Depth) ตัววัดระยะเวลาที่แสงใช้ในการสะท้อนกลับมาจากวัตถุ ที่เรียกได้ว่าเป็นกล้องตัวที่ 4 ของไอโฟน 12 โปร แม็กซ์ เลยก็ว่าได้ เพราะช่วยเก็บรายละเอียดของความลึกตื้น และการโฟกัสได้เร็วขึ้น แม้ในสภาพแสงน้อย รวมไปถึงการทำให้แอพพ์ AR สมจริงมากยิ่งขึ้น
สำหรับกล้องหน้า มีความละเอียดสูงสุดถึง 12 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2 และยังคงความสวยงามในการถ่ายอยู่
โดยรวมๆ ถือว่ากล้องของรุ่น 12 โปร แม็กซ์นี้ ดีขึ้นอย่างมาก ถ่ายธรรมดา ก็ให้ภาพที่สวย หรือในที่แสงมืด ก็ให้ความสวยงามคมชัดจริงๆ
มาถึงเรื่องของการใช้งานทั่วไป อย่างแรกคือ รองรับเทคโนโลยี 5จี แล้ว อีกอย่างคือ ความสามารถในการใช้งานในโหมด PiP คือเราสามารถย่อวิดีโอที่กำลังเล่นอยู่ แล้วเปิดแอพพ์อื่นๆ ขึ้นมาใช้งานได้ด้วยระหว่างดูวิดีโอที่จะปรากฏเป็นจอเล็ก
ที่โดดเด่นอีกอย่างหนึ่ง คือเรื่องของการชาร์จผ่าน แม็กเซฟ (MagSafe) คือจะมีอุปกรณ์สำหรับชาร์จไร้สาย ที่จะแปะเข้าไปก็จะตรงบริเวณที่ชาร์จด้านหลังของเครื่องไอโฟนทันที ไม่ต้องขยับไปมา หาจุดชาร์จเหมือนรุ่นอื่นๆ เพราะมีแม่เหล็กติดอยู่ที่ด้านหลัง ซึ่งก็จะมีเคสออกมารองรับเจ้าแม็กเซฟ
พูดถึงเรื่องชาร์จ ก็ต้องบอกว่าไอโฟนรุ่นนี้นั้น ทางแอปเปิลได้ถอดหัวปลั๊กออกจากกล่องไปเรียบร้อย จะเหลือแต่สายชาร์จที่เป็นไลท์นิ่ง อีกด้านจะเป็นยูเอสบี ซี ที่ได้กลายเป็นประเด็นถกเถียงกันอย่างหนักว่า ทำไมถึงต้องถอด ซึ่งทางแอปเปิลได้ให้เหตุผลเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม ที่เป็นต้นเหตุที่ทำให้ต้องถอดหัวปลั๊กออก แต่ใครที่อยากได้ ก็ไปหาซื้อมาใช้กันได้เหมือนเคย
โดยรวมๆ ทั้งตัวเครื่อง กล้อง และประสิทธิภาพในการทำงานนั้น เรียกได้ว่า ดีงามอย่างมาก เรื่องของราคา ขอให้ไปเช็กตามโปรโมชั่นต่างๆ ดูว่า อยากได้โปรไหน และจริงๆ แล้ว ลูกเล่นต่างๆ ของเครื่องยังมีอีกเยอะมาก ต้องลองเล่นกันดูให้เต็มอิ่ม