คอลัมน์นอกลู่ในทาง : ‘ดิจิทัลแพลตฟอร์ม’

โทรศัพท์มือถือกลายเป็นทุกสิ่งสำหรับคนในยุคปัจจุบัน โดยเฉพาะคนไทย หากพิจารณาจากข้อมูลล่าสุดที่ระบุว่าคนไทยใช้อินเทอร์เน็ตถึง 9.30 ชั่วโมงต่อวัน มากที่สุดในโลก และเมื่อเจาะลึกลงไปถึงจำนวนครั้งที่คนไทยหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาดูในแต่ละวันด้วยแล้วยิ่งไปกันใหญ่

โดยพบว่าในแต่ละวันคนไทยหยิบขึ้นมาดูมากกว่า 400 กว่าครั้ง แซงหน้าชาวอเมริกันที่ยกโทรศัพท์ขึ้นมาดูวันละ 155 ครั้งไปหลายช่วงตัว ไม่รู้ว่าควรดีใจไหม แต่ชัดเจนว่าเราเปิดรับการใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ ได้เป็นอย่างดี

ด้วยเหตุนี้บรรดาแพลตฟอร์มดิจิทัลยักษ์ใหญ่ของโลกทั้งหลายจึงมุ่งหน้าเข้ามาขยับขยายธุรกิจในบ้านเรากันอย่างคึกคัก โดยต่างมีเป้าหมายเพื่อแย่งชิงและรักษาฐานลูกค้าดิจิทัลอย่างเต็มที่

แม้หลายแอปพลิเคชั่น ไม่ว่าจะเป็นเฟซบุ๊ก, ทวิตเตอร์, อินสตาแกรม, จุ๊ค, ลาซาด้า หรือแม้แต่ “ไลน์”จะฮอตฮิตติดลมบน มีลูกค้าในมือจำนวนมากมายอยู่แล้ว บางรายมีมากเกินกว่ากึ่งหนึ่งของประชากรในประเทศไทย แต่อะไรก็ไม่แน่ไม่นอนยุคปลาเร็วกินปลาช้า

Advertisement

การมีคู่แข่งหน้าใหม่เกิดขึ้นได้ภายในพริบตาเดียว ดังนั้นจึงไม่มีใครหยุดเพิ่มเติมบริการ เพื่อสร้างฐานลูกค้าเพิ่มขึ้น

และเพิ่มขึ้น ซึ่งจะนำไปสู่ “รายได้”ในที่สุด โดยเฉพาะการขยายแนวรบเข้าไปในธุรกิจเอสเอ็มอี ดังเช่นที่ยักษ์โซเชียลเน็ตเวิร์ก “เฟซบุ๊ก”ประกาศว่าจะให้ความสำคัญกับการลงทุนในประเทศไทยเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง

ไลน์ (LINE) เป็นอีกตัวอย่างที่เห็นชัดเจนมากเช่นกันในแง่ที่ว่ามีบริการใหม่ๆ ไม่หยุดหย่อน นับจากตั้งหลักมีฐานลูกค้าเป็นกอบเป็นกำมาจากการเป็น แอปพลิเคชั่น “แชท”แล้วก็ขยับขยายเพิ่มเติมบริการไปอีกมากมาย โดยมีเป้าหมายสำคัญเพื่อให้ตอบโจทย์ความต้องการในชีวิตประจำวันของผู้คนให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

Advertisement

ประมาณว่าพยายามที่จะเป็นทุกสิ่งเพื่อคุณ ๆ (ลูกค้า)

จากบริการ “แชท” มาสู่อื่น ๆ อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ไลน์ สติ๊กเกอร์ (LINE STICKERS), ไลน์ทีวี (LINE TV) , ไลน์เกม (LINE GAME) ที่มีเกมยอดฮิตอย่างคุ้กกี้รัน, บริการไลน์แมน (LINE MAN) เป็นต้น

หนึ่งในสารพัดบริการเหล่านั้น มี “ไลน์ทูเดย์” (LINE TODAY) รวมอยู่ด้วย ในฐานะศูนย์กลางข่าว และคอนเทนต์ออนไลน์ แต่เรียกว่าเป็นศูนย์รวมสำนักข่าวออนไลน์คงไม่ถนัดนัก เพราะไม่ได้มีแต่ “ข่าว”เท่านั้น

คอนเทนต์ที่ได้รับความนิยมในปัจจุบันแบ่งออกได้เป็น 1.ข่าวทั่วไป 2.ข่าวบันเทิง 3.ดูดวง 4.กีฬา และ 5.ไลฟ์สไตล์

“กวิน ตั้งอุทัยศักดิ์”ผู้อำนวยการธุรกิจคอนเทนต์ “ไลน์ ประเทศไทย”ขยายความว่าตลอดสิบกว่าปีที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่าธุรกิจสื่อสิ่งพิมพ์ได้รับผลกระทบจากพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปจากเทคโนโลยีส่งผลให้เม็ดเงินโฆษณาผ่านสื่อสิ่งพิมพ์ปรับตัวลดลงต่อเนื่อง จากที่เคยมีมูลค่าสูงถึงกว่า 20,000 ล้านบาท เหลือไม่ถึง 10,000 ล้านบาท สวนทางเม็ดเงินโฆษณาในสื่อออนไลน์ที่มีแต่จะเพิ่มขึ้นทำให้ธุรกิจสิ่งพิมพ์ปรับตัวมาทำออนไลน์มากขึ้น เนื่องจากผู้บริโภคหันมาอ่านคอนเทนต์ผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้น

อย่างไรก็ตาม แม้ประเทศไทยจะมีคนเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้ถึง 45 ล้านคน แต่มีไม่น้อยที่เข้าเว็บไซต์ไม่เป็น แต่ใช้งานผ่านแอปพลิเคชั่น “ไลน์” และ”เฟซบุ๊ค” ขณะเดียวกันกลุ่มคนรุ่นใหม่ยังสนใจอ่านคอนเทนต์ที่มีคนแชร์มากกว่าเข้าไปอ่านผ่านเว็บไซต์โดยตรง

เมื่อ 2 ปีที่แล้ว “ไลน์”จึงสร้าง”ไลน์ทูเดย์”ขึ้นมาแก้ปัญหาดังกล่าว เพื่อเป็นศูนย์กลางคอนเทนต์ ปัจจุบันมีผู้ใช้กว่า 32 ล้านคนต่อเดือน หรือคิดเป็นสัดส่วน 71% ของผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตในประเทศไทย

โดยมียอดเฉลี่ยในการอ่าน 38 คอนเทนต์ต่อเดือน หรือมากกว่า 1,000 ล้านครั้งต่อเดือน และ76% ของผู้ใช้งานยังเข้ามาอ่านทุกวัน ซึ่งคอนเทนต์ต่างๆ บน “ไลน์ทูเดย์”มาจากคอนเทนต์พาร์ทเนอร์กว่า 120 ราย ทั้งหนังสือพิมพ์, ทีวี และนิตยสาร มีการนำเสนอข่าว 600-700 ชิ้นต่อวัน

ผู้บริหารไลน์ระบุว่า “ไลน์ทูเดย์”เข้าถึงง่าย อัพเดทเร็ว มีการจัดการคอนเทนต์เป็นหมวดหมู่ และมีความหลากหลายทำให้มีคนเข้ามาอ่านเป็นจำนวนมาก ขณะที่เทรดดิชั่นแนลมีเดียเองก็ต้องการเพิ่มสัดส่วนรายได้จากออนไลน์มากขึ้นด้วย เพราะอย่างที่รู้กันว่าเม็ดเงินโฆษณาในสื่อสิ่งพิมพ์มีแต่จะลดลง แต่ออนไลน์มีการเติบโตปีละ 30% และมีสัดส่วนแค่ 10% ของมูลค่าโฆษณาโดยรวมเท่านั้นจึงยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก

ซึ่งสิ่งที่พาร์ทเนอร์ อันได้แก่ บรรดาสำนักข่าว และผู้ผลิตคอนเทนต์ทั้งหลายจะได้รับจากการเข้าร่วมในครังนี้ คือมีทั้งส่วนแบ่งรายได้จากค่าโฆษณา และการมีทราฟฟิกเข้าเว็บไซต์เพิ่มขึ้น เมื่อผู้ที่เข้ามาอ่านคลิกไปยังเว็บไซต์ต้นทาง

สำหรับกลุ่มผู้ใช้งานส่วนใหญ่ในปัจจุบันจะอายุระหว่าง 25-34 ปี ส่วนช่วงเวลาที่มีคนอ่านมากที่สุด คือหลังเลิกงานช่วงเย็น ๆ ค่ำ ๆ เป็นต้นไป

“โจทย์ของเราตอนนี้ ชัดเจนว่าคือการสร้างการรับรู้ให้มากขึ้น ทำให้ได้ถึง 42 ล้านคน คือเท่ากับจำนวนฐานผู้ใช้ไลน์ และทำให้มีการอ่านคอนเทนต์ต่าง ๆ มากขึ้น และเห็นโฆษณามากขึ้น ซึ่งที่ผ่านมาเราเป็นที่ 1 ด้านการเติบโตของผู้ใช้สำหรับผลิตภัณฑ์ของไลน์ โดยปีที่แล้วโต 20-30% และปีนี้ก็ยังต้องการโตอีก”

โดยตั้งใจที่จะเพิ่มผู้ใช้ให้ได้ถึง 42 ล้านราย/เดือน และเพิ่มเอ็นเกจเมนต์กับผู้ใช้งานมากขึ้น อย่างน้อยวันละ 2 ครั้งแต่ต้องยอมรับว่าการขยับฐานคนใช้เพิ่มอีก 10 ล้านราย จาก 32 ล้าน เป็น 42 ล้านรายให้ได้ เหมือนไม่ยาก แต่ก็ไม่ง่ายจึงไม่ได้ตั้งเป้าชัดเจนว่าจะไปให้ถึงให้ได้ภายในเมื่อไรแน่

แต่ที่แน่ยิ่งกว่า ความสำเร็จของไลน์ทูเดย์ ตอกย้ำให้เห็นชัดเจนว่า บรรดา“เทรดดิชั่นนอลมีเดีย”ทั้งหลาย หากคิดจะอยู่ให้รอดคงต้องเร่งปรับตนเองเข้าสู่ “ดิจิทัลแพลตฟอร์ม”ไม่ทางใดก็ทางหนึ่งโดยเร็ว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image