นักวิจัยฟันธง ‘หมีน้ำ’ อายุยืนยาวกว่ามนุษยชาติ

(ภาพ-University of Oxford / ESA-Dr.Ralph O. Schill)

ผลงานวิจัยล่าสุดของทีมนักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด ประเทศอังกฤษ ร่วมกับมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดแห่งสหรัฐอเมริกา แสดงให้เห็นว่า แม้โลกตกอยู่ในภาวะเลวร้ายที่สุดจนมนุษยชาติไม่มีทางมีชีวิตอยู่รอดได้ “หมีน้ำ” หรือ “ทาร์ดิกราดา” (ภาษาละติน แปลว่า “ตัวเดินช้า” เมื่อเป็นพหูพจน์ใช้เป็นทาร์ดิกราดส์ หรือทาร์ดิเกรดส์) ก็จะยังมีชีวิตอยู่ได้บนโลกใบนี้ ทำให้มันได้ชื่อว่าเป็นสัตว์ขนาดจิ๋ว (ไมโครแอนิมอล) ที่มีความแข็งแกร่งที่สุดเหนือสัตว์ทุกชนิดที่รู้จักกันในปัจจุบันรวมทั้งมนุษย์

จะทำลายชีวิตของหมีน้ำสูญพันธุ์ให้ได้ ต้องรอจนถึงดวงอาทิตย์ของระบบสุริยะแตกดับไปแล้วเท่านั้น

“หมีน้ำ” โตเต็มวัยมีขนาดเฉลี่ยไม่ถึง 1 มิลลิเมตร ตัวที่โตที่สุดเท่าที่เคยมีการค้นพบมีความยาวเพียง 1.5 มิลลิเมตร ตัวที่เล็กที่สุดมีขนาดไม่ถึง 0.1 มิลลิเมตร โดยทั่วไปแล้วหมีน้ำที่พบในวัยเริ่มโตมีขนาดเฉลี่ยอยู่ที่ไม่เกิน 0.05 มิลลิเมตรเท่านั้น พบได้ในแหล่งน้ำแทบทุกหนทุกแห่งบนโลก ตั้งแต่ยอดเขา เรื่อยไปจนถึงในทะเลลึก ตั้งแต่สภาพป่าฝนเขตร้อนไปจนถึงพื้นที่หนาวเย็นจัดตลอดปีอย่างแอนตาร์กติก

นักวิทยาศาสตร์ยอมรับกันมานานแล้วว่าหมีน้ำเป็นรูปแบบสิ่งมีชีวิตที่อึดที่สุดบนโลก มีชีวิตอยู่ได้โดยไม่กินอะไรเลยนานถึง 30 ปี สามารถถูกแช่แข็ง ต้ม บดอัดด้วยแรงดันสูง หรือปล่อยให้อยู่ในสภาพสุญญากาศ เผชิญกับการแผ่รังสีอยู่ตลอดเวลาในห้วงอวกาศก็ยังมีชีวิตอยู่ได้โดยไม่มีผลกระทบใดๆ แต่ละตัวอยู่รอดได้นานถึง 60 ปี

Advertisement

ทีมวิจัยประเมินสถานการณ์เลวร้ายหลายอย่างที่สามารถเกิดขึ้นได้ในห้วงอวกาศและส่งผลกระทบต่อโลก เพื่อจำลองสถานการณ์บนโลกจากผลกระทบของเหตุการณ์ดังกล่าว อาทิ เมื่อโลกถูกถล่มด้วยอุกกาบาตขนาดใหญ่หรือดาวเคราะห์น้อย ขนาดใกล้เคียงหรือโตกว่าลูกที่ทำให้ไดโนเสาร์สูญพันธุ์ หรือเมื่อเกิดเหตุระเบิดของรังสีแกมม่าในจักรวาล หรือเมื่อเกิดซุปเปอร์โนวาขึ้นในระยะใกล้โลก เป็นต้น

การระเบิดของรังสีแกมม่า (แกมม่า-เรย์ เบิร์สท์-จีอาร์บี) ได้ชื่อว่าเป็นการระเบิดที่มีอานุภาพสูงที่สุดในจักรวาล คือลำของการแผ่รังสีที่พุ่งวาบออกมาเมื่อดาวฤกษ์ยุบตัวลงสู่ใจกลางกลายเป็นหลุมดำหลังจากเกิดการระเบิดเป็นอัลตรา-ซุปเปอร์โนวาที่มีพลังมหาศาล หากการระเบิดดังกล่าวเกิดขึ้นใกล้โลกมากพอ และลำของการแผ่รังสีพุ่งตรงมายังโลกจะสามารถทำลายชั้นโอโซนทั้งหมดของโลกได้ในพริบตา ทำให้ทุกอย่างบนพื้นผิวโลกไร้เกราะป้องกันรังสีใดๆ ทั้งหมดจากห้วงอวกาศ

Advertisement

ภายใต้สภาพเช่นนี้ ทีมวิจัยเชื่อว่าจะมีเพียงสิ่งมีชีวิตที่อยู่ใต้ดินกับแหล่งน้ำขนาดใหญ่เช่นมหาสมุทรเท่านั้นที่สามารถอยู่รอดได้ รวมทั้ง หมีน้ำหรือทาร์ดิกราดส์ ไม่ใช่มนุษยชาติ

หากจะทำให้น้ำในมหาสมุทรบนโลกเดือดพล่านและระเหยไปจนหมด จีอาร์บีจำเป็นต้องเกิดห่างจากโลกออกไปไม่เกิน 40 ปีแสง (ระยะ 1 ปีแสง เท่ากับระยะทางราว 10 ล้านล้านกิโลเมตร) และต้องอยู่ในทิศทางที่พุ่งตรงมายังโลกด้วย

ซุปเปอร์โนวาทั่วๆ ไปที่มีอานุภาพด้อยกว่า สามารถก่อให้เกิดอันตรายจากการแผ่รังสีต่อโลกได้ในทำนองเดียวกัน แต่หากจะทำให้น้ำระเหยหมดมหาสมุทร ต้องเกิดขึ้นใกล้โลกมากเพียงไม่เกิน 0.14 ปีแสงเท่านั้น

อุกกาบาตสังหาร ที่จะส่งผลให้ท้องฟ้าเต็มไปด้วยฝุ่นผงและเศษซากจากการพุ่งชนผิวโลก สามารถสังหารสิ่งมีชีวิตทุกชนิดที่จำเป็นต้องพึ่งพาแสงแดด ในกรณีที่อุกกาบาตใหญ่ขนาดดาวเคราะห์น้อยขนาดใหญ่ มันอาจทำให้โลกสูญเสียบรรยากาศได้เช่นกัน แต่สิ่งมีชีวิตอาจยังคงอยู่ในห้วงลึกของมหาสมุทร หรือควานหาสิ่งที่จำเป็นต่อชีวิตได้จากปากปล่องภูเขาไฟ

เมื่อคำนวณความเป็นไปได้ของแต่ละเหตุการณ์ดังกล่าว นำมาประเมินร่วมกับปัจจัยสุดโต่งทั้งหลายที่ทาร์ดิกราดส์ยังสามารถมีชีวิตอยู่ได้ ตั้งแต่ความร้อนสูงจนถึงแรงดันมหาศาล ทีมวิจัยพบว่าแม้แต่สภาพมหาสมุทรเดือดเป็นไอ ที่จะทำให้สิ่งมีชีวิตอื่นใดทั้งหมดยุติลงโดยสิ้นเชิง ซึ่งอาจเกิดขึ้นภายใน 10,000 ปีนี้ ทาร์ดิกราดส์ก็ยังคงมีชีวิตอยู่ได้

กรณีเดียวที่สามารถทำให้ทาร์ดิกราดส์สูญพันธุ์ได้ก็คือ เมื่อดวงอาทิตย์วิวัฒนาการไปสู่ขั้นตอนสุดท้ายของชีวิตกลายเป็นดาวฤกษ์แดงขนาดยักษ์ ขยายขนาดขึ้นมาจนใหญ่กว่าเส้นผ่านศูนย์กลางของวงโคจรรอบดวงอาทิตย์ของโลก ก่อนจะถึงจุดนั้น ดวงอาทิตย์ที่ร้อนแรงจะอยู่ใกล้โลกมากจนทำให้ทั้งโลกเดือดพล่าน ทำลายสิ่งมีชีวิตทั้งหมด แล้วค่อยๆ กลืนโลกทั้งโลกเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของตัวเอง หรือดีดโลกกระเด็นออกจากวงโคจรในเวลานี้

เดวิด สโลน นักวิจัยจากออกซ์ฟอร์ด กับอาวี โลบ จากฮาร์วาร์ด ผู้ร่วมเขียนรายงานวิจัยชี้ว่า ถ้าโลกมีสิ่งมีชีวิตที่อึดได้ขนาดนี้ ดาวเคราะห์ดวงอื่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งดาวอังคารที่เคยมีสภาพเอื้อต่อการมีสิ่งมีชีวิตก่อนหน้านี้ก็อาจมีสัตว์จอมอึดทำนองเดียวกับ “หมีน้ำ” หลงเหลืออยู่ให้มนุษย์ค้นหา เช่นเดียวกับบนดวงจันทร์หลายดวงของดาวเสาร์

สัตว์จอมอึดประเภทเดียวกันนี้มีบนโลกได้ ก็ต้องมีบนดาวดวงอื่นได้เช่นกัน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image