เพ้อได้ก็เดี๋ยวเดียว

อย่าได้ตื่นตระหนกวิตกกันไปเลยว่าจะป่วนจะวุ่นจนเป็นอุปสรรคกับการจัดการเลือกตั้ง
ทุกอย่างต้องดำเนินไป

ความขัดแย้ง ข้อถกเถียง คำตำหนิ เหยียดหยาม ประณาม วิพากษ์วิจารณ์ทั้งด้วยสุภาพและหยาบคาย เป็นภาวะปกติในสังคมเปิด

การแจ้งความ ร้องทุกข์ กล่าวโทษให้ดำเนินคดีก็เป็น “ความปกติ” ที่ฝ่ายซึ่งรู้สึกว่า “ถูกกระทำ” จะต้องใช้สิทธิปกป้องหรือตอบโต้ตามกฎหมาย

แต่ที่อยากจะให้มีสติและระมัดระวังคือ

Advertisement

อย่าใช้เจ้าหน้าที่รัฐเป็น “เครื่องมือ” กลั่นแกล้ง คุกคาม หรือทำลายคู่แข่งขันทางการเมือง

อย่ายกเอา “สถาบัน” หรือองค์กรที่ตัวเองสังกัดอยู่มาข่มขู่คุกคามผู้อื่น

ไม่มีใครวิเศษกว่าใคร

Advertisement

อย่าทำตัวเป็นเด็กเกเรที่ใครมาตำหนิสถาบันเข้าหน่อยก็ท้าตีท้าต่อย หรือระดมพลยกพวกเข้าตะลุมบอนตีรันฟันแทงยิงกัน

นั่นเนื้อสมองมีน้อย !

นั่นต้องนำไปปรับทัศนคติให้เรียนรู้เรื่องชีวิตใหม่

นั่นต้องนำตัวไปบำเพ็ญประโยชน์สังคมให้รู้คุณค่าของการมี “ลมหายใจ”

ประเทศชาติก็เหมือนชีวิตมนุษย์ ประกอบไปด้วยอวัยวะจำเป็นที่ต้องมีครบสมบูรณ์ จึงจะไม่ “ทุพพลภาพ”

ทุกสถาบันทุกอาชีพในแต่ละสังคม เกิดขึ้นจากความจำเป็นที่เหมือนกันบ้าง ต่างกันบ้าง

องค์กรหรือสถาบันไม่มีความรู้สึก ไม่ได้มีชีวิต

แต่เมื่อตั้งขึ้นแล้วก็มีบทบาทและหน้าที่ ซึ่งต้องอาศัย “คน” ลงมือทำ

“คน” หรือบุคลากรขององค์กรรุ่นแล้วรุ่นเล่าสืบเนื่องกันไปเป็น “ผู้สร้าง” ความมีชีวิตให้กับองค์กร จนบางทีก็ยึดมั่นถือมั่น ยึดดีถือดี แล้วก็พากันเคลิ้มหลงทะนงตนว่าเหนือกว่าใคร

ไม่ว่าจะเป็น “ชื่อเสียง” หรือ “ชื่อเสีย” ของสถาบัน “คน” ทั้งนั้นที่เป็น “ผู้สร้าง”

ภาพลักษณ์ของสถาบันเป็น “กระจกสะท้อน” บุคลากรในยุคสมัยหนึ่งๆ
คนย่อมหมุนเวียนผลัดเปลี่ยนกันไป จากรุ่นสู่รุ่น แต่ความเป็นสถาบันยังคงอยู่

ถึงจะหลงแค่ไหนก็ตาม ในที่สุดก็จะพบว่า ไม่มีบุคคลใดที่เป็นเจ้าข้าวเจ้าของสถาบัน

คนหนึ่งๆ ในสถาบัน ตั้งแต่คนเล็กสุดจนถึงใหญ่สุด ก็แค่จุดเล็กๆ เหมือนกัน

คนผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันมาทำหน้าที่ในห้วงเวลาหนึ่ง แล้วก็จากไป

คนทำผิดได้ ประพฤติดีได้ ประพฤติเสื่อมทรามได้

ไม่เกี่ยวกับตัวสถาบันที่ยังคงมี “บทบาท” และ “หน้าที่” ต่อสังคมเสมอ !?!!

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image