เหยี่ยวถลาลม : ขอให้โชคดี

ในที่สุดก็ถึงเวลาที่จะต้องเปิดเผยโฉมหน้า ตัวตน คนที่พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) สนับสนุนให้นั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรีคนต่อไป ภายหลังการเลือกตั้ง

ไม่ได้เหนือความคาดหมาย ไม่ได้ผิดเพี้ยนไปจากที่ทุกคนคาดเดา

สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค พปชร. ว่า มีมติเป็นเอกฉันท์นำเสนอ 3 รายชื่อนายกรัฐมนตรีของพรรค คือ 1.พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา 2.นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรค และ 3.นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ พร้อมกับประกาศอิสรภาพว่า “ไม่ใช่พรรคทหาร”

ขอให้เข้าใจตามนั้นด้วย !

Advertisement

คุณสนธิรัตน์ยังประกาศต่อไปอีกว่า พรรคพลังประชารัฐไม่ใช่พรรคของรัฐบาล ไม่ได้เกิดขึ้นเพื่อสืบทอดอำนาจ และไม่เกี่ยวข้องกับ “คสช.”

อย่าได้วิจารณ์กันผิดๆ !

ฝั่ง พล.อ.ประยุทธ์ยังช่วยยืนยันอีกแรงว่า ชื่อ “พรรคพลังประชารัฐ” ที่พ้องกับนโยบายรัฐนั้นไม่เกี่ยวกัน และพร้อมกันนั้นก็ป้ายสีคู่แข่งทางการเมืองทันทีว่า “อย่างพรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) นั้นสื่อก็รู้ว่าตั้งมาอย่างไร และตัวย่อมาจากอะไร”

Advertisement

พูดแบบนี้ในบรรยากาศการเมืองที่มี “เสรี” มากขึ้นก่อนการเลือกตั้ง ย่อมต้องมีการเอาคืน

ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ประธานคณะกรรมการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง พรรคไทยรักษาชาติ สวนกลับทันควันว่า

“ประเด็นไม่ใช่เรื่องชื่อพรรค แต่เป็นเรื่องการสืบทอดอำนาจของรัฐบาลที่มาจากรัฐประหาร ที่กำหนดกติกาเอง แกนนำ พปชร. ถึงกับประกาศว่า กติกานี้ร่างมาเพื่อพวกเรา มีรัฐมนตรีเป็นกรรมการบริหารพรรค รัฐบาลมีอำนาจเต็มในช่วงเลือกตั้ง ส่วน ทษช.ถูกโยงเข้ากับตัวบุคคล ทั้งที่ไม่ได้ใช้อำนาจรัฐเอารัดเอาเปรียบใครนั้นเป็นพรรคที่เกิดขึ้นมาเพื่อต่อต้านการสืบทอดอำนาจโดยตรง”

สมรภูมิการเมืองไม่เหมือนกับสนามรบตรงที่ ไม่มีและไม่ใช้ “ปืน” เข้าบังคับ ขู่เข็ญ คุกคาม ทำลาย

จึงไม่เป็นการก่ออาชญากรรม !

อย่างมากก็แค่ใช้ “ปาก” พ่นพิษด้วยการโกหกมดเท็จ ใส่ร้าย ป้ายสี เอาดีใส่ตัว เอาความชั่วโยนให้คนอื่นดังเช่นวิวาทะระหว่าง “ตู่-ประยุทธ์” กับ “ตู่-เต้น ณัฐวุฒิ”

เส้นทางสายนี้ บรรยากาศแบบนี้ “นักรัฐประหาร” หลายคนในประวัติศาสตร์ก็เคยย่ำเดินสัมผัสมาแล้ว

คงมีแต่ผู้นำรัฐประหารรุ่นน้อง ที่กำลังนึกฝันว่าจะฝ่าข้ามไปได้อย่างสดใสสวยงาม !?!!

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image