หลังจากที่สามารถพิชิตรางวัล “สามารถ อินโนเวชั่น อวอร์ด” หรือโครงการ “Young Technopreneur 2017” หรือเถ้าแก่น้อยเทคโนโลยี น้องๆ จากทีมชนะเลิศ และรองอีก 2 ทีม ก็ได้เวลาเดินทางไปเยือนประเทศเกาหลีใต้ เพื่อดูเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยของเกาหลีใต้ และหาประสบการณ์เพื่อนำความรู้ที่ได้มาต่อยอดพัฒนาผลงานของตัวเองต่อไป
โดยทีมที่ได้รับรางวัลสุดยอด สามารถ อินโนเวชั่น อวอร์ด ได้แก่ ผลงาน “เพ็ทอินชัวร์ ประกันภัยสัตว์เลี้ยงออนไลน์” ของ น.ส.พลอยพิชชา บุญทวีพิทักษ์ กับนายชลณัฏฐ์ พูนชัฏกาญจน์ สำหรับผลงานโบรกเกอร์ประกันภัยสัตว์เลี้ยงออนไลน์แบบครบวงจรเจ้าแรกในประเทศไทย ส่วนรองชนะเลิศอันดับ 1 ได้แก่ ระบบเรือเติมอากาศ ของ น.ส.จุติมา อินธิชิต และ น.ส.สินีวรรณ แหลมคม ในผลงานอุปกรณ์เพิ่มออกซิเจนในน้ำที่มีขนาดเล็กและมีความเร็วสูง ที่ช่วยประหยัดพลังงานกว่าระบบเดิมถึง 10 เท่า และรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 ได้แก่ทีมชาวไร่ ของนายธกร ตั้งมั่นคง และนายวาสุเทพ ศรีโคกกรวด ในผลงานระบบดูแลพืชอัตโนมัติ ที่มีระบบบริหารจัดการฟาร์มให้ผู้ใช้งานวางแผนการปลูกพืชได้และติดตั้งได้ด้วยตัวเอง
โดยในการชมงานครั้งนี้ ทางสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) และ บมจ.สามารถ ได้พาน้องๆ ทั้งสามทีมไปชมเทคโนโลยีอันล้ำหน้าที่เกาหลีใต้มากมายหลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็น “พันเกียวเทคโนโลยีวัลลีย์” ที่เหมือนกับเป็นซิลิคอน วัลลีย์ ของเกาหลี หรือจะเป็นพิพิธภัณฑ์เทคโนโลยีแห่งอนาคต ที่จำลองการใช้ชีวิตของมนุษย์ในโลกอนาคตเอาไว้ และเยี่ยมชมงาน Seoul International Invention Fair 2017 งานแสดงและประกวดสิ่งประดิษฐ์ นวัตกรรม เทคโนโลยี และผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ระดับนานาชาติที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย
นางศันสนีย์ ฮวบสมบูรณ์ ผู้อำนวยการฝ่ายศูนย์บ่มเพาะธุรกิจเทคโนโลยี ของสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) เปิดเผยว่า สำหรับพันเกียวเทคโนโลยีวัลลีย์นั้นก็จะเหมือนกับซิลิคอน วัลลีย์ ของสหรัฐอเมริกา เป็นเมืองใหม่ที่สร้างขึ้นมาบริเวณชานเมืองตอนใต้ของกรุงโซล ถือเป็นศูนย์อุตสาหกรรมขนาดใหญ่ที่เป็นศูนย์รวมของธุรกิจ เทคโนโลยีสารสนเทศ และเป็นแหล่งรวมผู้ประกอบการรายใหญ่ ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี และผู้ประกอบการรายใหม่ ประกอบไปด้วย 3 ส่วน ส่วนแรกคือ พันเกียวเทคโนโลยี ที่จะสร้างสิ่งแวดล้อมที่น่าสนใจ เพื่อดึงดูดให้บริษัทใหญ่ๆ มาอยู่ที่นี่ โดยที่นี่จะไม่มีโรงงาน จะมีแค่งานวิจัยเท่านั้น
ส่วนที่สอง คือ พันเกียว ซีโร่ ซิตี้ หรือสมาร์ท ซิตี้ คอนเซ็ปต์ก็คือ เป็นเมืองที่ปลอดซึ่งอุบัติเหตุ ทุกอย่างควบคุมด้วยระบบอัตโนมัติ เปิดกว้าง อิสระ ไม่มีกฎหมายไปควบคุม และสุดท้ายคือ พันเกียว สตาร์ตอัพ แคมปัส เพื่อการสร้างสตาร์ตอัพ ที่ไม่ใช่แค่ชาวเกาหลีเท่านั้น แต่รวมถึงบรรดาสตาร์ตอัพจากทั่วโลกด้วย โดยในช่วง 4 เดือนแรก สตาร์ต อัพเหล่านี้จะได้รับเงินอุดหนุนจากภาครัฐ แต่ถ้าหากไม่ประสบความสำเร็จ ก็จะไม่ได้อยู่ต่อ
นางศันสนีย์กล่าวว่า สำหรับน้องๆ ที่มาชมงานครั้งนี้ สิ่งที่ใกล้ตัวมากที่สุดก็คงเป็นสตาร์ตอัพ แคมปัส เพราะน้องๆ จะได้ดูสิ่งแปลกใหม่ แล้วเกิดไอเดียใหม่ๆ ขึ้นมา นอกจากนี้น้องๆ ก็จะได้เห็นความสำคัญของเรื่องการวิจัยและพัฒนา รวมไปถึงเรื่องการใช้เทคโนโลยีสะอาดด้วย
ในส่วนของตัวน้องๆ เองที่ได้มีโอกาสสัมผัสกับประสบการณ์ใหม่ๆ นวัตกรรมใหม่ๆ ในครั้งนี้ ต่างก็สนุกสนานกับสิ่งที่ได้เจอกันอย่างมาก
โดยน้องๆ จากทีมเพ็ทอินชัวร์บอกว่า นวัตกรรมที่น่าสนใจที่มาเจอในครั้งนี้ก็อย่าง “เออาร์” ที่ทำให้ได้เข้าถึงเหตุการณ์ในสถานที่ต่างๆ แม้เราจะไม่ได้อยู่ตรงนั้นจริงๆ และส่วนของโรโบติก อย่างการควบคุมแขนหุ่นยนต์เพื่อใช้ในการผ่าตัดหรือรักษาทางการแพทย์ ในส่วนของงาน Seoul International Innovation Fair 2017 ที่ได้ชม ก็ชื่นชอบเทคโนโลยี Medical Eye Massage ที่สวมแว่นลักษณะคล้ายแว่น VR เข้าไป แล้วตัวแว่นจะช่วยนวดตาให้เราผ่อนคลายประมาณ 10 นาที ก็จะทำให้สุขภาพตาของเรารู้สึกดีขึ้น
ส่วนประโยชน์ที่ได้จากการมาเกาหลีครั้งนี้ น้องๆ บอกว่า ได้มาสัมผัสนวัตกรรมในหลายอุตสาหกรรมของแต่ละประเทศ และเรียนรู้เรื่องพัฒนาการทางเทคโนโลยีและนวัตกรรมต่างๆ ของแต่ละประเทศเพื่อนำมาประยุกต์ใช้กับของประเทศเรา
ส่วนทีมระบบเรือเติมอากาศบอกว่า ประโยชน์ที่ได้จากการมาเกาหลีครั้งนี้ คือได้เปิดมุมมองและแนวความคิดใหม่ๆ เกี่ยวกับสตาร์ตอัพ และได้เข้าใจเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Internet of Things เพื่อนำมาประยุกต์ใช้ในผลิตภัณฑ์ของตัวเอง และได้ทดลองใช้งาน VR และ AR ที่สำคัญคือได้มิตรภาพและมีคอนเน็กชั่นในการทำธุรกิจ
สุดท้าย สำหรับน้องๆ จากทีมชาวไร่ บอกว่า นวัตกรรมที่สนใจคือ : LoRa network ที่ไปชมที่ SK Telecom ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่น่าสนใจมากเพราะจะช่วยให้ Internet of Things ของประเทศเดินหน้าไปได้ ซึ่งระบบนี้สามารถนำมาประยุกต์เข้ากับผลิตภัณฑ์ที่ทำอยู่ได้เพื่อการประหยัดพลังงาน สื่อสารกว้างไกลได้ ในราคาที่ไม่แพง
ส่วนประโยชน์ที่ได้จากการมาเกาหลีครั้งนี้ น้องๆ จากทีมชาวไร่บอกว่า ช่วยเปิดโลก วิสัยทัศน์ในการกลับมามองงานสตาร์ตอัพของตัวเอง เพื่อกำหนดทิศทางการวางแผนและพัฒนาไปยังแนวทางที่ก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด
ด้วยข้อมูลที่น่าสนใจและนวัตกรรมใหม่ๆ ที่ไม่เคยได้เห็น ทำให้สามทีมเถ้าแก่น้อยของเราได้ทั้งความสนุกและประโยชน์กลับไปกันแบบเต็มกระเป๋าเลยทีเดียว