เหยี่ยวถลาลม : อย่าฆ่าเด็กอีกเลย

ค.ศ.1973 ตรงกับ พ.ศ.2516 เป็นปีที่นักเรียน นิสิต นักศึกษารวมตัวกันเป็นกลุ่มก้อนแล้วโค่นล้ม “3 ทรราช” ถนอม-ณรงค์-ประภาส ได้สำเร็จ

เมื่อ “ลั่นกระสุนจริง” มีคนเจ็บมีคนตาย ภาพพจน์กองทัพกับความเป็นทหารก็เสียหายมาก !

เหตุการณ์นั้นเรียกว่า “14 ตุลา มหาวิปโยค”

พลังของนักเรียน นิสิต นักศึกษาได้รับการสนับสนุนอย่างอบอุ่นเพราะสังคมเชื่อว่าเป็น “พลังบริสุทธิ์” มีอิสระ ไม่แอบแฝง ไม่รับใช้กลุ่มผลประโยชน์และกลุ่มการเมืองใดๆ

Advertisement

แต่ชัยชนะจาก “14ตุลา16” ทำให้ผู้เป็นใหญ่คิดหนัก คิดมาก และคิดซับซ้อน

เมื่อขบวนการนักศึกษาไปสร้าง “แนวร่วม” กับชนชั้นผู้ยากไร้ กรรมกรกับชาวไร่ชาวนา แล้วเรียกว่า “3 ประสาน” ฝ่ายผู้เป็นใหญ่ก็สร้าง “3 ประสาน” ในฝั่งตรงกันข้ามขึ้นมาบ้าง ประกอบด้วย กลุ่มนวพล ลูกเสือชาวบ้าน พร้อมกับจัดตั้งนักเรียนอาชีวะเป็นหัวหมู่ทะลวงฟันทะลวงระเบิด เรียกว่า “กลุ่มกระทิงแดง”

ผู้เป็นใหญ่ใช้วิทยุยานเกราะปลุกระดมโฆษณาชวนเชื่อให้ผู้คนเชื่อว่า “ขบวนการนักศึกษา” ไม่เป็นอิสระ แอบแฝง ซ่อนเร้นอำพราง มุ่งทำลายสถาบันสำคัญของชาติ และเป็นแนวร่วมของคอมมิวนิสต์

Advertisement

ภิกษุชื่อดังรูปหนึ่งถึงกับประกาศ “ฆ่าคอมมิวนิสต์ไม่บาป”!

ลูกเสือชาวบ้าน นวพล และกระทิงแดงปฏิบัติการ “ขวาพิฆาตซ้าย” ไม่ผิดกฎหมาย เจ้าหน้าที่รัฐไม่เอาความ

ค.ศ.1975 ตรงกับ พ.ศ.2518

“ไซง่อนแตก” สิ้นสุดสงครามเวียดนาม อเมริกาหนีกลับบ้าน

ในปีเดียวกัน กัมพูชาแตก ลาวก็แตกตาม

ปีถัดมา ค.ศ.1976 ตรงกับ พ.ศ.2519 เงื่อนไขสุกงอม

ฝ่ายผู้เป็นใหญ่ไปหลอกทหารจากแนวชายแดนว่า “เวียดนาม” ซ่องสุมกำลังคนและอาวุธในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์

“6 ตุลา 2519” เป็นวันล้อมฆ่า !

เหยื่อส่วนใหญ่เป็นเด็ก เยาวชน คนหนุ่มสาว กำลังสำคัญที่เป็นอนาคตของชาติ

อย่าลืมเรียนประวัติศาสตร์

ไม่ใช่เรียนรู้เพื่อปลุกความคลั่งชาติ อวดโอ่อัตลักษณ์คุณวิเศษเหนือชนชาติใด

แต่เรียนประวัติศาสตร์เพื่อเก็บรับ “ข้อดี” ที่มีบางด้านเป็นศักดิ์เป็นศรีเป็นความภาคภูมิใจกับเรียนเพื่อจะได้รู้ด้านที่เป็นความบกพร่อง จะได้ไม่กระทำผิดซ้ำ หรือประวัติศาสตร์จะไม่ซ้ำรอยในทางร้าย

ที่ใช้คำว่า “อย่าฆ่าเด็กอีกเลย” นั้นก็เพราะว่าในประวัติศาสตร์ ผู้ที่สุมหัวคิดส่วนมากเป็น “ผู้ใหญ่” ทั้งด้วยอายุ ยศ สถานะ และตำแหน่ง !?!!

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image