ถามกันสนั่นไปทั้งเมืองว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็น “เจ้าหน้าที่รัฐ” และ “ขาดคุณสมบัติ” หรือไม่ที่จะเป็น 1 ใน แคนดิเดตเก้าอี้ “นายกรัฐมนตรี” หลังเลือกตั้ง
เรื่องนี้ต้องแบ่งเป็น 2 แนวทาง
แนวทางที่ 1 เห็นว่า “บิ๊กตู่” อุตส่าห์เปิดหน้าขึ้นเวทีอย่างนี้แล้ว ควรยินดีต้อนรับอดีตหัวหน้าคณะรัฐประหารที่วางปืนแล้วหันมาเดินตามเกมประชาธิปไตย ถึงแม้จะเป็นเกมที่พวกเดียวกันเขียนกติกาเอง ลงเล่นเอง เอารัดเอาเปรียบกันตั้งแต่ต้น ทุกคนทุกฝ่ายก็ควร “ยอมๆ ไป”
แต่อีกฝ่ายก็ว่า ถ้าไม่รู้จักใช้คำว่า “ไม่” มนุษย์ก็จะย่ำอยู่กับที่
จึงมีแนวทางที่ 2 ที่เห็นว่า ถ้าคิดจะไปต่อ “บิ๊กตู่” ควรจะสง่างาม!
ในชั้นแรก แค่คุณสมบัติ “บิ๊กตู่” ก็ไม่ผ่านเพราะท่านผู้นำยังเป็น “เจ้าหน้าที่รัฐ”
ถ้าแน่จริง มั่นใจจริงในสิ่งที่คิดที่ทำมาตลอด 5 ปี “บิ๊กตู่” ก็ควรจะ “ลาออก” จากความเป็น “เจ้าหน้าที่รัฐ” เสียก่อน แล้วจึงเซ็นหนังสือยินยอมให้ “พรรคพลังประชารัฐ” เสนอชื่อ
แต่นักกฎหมายจอมพลิกแพลง วิษณุ เครืองาม ก็หาทางออกให้ท่านผู้นำได้เสมอ
“วิษณุ” ประกาศต่อสาธารณะว่า “พล.อ.ประยุทธ์ไม่ได้เป็นเจ้าหน้าที่รัฐ”
เท่านั้นเอง, ประเด็น พล.อ.ประยุทธ์เป็น “เจ้าหน้าที่รัฐ” หรือไม่ เหมือนประกายไฟลามทุ่ง!
พล.อ.ประยุทธ์เป็นหัวหน้าคณะรัฐประหาร เป็น “รัฏฐาธิปัตย์” มีอำนาจเหนืออำนาจทั้งปวง ผู้ใดก็ไม่อาจละเมิด ใครก็ขัดขวาง (ปืน) ไม่ได้
ปฏิวัติแล้วประกาศตั้งตนเป็นนายกรัฐมนตรี!
มีสถานะเป็นทั้ง “หัวหน้า คสช.” เป็น “นายกรัฐมนตรี” เป็นหัวหน้าฝ่ายบริหาร เป็นผู้บังคับบัญชาของ “ข้าราชการการเมือง” เป็นนายของ “ข้าราชการประจำ” ใช้อำนาจแต่งตั้งฝ่ายนิติบัญญัติ ใช้อำนาจอนุมัติตามกฎหมาย ตามระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน ใช้อำนาจตามมาตรา 44 ใช้อำนาจแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการมาตลอด 4-5 ปี
“ประยุทธ์” คนนั้นเป็นใคร
เป็นเจ้าหน้าที่รัฐหรือไม่
ถ้าไม่ใช่เจ้าหน้าที่รัฐ หัวหน้าคณะปฏิวัติ นายกรัฐมนตรี หัวหน้าฝ่ายบริหารที่ใช้อำนาจบริหารสั่งการมาทั้งหมดนั้นเป็น ผู้สั่งมีสถานะเป็นอะไร เป็นบุคคลนอกกฎหมาย นอกระบบ หรือมาจากนอกโลก
กระทั่งล่าสุดยังมีประกาศในเว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา “นายกรัฐมนตรี” และ “หัวหน้า คสช.” มีคำสั่งออกมา 3 ฉบับรวดเกี่ยวกับ “สำนักงานขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ยุทธศาสตร์ชาติ และการสร้างความสามัคคีปรองดอง”
“ประยุทธ์ จันทร์โอชา” สับสนหรือไม่ ใครคือคุณ !?!!
