วานิช ซอฟต์แวร์ จับมืออินเทล เปิดตัว Visual Cloud Delivery Network
วานิช ซอฟต์แวร์ จับมือ อินเทล เปิดตัวโซลูชั่น Visual Cloud Delivery Network เทคโนโลยีที่ผนวกความสามารถโซลูชั่น Edge Cloud Software ของวานิช ซอฟต์แวร์ เข้ากับโซลูชั่นจากอินเทล Intel Select Solutions ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมที่พร้อมติดตั้งใช้งานและได้รับการทดสอบแล้วสำหรับเครือข่ายระบบการให้บริการคอนเทนต์ (CDN-Content Delivery Network) ประสิทธิภาพสูง ในการรองรับการจัดการปริมาณเวิร์กโหลดสำหรับการถ่ายทอดสด หรือวิดีโอออนดีมานด์ บนสภาพแวดล้อมของการใช้งานบนเครือข่ายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น vRAN (virtualized Radio Access Network), NFVi (Network functions virtualization) โดยทำหน้าที่สร้างสภาพแวดล้อมเสมือนไว้บนเครือข่ายแต่ละแบบอีกชั้นและบนเครือข่ายการให้บริการคอนเทนต์ที่อยู่บน
คลาวด์ (Cloud CDN) เพื่อทำให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดในการส่งหรือให้บริการคอนเทนต์สู่ผู้ใช้งาน
โซลูชั่น Visual Cloud Delivery Network จะช่วยให้บริษัทผู้รับผลิตอุปกรณ์ ผู้ติดตั้งระบบและผู้ให้บริการด้านเครือข่ายสื่อสาร (CoSPs-Communication Service Providers) สามารถตอบสนองความท้าทายซึ่งมีความต้องการสูงขึ้นในการจัดการเครือข่ายในสภาพแวดล้อมการใช้งานที่หลากหลายมากขึ้น โดยนำเสนอโซลูชั่นที่สมบูรณ์แบบลดความซับซ้อนและสามารถติดตั้งใช้งานได้รวดเร็วขึ้น ในขณะที่ลดค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษา (TCO)
ทั้งนี้ เทคโนโลยี Varnish Edge Cloud เมื่อผนวกรวมกับ Intel Select Solution แล้วทำให้ประสิทธิภาพในด้านความเร็วในการบริการข้อมูลเพิ่มสูงสุดถึง 200 กิกะบิตต่อวินาที เรียกได้ว่าให้ประสิทธิภาพในระดับแนวหน้าของอุตสาหกรรมสามารถรองรับการสตรีมมิ่งวิดีโอที่เข้ารหัสคุณภาพระดับ HD ได้พร้อมกันถึง 400 คนพร้อมๆ กัน บนความเร็วระดับ 5 เมกะบิตต่อวินาที
โซลูชั่นได้รับการออกแบบให้รองรับการปรับแต่งให้สามารถทำงานได้ทั้งแบบ หนึ่งและสองซ็อคเก็ต และผสานกับเทคโนโลยีของวานิช เข้ากับเทคโนโลยีของอินเทล ดังนี้
– โพรเซสเซอร์ Intel Xeon Scalable รุ่นที่ 3 ที่ออกแบบเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานร่วมกับคลาวด์หลายระบบพร้อมกันและ AI ในการรองรับเวิร์กโหลดได้หลายเวิร์กโหลดพร้อมกันและรวดเร็วขึ้น พร้อมความสามารถด้านความปลอดภัยขั้นสูง
– หน่วยความจำอินเทล Intel Optane persistent memory 200 series สำหรับการใช้งานถ่ายทอดสดสตรีมมิ่งบนเครือข่าย CDN เพื่อเพิ่มหน่วยความจำในแต่ละหน่วย และลดค่าใช้จ่ายตลอดการใช้งาน (TCO)
– PCI-e รุ่นที่ 4 เพื่อการรับและส่งผ่านข้อมูลที่รวดเร็วขึ้น
– โซลิตสเตทไดรฟ์ Intel NVMe SSDs เพื่อการทำแคชชิ่งงานวิดีโอออนด์ดีมานด์ได้อย่างมีประสิทธิภาพและบนงบประมาณที่เหมาะสมที่สุด
– มาพร้อมกับเทคโนโลยีเข้ารหัสและ AI ให้ความเร็วสูงสุด 200 กิกะบิตต่อวินาทีในกระบวนการเข้ารหัสในระหว่างส่งคอนเทนต์ และการทำวิเคราะห์บนเครือข่าย CDN/Edge
– หน่วยประมวลผลด้านกราฟิก Intel Server GPU ชิปประสิทธิภาพสูงสำหรับงานด้านการถอดรหัสข้อมูล
– Intel Ethernet Network Adapter E810 การ์ดเครือข่ายที่ออกแบบมาเพื่อรองรับการใช้งานแอพพลิเคชั่นที่ใช้งานข้อมูลจำนวนมาก ให้สามารถทำงานได้อย่างราบรื่น