วิถีการแก้ปัญหาของ’แอปเปิล’ เมื่อเจอปัญหาเรื่องแบตเตอรี่

FILE PHOTO: Apple CEO Tim Cook stands in front of a screen displaying the IPhone 6 during a presentation at Apple headquarters in Cupertino, California October 16, 2014. REUTERS/Robert Galbraith/File Photo

กลายเป็นข่าวคราวใหญ่โตเมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมา หลังจากมีรายงานออกมาว่า แอปเปิลออกมายอมรับว่าเป็นผู้ทำให้เครื่องไอโฟนรุ่นเก่าทั้งหลายที่แบตเตอรี่อายุการใช้งานมากแล้ว มีประสิทธิภาพในการทำงานที่ “ช้าลง” เนื่องจากหากปล่อยให้เครื่องทำงานเต็มที่ จะสุ่มเสี่ยงต่อการที่เครื่องจะรีสตาร์ตเครื่องใหม่ ซึ่งกลายเป็นปัญหาของผู้ใช้ไอโฟนที่มีแบตเตอรี่อายุมากแล้ว

วิธีการแก้ปัญหาเบื้องต้นของแอปเปิลที่ออกมาตั้งแต่มีข่าว ก็คือ การให้ผู้ที่ใช้ไอโฟนเก่า ตั้งแต่รุ่นไอโฟน 7 ไอโฟน 6 ไอโฟน 6 เอส และไอโฟนเอสอี นำเครื่องไปเปลี่ยนแบตเตอรี่แท้ ในราคาที่ถูกลงมากๆ จากราคาเต็ม 79 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 2,500 บาท เหลือเพียง 29 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 1 พันบาทเท่านั้น

นอกจากนี้ ก็ยังให้คำมั่นว่าจะมีการอัพเดตระบบปฏิบัติการไอโอเอส ให้สามารถแจ้งเตือนผู้ใช้เมื่อตรวจพบว่า เครื่องไอโฟนของผู้ใช้มีปัญหา

แล้วแอปเปิลก็ทำตามสัญญา คือการอัพเดตไอโอเอสให้ผู้ใช้สามารถรู้ได้ว่าแบตเตอรี่ของเครื่องมีปัญหาแล้ว และยังสามารถบริหารจัดการระบบพลังงานของเครื่องได้เองด้วย

Advertisement

ทิม คุก ซีอีโอของแอปเปิล บอกว่า การตัดสินใจแก้ปัญหาเรื่องเครื่องรีสตาร์ตเองโดยอัตโนมัติเพราะแบตเตอรี่เสื่อมโดยลดประสิทธิภาพในการทำงานให้ช้าลง เพราะคิดว่าน่าจะดีต่อเครื่องเพื่อป้องกันไม่ให้เครื่องรีสตาร์ตใหม่อัตโนมัติ แต่ก็ต้องขอโทษที่ทำให้หลายคนคิดว่าแอปเปิลมีเหตุผลอื่นที่ทำเช่นนั้น

ทางแอปเปิลได้รับฟังผลตอบรับต่างอย่างระมัดระวัง และได้ปรับลดราคาของแบตเตอรี่ลงให้สำหรับผู้ที่ต้องการเปลี่ยนแบตเตอรี่ใหม่ และสิ่งที่จะเกิดขึ้นในเดือนหน้าคือ จะทำให้ผู้ใช้สามารถมองเห็นถึงสถานะของแบตเตอรี่ว่าสมบูรณ์มากน้อยแค่ไหน ซึ่งไม่เคยมีมาก่อน และจะแจ้งกับผู้ใช้ว่าจะปรับลดประสิทธิภาพของเครื่องลงประมาณหนึ่งเพื่อไม่ให้เครื่องเกิดการรีสตาร์ตเอง

หากผู้ใช้ไม่ต้องการให้ทำ ก็สามารถปิดฟีเจอร์นี้เองได้

Advertisement

แต่ก็จะมีคำเตือนด้วยว่า หากปิดไปแล้ว เครื่องอาจจะเกิดการรีสตาร์ตใหม่ได้โดยไม่คาดหมาย

ถือเป็น “คำเตือน” ที่บอกกับผู้ใช้ว่า หากไม่ต้องการให้เครื่องทำงานช้าลง ด้วยการปิดตัวจัดการที่ทางแอปเปิลจัดให้ ก็ต้องเสี่ยงกับการที่เครื่องจะรีสตาร์ตอัตโนมัติ

ซึ่ง “คุก” บอกว่า เรื่องนี้อาจจะต้องทำให้ชัดเจนขึ้น และว่า สำหรับแอปเปิลความต้องการใช้งานของผู้ใช้ถือเป็นเรื่องสำคัญที่สุดว่า โทรศัพท์จะต้องพร้อมเมื่อต้องการถ่ายภาพที่สำคัญ หรือพร้อมเมื่อต้องการใช้โทรศัพท์ยามฉุกเฉิน

ก็ถือเป็นนำเสนอทางเลือกที่มากมายให้แก่ผู้ใช้ไอโฟนรุ่นที่แบตเตอรี่เริ่มมีปัญหาทั้งหลาย ก็ขึ้นอยู่กับว่า เจ้าของเครื่องสะดวกที่จะแก้ปัญหาอย่างไร

สำหรับการตัดสินใจบางเรื่องที่อาจผิดพลาดไปบ้าง ขอเพียงไม่นิ่งดูดาย ยอมรับผิด และหาวิธีแก้ไข … พี่ยอมรับได้

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image