เหยี่ยวถลาลม : คุณเหิม (3)

เคยบอกตั้งแต่แรกแล้วว่า อย่าได้เหนียมอายที่จะประกาศตัวว่า “พลังประชารัฐ” ที่เกิดขึ้นกลางวงรัฐบาลนี้มีภารกิจรับไม้ต่อจาก “คสช.” เพื่อสนับสนุนให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีต่อไป

ส่วน พล.อ.ประยุทธ์ก็ควรจะเปิดตัวเปิดใจไปตามตรงเลยว่า หลังเลือกตั้ง 2562 ยังอยากจะเป็นนายกรัฐมนตรี เพื่อสืบสานยุทธศาสตร์ 20 ปีต่อไป เพื่อชาติเพื่อประชาชนจวบจนลมหายใจสุดท้าย

การไม่พูดตรงๆ ไม่ทำตรงๆ ชวนให้ผู้คนจับจ้อง จับผิด สงสัยในความเคลื่อนไหวว่า ที่กระทำกันลงไปนั้น ทับซ้อน ซ่อนเงื่อน เอารัดเอาเปรียบคู่แข่งมโหฬาร และผิดกฎหมายหรือไม่

ที่คมที่สุด จาก สมชัย ศรีสุทธิยากร อดีต กกต. ผู้มีประสบการณ์ในฐานะผู้บังคับใช้กฎหมาย ได้ตั้งคำถามเพื่อตรวจสอบและถ่วงดุล “การใช้อำนาจ”

Advertisement

“โต๊ะจีน” ในนาม นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีพาณิชย์ ในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ 4 โต๊ะ 12 ล้านบาท ต้องตรวจสอบว่าได้ใช้ตำแหน่งหน้าที่ไปเรี่ยไรหรือไม่ ซึ่งถ้า “บริจาคเอง” กฎหมายก็ให้บริจาคเข้าพรรคได้ไม่เกิน 10 ล้านบาท

“โต๊ะจีน” ในนาม นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีอุตสาหกรรม ในฐานะหัวหน้าพรรค 1 โต๊ะ 3 ล้านบาท ตรวจสอบได้ไม่ยาก แต่ถ้ามาจากไปเรี่ยไรก็จะผิดในฐานะ “ใช้ตำแหน่งหน้าที่รัฐมนตรีอุตสาหกรรมไปเรี่ยไรเงิน”

“โต๊ะจีน” ของ ดร.เอก นายณพพงศ์ ธีระวร ที่ปรึกษารัฐมนตรีพาณิชย์และรัฐมนตรีอุตสาหกรรม 24 โต๊ะ 72 ล้านบาท มีความลึกลับซับซ้อนเพราะเงินบริจาคสูงมากที่สุด ก็ต้องพิสูจน์ว่า เกิดจากการเรี่ยไรหรือไม่

Advertisement

“โต๊ะจีน” กรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) 3 โต๊ะ 9 ล้านบาท

7 ใน 26 คน ที่เป็น กก.บห.มีฐานะเป็น “ข้าราชการการเมือง”

ต้องตรวจสอบว่า 7 คนนั้นใช้ตำแหน่งหน้าที่ไปชักชวนเรี่ยไรหรือไม่ กฎหมายพาดพิงถึง กก.บห.หรือไม่ เนื่องจากมาตรา 127 กำหนดโทษว่า ใครทำผิดมาตรา 73 ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 2-10 ปี หรือปรับตั้งแต่ 4 หมื่นบาท ถึง 2 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 5 ปี

ส่วน “มาตรา 73” แห่ง พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมืองนั้น ความว่า

“ห้ามมิให้ข้าราชการการเมืองใช้สถานะหรือตำแหน่งหน้าที่เรี่ยไร หรือชักชวนให้มีการบริจาคให้พรรคการเมืองหรือผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส.”

“สุจริตและเที่ยงธรรม” คือหน้าที่-ที่ท้าทาย “กกต.” !?!!

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image