ในวงเสวนาซึ่งพรรคอนาคตใหม่จัดขึ้นที่ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล อดีตรองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายเศรษฐกิจ (คสช.ชุดแรก) นำเสนอประเด็นร้อนฉ่าของรัฐบาลชุดปัจจุบันว่า “วินัยการคลังเหลวแหลกมาก ใช้จ่ายไม่มีประสิทธิภาพ ซื้อได้อย่างไรเรือดำน้ำ และในเวลาที่ประเทศขาดดุลหลายปี รัฐมนตรีคลังกลับมาแจกเงินให้คนท่องเที่ยว”
ส่วน “ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ เมื่อครั้งที่ไปเยี่ยมผู้ประสบภัยน้ำท่วมก็ได้กล่าวปราศรัยกับประชาชนชาวจังหวัดมหาสารคามว่า ถ้าให้งบพัฒนาจังหวัดแม่น้ำชี จังหวัดละ 600 ล้านบาท ซึ่งมีอยู่ 9 จังหวัด รวมกันก็ 5,400 ล้าน เท่ากับ “รถไฟฟ้าสายสีชมพู” สายเดียวใน กทม. คือแคราย-มีนบุรี
ทันใดนั้น ที่ “ธนาธร” พูด, กลายเป็นคลิปถล่มว่า “แพร่เชื้อความขัดแย้งระหว่างอีสานกับ กทม.”
ส่วนที่ ม.ร.ว.ปรีดิยาธรสับตรงประเด็นไม่เห็นมีใครว่าอะไร
นั่นแสดงว่า “ธนาธร” เป็นอรุณรุ่งทางการเมืองขณะที่ “ปรีดิยาธร” ถูกมองว่าคล้ายตะวันเคลื่อนคล้อยใกล้จะตกดิน !
แต่การหา “เป้า” เพื่อโจมตีกันนี้ก็ต้องถือเป็นความปกติ
ไม่ใช่ภัยพิบัติทางการเมือง !
เว้นแต่ “ล้ำเส้น” ละเมิดด้วยการใส่ร้าย ป้ายสี ใช้ภาษาหยาบถ่อยสกปรกลามกจกเปรต นั่นก็ควรแก่การปกป้องชื่อเสียงศักดิ์ศรีตามควร
ที่จริงนายธนาธร กับ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร ไม่ได้กล่าวอะไรมากไปกว่าการสะท้อนถึงการบริหารจัดสรรทรัพยากรที่ไม่เหมาะสม ซึ่งเกิดจากการรวมศูนย์อำนาจ การไม่กระจายไปของโอกาสและความเจริญ อันเป็นเหตุนำไปสู่ความเหลื่อมล้ำ ไม่เท่าเทียม
ม.ร.ว.ปรีดิยาธรสะท้อนเรื่องซื้อเรือดำน้ำเพื่อบอกว่า การใช้อำนาจตัดสินใจซื้อหรือไม่ซื้ออะไร หรือซื้ออะไรก่อน ซื้ออะไรหลังนั้น ควรจะดู “ภาพรวม” ของประเทศด้วย
ส่วนที่ “ธนาธร” ยกเอารถไฟฟ้า 1 สายใน กทม.มาเปรียบเทียบนั้นก็ไม่ใช่การสร้างความขัดแย้งระหว่างคนอีสานกับคน กทม.
แต่คือ การจุดความสว่างจ้าทางปัญญา
ให้ขบคิดถึง “ปัญหา” อันเกิดจากการไม่กระจายอำนาจ ไม่กระจายความเจริญ ไม่กระจายความสุข
นั่นคือ โฉมหน้าแท้จริงของสังคมไทยที่มากไปด้วยความเหลื่อมล้ำ ไม่เท่าเทียม ขัดสน ยากไร้ ขาดโอกาสอันนำไปสู่ภาวะที่เรียกว่า รวยกระจุก-จนกระจาย !?!!
