เหยี่ยวถลาลม : อาญาและการเมือง

เข้าใจกันว่า “แฟลชม็อบ” นั้นเป็นผลมาจากเหตุที่ “มติเสียงข้างมาก” ของ กกต.ยื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญยุบพรรคอนาคตใหม่ อันเนื่องมาจาก นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ให้พรรคกู้ยืมเงิน 191 ล้านบาท

การเมืองไทยช่างน่าสังเวช วกวนอยู่ในวงจรเดิมไม่ได้เปลี่ยนแปลง

เมื่อมีอำนาจรัฐก็จะหาช่องทางทำลายฝ่ายตรงข้าม

จาก “แฟลชม็อบ” ที่ออกแนวไม่หวาดหวั่นพรั่นพรึงกับอำนาจรัฐ ในเดือนหน้ายังจะโยงไปสู่กิจกรรม “วิ่งไล่ลุง” ซึ่ง พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ.ไม่ได้กล่าวระบุชัดถ้อยชัดคำ แต่ก็ว่า “บางกลุ่มวิ่งแบบมีนัยยะแอบแฝง” พร้อมกับขยายความ “วิกฤตในปัจจุบันเรียกว่าเป็น Proxy crisis มีคนอยู่เบื้องหลัง ที่ไม่ออกมาสู้ เพราะสู้กับรัฐโดยตรงไม่ได้ จึงต้องมีตัวแทน”

Advertisement

จาก “แฟลชม็อบ-วิ่งไล่ลุง” ถูกตีความเป็น Proxy crisis โดยปริยาย

ถามว่า วันนี้มี “วิกฤตการณ์” นั้นจริง หรือว่าคนไทยกำลังจะอดตาย

วิกฤตการณ์นั้นเกิดขึ้นจากฝีมือใคร

กล่าวตามตรงในประวัติศาสตร์การเมืองไทย คนมีปากไม่เคยมีชัยเหนือคนมีปืน ศึกใหญ่ทุกครั้งเกิดจากขั้วอำนาจ และคนมีปืน มีพวกมากกว่า มีความเข้มแข็งกว่า และมีผู้หนุนหลังที่แข็งแรงกว่าเท่านั้น ที่เป็นฝ่ายชนะ

ค่านิยมในสังคมไทยจึงนบนอบผู้มี “อำนาจเหนือกว่า”

สะเออะเรียกกันไปอย่างนั้นเองว่า “วิกฤตการณ์ผ่านตัวแทน”

Proxy Crisis ไม่ได้มีอยู่จริง หรือหากจะมีใครชักใยอยู่ข้างหลัง แต่ถ้าคนนั้นมีแค่ “ปาก” กับ “สองมือเปล่า” ก็ไม่มีทางจะชนะ!

กล่าวให้เป็นธรรม “แฟลชม็อบ” กับ “วิ่งไล่ลุง” ไม่ได้มีนัยยะซ่อนเร้นอำพรางเฉกเช่นขั้นตอนการสืบทอดอำนาจของ คสช.

คนรุ่นใหม่มองเห็น “ความอยุติธรรม” อันน่าสมเพชที่คนรุ่นลุงทำกัน จึงทนไม่ไหว

กิจกรรม “แฟลชม็อบ” และ “วิ่งไล่ลุง” ประกาศตัวเปิดเผยว่าวิ่งไล่ใคร และทำไมต้องไล่

ไม่น่ากังวลว่าจะเป็นภัยคุกคาม !

ในด้านอาญา ที่อันตรายต่อชีวิต คืออาชญากร เช่น สมคิดฆาตกรต่อเนื่อง

ส่วนในด้านการเมือง ที่ต้องจับตาอย่ากะพริบคือ คนมีอาวุธ

มีแต่คนมีอาวุธ ที่ใช้ความรุนแรงได้ ทำสงครามได้ คุกคามและเป็นภัยต่อรัฐบาล ต่อรัฐธรรมนูญและเป็นภัยต่อประชาธิปไตยอย่างแท้จริง !?!!

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image