พอได้ชื่อว่า “การเมือง” หลายคนได้ยินได้ฟังก็รู้สึกผิดหวัง เบื่อหน่ายกับความซ้ำซาก จำเจ
เลือกตั้ง – รัฐประหาร – ร่างรัฐธรรมนูญใหม่ – จัดให้มีการเลือกตั้ง – รัฐประหาร – เขียนกติกาใหม่ – ให้มีการเลือกตั้ง – รัฐประหาร – เลือกตั้ง
เป็นไปได้อย่างไรที่กว่าครึ่งศตวรรษ ประเทศของเรายังวนเวียนอยู่ในวงจรอุบาทว์นี้ไม่สิ้นสุด
หลังรัฐประหาร 22 พ.ค.2557 แม้หัวหน้า คสช.จะอวดโอ่ว่า ไม่ได้ใช้ความรุนแรงคุกคามทำลายใคร แต่นั่นก็ไม่ใช่ “อิทธิพลสว่าง”
จึงไม่แปลกที่วันนี้จะได้ยินคำว่า “อยากจะพาตำรวจกลับบ้าน”
ตำรวจหลงทางไปไหน ?
พล.ต.ต.สุพิศาล ภักดีนฤนาถ อดีตผู้บังคับการตำรวจกองปราบปราม ตำรวจน้ำดีคนหนึ่งที่เสนอตัวเข้าสู่การคัดเลือก จนได้เป็น “ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ” ของพรรคอนาคตใหม่ (อนค.) ผู้ซึ่งอยากจะพาตำรวจกลับบ้านอธิบายว่า “ตำรวจต้องแยกจากกองทัพ มาสู่อ้อมกอดของประชาชน”
แม้แต่ “ตำรวจ” ก็ยังตกอยู่ใน “อิทธิพลมืด” ?
เหตุใดถนนทุกสายมุ่งไปสู่บ้านหลังนั้น
“ทหาร” ก็ควรจะหยุดเพ่นพ่านในกิจอันไม่ใช่แล้วกลับเข้ากรมกอง
ผู้มีหน้าที่อำนวยความยุติธรรม เจ้าพนักงานในระบบยุติธรรมทุกส่วนทุกฝ่าย ต้องกลับที่ตั้ง ไปอยู่กับ “หลักกฎหมาย” และคุณธรรม
ไม่ใช่ “หลักจากคนสั่ง” !
การเมืองไทยจะล้าหลัง ถ่อยต่ำ ซ้ำซาก จำเจ วนไปวนมาอยู่อย่างนี้ต่อไปอีก 100 ปี ถ้าองค์กรตำรวจและ ทหาร ยอมนอนทอดตัว เป็น “สะพาน” ให้ “นาย” รุ่นแล้วรุ่นเล่าเหยียบย่ำขึ้นไปเสวยอำนาจทางการเมือง
แต่การเมืองไทยจะเปลี่ยนไป !!
ถ้าทุกคน ทุกฝ่าย มี “วินัย” และ “ทำหน้าที่” ของตัวเองอย่างถูกต้อง ซื่อสัตย์ ซื่อตรง โปร่งใส ไม่ใช้ “กลไก” ใดๆ ไปเอารัดเอาเปรียบ ไม่ใช้กลไกรัฐโดยเฉพาะ ทหาร ตำรวจ ซึ่งมีปืน มีกฎหมายอยู่ในมือไปคุกคาม ข่มขู่ผู้อื่น คู่แข่ง หรือฝ่ายตรงข้าม
การเมืองไทยจะเปลี่ยนไป ถ้าในการเลือกตั้งครั้งนี้ทุกคนทุกฝ่ายทุกพรรคร่วมกันขจัดอิทธิพลอำนาจมืด ที่หยาบช้า ฉ้อฉล คดโกง แล้วร่วมกันสร้าง “อิทธิพลสว่าง” ด้วยสติปัญญาและความสามารถเพื่อนำพาประเทศให้ก้าวไปข้างหน้าในเวทีโลกอย่างสง่าผ่าเผย
ถ้าการเลือกตั้งครั้งนี้ไม่สกปรก เหมือนการเลือกตั้ง 26 กุมภาพันธ์ 2500 น่าเชื่อว่า “การเมืองไทยจะเปลี่ยนไป” !?!!