เหยี่ยวถลาลม : 1เสียง1จินตนาการ

บัดนี้พรรคการเมืองไทยแบ่งออกเป็น 2 ฝ่าย

พรรคการเมืองจะมีจำนวนมากน้อยเท่าใดก็ได้

การคิด การเคลื่อนไหวเผยแพร่แนวคิดอุดมการณ์ของทุกพรรคการเมืองทำได้โดยเปิดเผย ทุกคนตรวจสอบได้

ความแตกต่างทางความคิด การพูดจริงบ้าง คุยโม้บ้าง หรือดีแต่พูด ไม่เคยทำ กระทั่งคุยฟุ้งในเรื่องที่ทำไม่ได้ก็เป็นเรื่องปกติ

Advertisement

ที่จะผิดปกติก็คือ การถูกปิดปาก ตรวจสอบไม่ได้ หรือระบบตรวจสอบถูกแทรกแซงจนไร้ความสามารถ

แต่ประชาธิปไตยก็มี “ทางออก” นั่นคือทุกๆ 4 ปีจะมี “การเลือกตั้ง” เพื่อให้คิดใหม่ ตัดสินใจใหม่ ให้เลือกกันใหม่ว่าต้องการแบบไหน รักชอบจะไปทางไหน สุดแต่จะคิด จะเชื่อ จะฝัน และจะเลือก

24 มีนาคมนี้ก็เช่นกัน

Advertisement

ปีกหนึ่ง นำโดย “พลังประชารัฐ” ที่ก่อตัวจากผู้สนับสนุน ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีที่เป็นหัวหน้าคณะรัฐประหาร เมื่อ พ.ศ.2557 มีพันธมิตร อาทิ รวมพลังประชาชาติไทย ภูมิใจไทย ชาติพัฒนา ชาติไทยพัฒนา

ส่วนอีกปีกหนึ่ง นำโดย “เพื่อไทย” เพื่อชาติ อนาคตใหม่ ไทยรักษาไทย เสรีรวมไทย

ขณะที่ “ประชาธิปัตย์” ยังกั๊กๆ กล้าๆ กลัวๆ

ผู้เลือกคนหนึ่งคิดอะไร คิดอย่างไร อยากเห็นสังคมไทยเป็นอย่างไร ไว้เนื้อเชื่อใจ วางใจใคร นิยมพรรคการเมืองใดก็เลือกพรรคนั้น

ชอบท่วงท่าลีลา “ประยุทธ์” นิยมแนวคิดฝั่ง คสช.กับพวกที่ร่วมแสดงฝีไม้ลายมือบริหารประเทศมาเกือบ 5 ปี ก็เลือกสาย “พลังประชารัฐ” กับพรรคพันธมิตรทั้งหลายได้ตามใจชอบ

แต่ถ้าไม่ชอบทางนั้น

ยังมี “เพื่อไทย” กับพรรคสายพันธุ์เดียวกันที่แตกตัวออกไป

ยังมี “อนาคตใหม่” ที่แตกต่างอย่างแหลมคม

กล่าวสำหรับ “พลังประชารัฐ” นั้นเป็นพรรคการเมืองใหม่ที่ซุ่มซ้อมวางแผนกันมานาน แต่จัดตั้งและเติบโตในชั่วข้ามคืนด้วยพลังดูดระห่ำ

ได้โอกาสและได้เปรียบจาก 4 แกนนำที่นั่งเป็นรัฐมนตรีอยู่ในรัฐบาลจนเกือบนาทีสุดท้าย

กระทั่งการเสนอชื่อ “หัวหน้า คสช.” และ “นายกรัฐมนตรี” คนปัจจุบันในบัญชีรายชื่อ “นายกรัฐมนตรี” ของพรรคพลังประชารัฐนั้นก็ทายล่วงหน้ากันไว้ตั้งแต่ได้รัฐธรรมนูญใหม่ที่ให้มี “250” ส.ว.จากการแต่งตั้ง

จะต้องทำอย่างไร เมื่อ “ผู้มากบารมี” อยากจะไปต่อตามที่ฝันเอาไว้ในยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี

คำตอบของประเทศชาติอยู่ที่ทุกคน

ถ้าไม่ถูกปล้น “1 คน 1 เสียง” ชี้ชะตา !?!!

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image