ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวกลายเป็นอุตสาหกรรมหลักที่นำรายได้จำนวนมากมาสู่ประเทศต่างๆ และมีแนวโน้มว่าอัตราการเจริญเติบโตอุตสาหกรรมประเภทนี้จะเพิ่มขึ้น แต่อย่างไรก็ดี ปัญหา (Pain Point) ที่พบจากการท่องเที่ยวคือ ข้อจำกัดเรื่องอาหารและสถานที่ท่องเที่ยวของเพื่อนชาวมุสลิม การต้องเดินทางหาร้านอาหารฮาลาลเพื่อตอบสนองความต้องการของเพื่อนชาวมุสลิมนั้นเป็นเรื่องที่พวกเราต้องประสบทุกครั้งเมื่อไปเที่ยว
ทำให้นักศึกษาวิทยาลัยนวัตกรรม มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เกิดไอเดียนำไปสู่การก่อตั้งโครงการสตาร์ตอัพ “Halal Travel in Thailand” จากรายวิชา HIM.497 Exhibition Design เพื่อรวบรวมแหล่งท่องเที่ยว ที่พัก และร้านอาหารที่ตอบสนองความต้องการของนักท่องเที่ยวชาวมุสลิมในประเทศไทย ตามนโยบายของ
อธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รองศาสตราจารย์เกศินี วิฑูรชาติ ที่กล่าวไว้ในงานปฐมนิเทศอาจารย์ใหม่ ปี 2561 ว่า “ธรรมศาสตร์ต้องการสนับสนุนให้เกิดโครงการ Startup ในมหาวิทยาลัย” จึงเป็นที่มาของโครงการดังกล่าวและได้รับการสนับสนุนเพื่อพัฒนาโครงการนี้จากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย โดยมีนางศรีสุดา วนภิญโญศักดิ์ รองผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยด้านตลาดยุโรป เป็นผู้ลงนามสนับสนุนในครั้งนี้ เมื่อวันศุกร์ที่ 1 ธันวาคม 2560 ณ ห้องประชุมชั้น 17 การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
น.ส.อิสรีย์ นรเศรษฐาภรณ์ ผู้จัดการโครงการได้กล่าวว่า “Halal Travel in Thailand เป็นเว็บไซต์รวบรวมแหล่งข้อมูลเกี่ยวกับสถานที่ท่องเที่ยว ที่พัก ร้านอาหาร และบริการจัดส่งอาหารฮาลาล รวมถึงการให้บริการด้านอื่นๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย อันได้แก่ นักท่องเที่ยวชาวมุสลิมในประเทศไทย นอกจากนี้ยังเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวในประเทศนำไปสู่การกระจายรายได้ควบคู่กัน”
“เราจะมองไปที่ธุรกิจ Online สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการค้นหาเกี่ยวกับการท่องเที่ยวเชิงฮาลาล อาทิ โรงแรม ร้านอาหาร สถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ โดยในเฟสแรกจะเริ่มที่เว็บไซต์ให้สามารถเข้าได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย” น.ส.สุดธิดา อิทธาภิชัย หัวหน้าฝ่าย Content กล่าวเรื่องลักษณะธุรกิจ
น.ส.กัญญาวีร์ มิตร์น้อย หัวหน้าฝ่าย Social Media กล่าวเสริมว่า “เมื่อเริ่มต้นการทำธุรกิจจนกระทั่งเป็นที่ยอมรับในวงกว้าง ก็จะมีการหารายได้จากการขายโฆษณาเพื่อหารายได้และยังมีบริการรับวางแผนการเดินทางในการท่องเที่ยวเชิงฮาลาลสำหรับผู้ที่ต้องการทริปส่วนตัวอีกด้วย”
“ลูกค้าจะมีทั้งนักท่องเที่ยวทั่วไปและเพื่อนมุสลิม รวมไปถึงผู้ประกอบการร้านอาหาร ที่พัก สถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ที่ต้องการลูกค้ามุสลิมเป็นเป้าหมายหลัก” น.ส.พรรณนารายณ์ เข็มเพชร หัวหน้าฝ่ายลูกค้าสัมพันธ์ได้กล่าวถึงกลุ่มเป้าหมาย
อิสรีย์ยังได้บอกกับเราเพิ่มเติมต่อไปอีกว่า “ช่วงเริ่มต้นการทำธุรกิจ ลูกค้าที่เราจะโฟกัสจะเริ่มต้นจากนักท่องเที่ยวมุสลิมในไทยที่ต้องการมาท่องเที่ยวในบริเวณกรุงเทพฯและขยายออกเป็นนักท่องเที่ยวมุสลิมในอาเซียน ดังนั้นไม่ว่าที่ใดที่มีอินเตอร์เน็ตเข้าถึง ลูกค้าก็สามารถเข้าถึงเราได้เช่นกัน”
ส่วนแผนการเจาะกลุ่มเป้าหมาย “จากการมองเห็นพฤติกรรมการบริโภคของนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวในบ้านเรานั้นยังไม่พร้อมที่จะจ่ายเงินสำหรับข้อมูลการท่องเที่ยว ดังนั้นเราจึงมีบริการให้ผู้ใช้สืบค้นข้อมูลที่เฉพาะเจาะจงกับ Halal โดยไม่เสียค่าบริการ” สุดธิดากล่าว
“นอกจากนี้เรายังใช้กลยุทธ์ Give and Share ที่จะเริ่มใช้ในช่วงฤดูการท่องเที่ยว Low season ที่ธุรกิจการท่องเที่ยวซบเซาและมีห้องว่างในที่พักต่างๆ จำนวนมาก จึงทำให้ทีมงานเกิดกลยุทธ์ Give and Share โดยในระยะแรกหากนักท่องเที่ยวจองที่พักผ่านทาง Halal Travel in Thailand จะทำให้สามารถเข้าพักได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย (เฉพาะค่าห้องพัก ส่วนบริการเสริมอื่นๆ ยังจ่ายเงินตามปกติ เช่น Service charge 10%, Tax 7%, CityTax 1% ตามที่กฎหมายไทยกำหนด)” สุดธิดากล่าว
กลยุทธ์ Give and Share พรรณนารายณ์ได้เสริมเรื่องนี้ว่า “ยังรวมไปถึงการบริจาคเงินให้กับผู้พิการผ่านทางแคมเปญ Give and Share นอกจากลูกค้าจะได้ฟรีค่าห้องพักแล้วรู้สึกได้ว่ามีส่วนร่วมช่วยสังคมให้เติบโตไปพร้อมกัน”
“นอกจากการที่ผู้ประกอบการเกี่ยวกับโรงแรมให้ผู้ที่จองที่พักผ่าน Halal Travel in Thailand เข้าพักโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ถือว่าเป็นการทำ Corporate social responsibility (CSR) ไปในตัว และยังสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้อีกด้วย (โดยจะเป็นความร่วมมือระหว่างโครงการและ BOI)” กัญญาวีร์สรุป
Halal Travel in Thailand จึงมุ่งเน้นในการสร้างสรรค์ Content เพื่อความแตกต่างแต่ยังคงเข้ากับนักท่องเที่ยวชาวมุสลิม ซึ่งเป็นเป้าหมายหลักทางธุรกิจ และยังให้ความสำคัญกับวิถีชีวิตรวมไปถึงความเชื่อของศาสนาอิสลาม
