เมื่อได้ยิน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา พูดว่า “ผมเป็นมนุษย์” ในฐานะนายกรัฐมนตรีรุ่นพี่ คุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ คงจะอดไม่ได้ จึงแจกแจงว่า ที่ พล.อ.ประยุทธ์พูดนั้นมี 2 เรื่อง คือ การเป็นมนุษย์ กับ เกียรติของตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
“ถ้าบอกว่า ตำแหน่งนี้ห้ามไม่ให้ใครละเมิดเกียรติ แต่ขณะเดียวกันก็บอกว่าฉันเป็นมนุษย์ สามารถแสดงออกได้เหมือนคนอื่นๆ อย่างนี้ไม่สอดคล้องกัน ถ้าอยากจะรักษาเกียรติของตำแหน่งก็ต้องไม่อนุญาตให้เป็นมนุษย์”
ฟังคำอธิบายรุ่นพี่ คล้ายกับว่าจะให้เป็น “ยอดมนุษย์” แท้จริงแล้วคุณอภิสิทธิ์มุ่งหมายจะสอนน้องว่า นายกรัฐมนตรีนั้นเป็นบุคคลสาธารณะต้องมีความ “เหนือกว่า” ปุถุชนทั่วไป ต้องมีธรรมะของนักปกครอง มีขันติ มีอุเบกขา ไม่สามารถจะเอาแต่ใจ หรือระเบิดอารมณ์ได้ง่ายๆ ต้องรู้จักอดทนข่มกลั้น และแสดงออกให้สมกับการได้รับเกียรติ
การกล่าวว่า “ผมเป็นมนุษย์ ย่อมจะมีอารมณ์ความรู้สึก” ของ พล.อ.ประยุทธ์ จึงเสมอเพียงถ้อยคำที่ประสงค์จะผ่อนปรนให้กับ “จุดอ่อน” ของตัวเอง
ภาษาชาวบ้านเรียกว่า คำแก้ตัว !
ถามว่า ถ้าเปลี่ยนจาก “การแก้ตัว” เป็น “การแก้ไข” จะสวยกว่าใช่หรือไม่
ที่จริงอุปนิสัยคนเรานั้นแก้ไขปรับปรุงได้ แต่ก็มีปัญหาว่า มีความเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหน เพราะสิ่งที่เรียกว่า ดีใจ เสียใจ เศร้าใจ โกรธ โมโห ความกลัว ความเกลียดทั้งหลายนั้นไม่ใช่เรื่องของ “ใจ” ที่จะควบคุมได้ง่าย แต่ในทางวิทยาศาสตร์ถือเป็นการทำงานของ “สมอง”
อารมณ์ดี-ร้าย “สมอง” ล้วนสั่งการ
ที่ว่าใจร้อน ของขึ้น หรือ “หัวร้อน” นั้นเกิดจาก “ระบบความคิด” ซึ่งเป็นเรื่องของสมองทั้งสิ้น
การเปลี่ยนนิสัยหรือปรับเปลี่ยนทัศนคติจึงเป็นสิ่งที่ “แก้ไขยาก”
ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจว่า รัฐบาลนั้นเป็นฝ่ายบริหาร ไม่ว่าจะมี “ที่มา” อย่างไร เช่น ได้รับการเลือกตั้งมา หรือช่วงชิงอำนาจมา รัฐบาลก็ถือเป็น “ตัวแทน” ประชาชนซึ่งทำหน้าที่ “ฝ่ายบริหาร”
ไม่เห็นด้วยเหมือนกันกับการหมิ่นหยาม ให้ร้ายทำลายกันด้วยความหยาบคายถ่อยสถุล
แต่ผู้เป็นนายกรัฐมนตรีก็ต้องไม่หลงลืมตนสับสนปนเปไปว่า “แตะต้องไม่ได้”
นายกรัฐมนตรีควรจะต้องมีทัศนคติที่ดีกับ “เสรีภาพในการวิพากษ์วิจารณ์”
การเมืองระบบไหนกันที่ “ดำเนินคดี” ผู้วิจารณ์การทำงานของรัฐบาลและนายกรัฐมนตรี !?!!